วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ปลุกเสก

อันมวลสารที่ว่ามีค่า นำมาปั้นรูปพระ ก็หาได้มีคุณค่า และเป็นที่ต้องการใดๆ ไม่

หากแต่รูปพระนั้นเมื่อผ่านการปลุกเสก กลายเป็นสิ่งมงคล คนเคารพกราบไหว้บูชา มีฤทธิ์ ฉันใดก็ฉันนั้น

ความไม่รู้ของคน จึงเที่ยวไปหาผู้มีฤทธิ์เพื่อปลุกเสก กันจนขาขวิด ที่ไหนดี แม้จะลำบาก กันดาร วิบากสักขนาดไหน ก็บุกบั่นฝ่าไป เพราะอยากได้

หากแต่พระภูมีมิได้สอนเช่นนั้นเลย สิ่งที่ท่านบัญญัติจึงปรากฎเป็นธรรมหมวดแรก คือ "ตนพึ่งตน"

หลวงพ่อนิพนธ์จึงได้อรรถาธิบายให้ฟังว่า แท้จริงแล้วผู้ที่จะปลุกเสกให้เป็นผลนั่นก็คือ ตัวเรานั่นเอง

ของสิ่งใดที่ผู้ทำ เป็นผู้มีคุณธรรม นำสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา หากแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นจะมีฤทธิ์เดช ก็ต้องอาศัยการปลุกเสกโดยผู้รับ ผู้ใช้นั่นเอง จึงจะเกิดผล

ท่านจึงยกตัวอย่าง พระองค์เดียวกันนี้ สมัยอยุธยา ผู้ทำเขาให้ไว้ไปแขวนช่วยตน ผู้รับใช้ศรัทธาและประพฤติธรรม เพื่อให้พระนี้มีฤทธิ์คุ้มครองตน

พระองค์นี้ หากอยู่ในครอบครองของคนไม่ประพฤติธรรม ก็เสื่อมค่า ยิ่งคนรับมาตีราคาค่างวดก็ยิ่งแล้วไปใหญ่ คนในอดีตแขวนแล้วรอด แต่คนเช่ามาแขวนแล้วไม่รอด ตายทั้งที่แขวนนั่นแหละ ก็พระองค์เดียวกัน

สมุนไพรก็เช่นเดียวกัน แม้นผู้ทำจะทำให้ ก็อุปมามือที่มีข้างเดียว จะแกว่งไกวสักฉันใด ก็ไม่บังเกิดเสียงดังขึ้นมาได้

หากแต่เมื่อผู้รับ รับไปแล้ว ปฏิบัติธรรมคำสอนตามที่พระภูมีบัญญัติ ทำได้แค่ไหนก็ทำให้สมุนไพรมีฤทธิ์มากเท่านั้น อุปมาเหมือนมือที่จับมาร่วมตบกับมือของผู้ทำ มือเล็กเสียงก็เบา มือใหญ่เสียงยิ่งดังนั่นเอง

ก็เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีวิญญาณรับรู้การกระทำได้ จะออกฤทธิ์ออกเดชก็ตามแต่การกระทำของผู้ทำผู้ใช้

หลวงพ่อนิพนธ์จึงเล่าเรื่องในอดีตครั้งหนึ่งให้ฟังว่า

มีคนไข้ท่านหนึ่งเกิดวิกฤตฉับพลัน แต่สมุนไพรหมด โทรศัพท์มาหาท่าน ว่าควรทำอย่างไร

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ให้ใช้ศรัทธาที่ท่านมี ปลุกเสกน้ำมนต์ด้วยตัวเองแล้วทาน โดยการรินน้ำแก้วหนึ่งวางที่หิ้งพระ แล้วสวดมนต์เหมือนที่ทำที่ชมรม

ศรัทธาสร้างปาฏิหารย์ หลังจากดื่มน้ำมนต์ที่ตัวเขาทำขึ้นเองนั้น เขาก็ผ่านวิกฤติอันนั้นได้

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ผู้ที่รู้ในคำสอนและประพฤติธรรมตามพระภูมี จึงทำน้ำมนต์ให้แก่ตนเองได้โดยง่าย ไม่ต้องไปเร่หาจากที่ไหนเลย

ก็ใครจะมาช่วยปลุกเสกให้ตัวของตนได้ พระพุทธเจ้ายังไม่ทำเลย ท่านแค่สอนวิธี แล้วไปทำเอง

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า การมาทำตามธรรมวินัยของพระภูมี ในแต่ละสัปดาห์ที่ชมรม ก็คือมาปลุกเสกให้ตนนั่นเอง เมื่อทำครบแล้ว เวลารับสมุนไพร จึงสอนให้เทิดสมุนไพร ไหว้แม่ชีเมี้ยน ไหว้พระพุทธเจ้า แล้วอธิษฐาน นำสิ่งที่ทำได้ในวันนั้น ใช้แก่เจ้ากรรมนายเวร และปลุกเสกสมุนไพรเพื่อช่วยตน

ผลที่ปรากกฎ จึงเป็นไปตามสิ่งที่ได้ทำ นั่นจึงเป็นคำตอบที่มักได้ยินว่า เมื่อทานสมุนไพรแล้ว คาดการณ์ผลอะไรไม่ได้เลย ก็ด้วยเหตุที่มันขึ้นกับผู้ทานทำอย่างไร นั่นเอง

พระออกจากคนทำคนเดียวกัน ทำเหมือนกันทุกอย่าง คนหนึ่งแขวนรอด อีกคนแขวนเหมือนกันแต่ไม่รอด ก็ด้วยเหตุเดียวกันนี้เอง

พระจะดีสักฉันใด คนทำจะมีคุณธรรมสักเพียงไร คนถือไม่มีคุณสมบัติ พระนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย สมุนไพรก็เฉกเช่นเดียวกัน


ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44