วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คนมีเมตตา

หลวงพ่อนิพนธ์ได้เล่าเรื่องเมื่อครั้งถ้ำกระบอกให้ฟังว่า แม่ชีเมี้ยนท่านจะสอนให้พระโชว์นิสัยของพระพุทธเจ้า ให้โลกดู

หนึ่งในนิสัยที่แม่ชีเมี้ยนเน้นสงฆ์ทุกองค์นั่นคือ เรื่องพงศาวดาร ที่มาที่ไปของสิ่งของแต่ละสิ่ง

วันหนึ่ง แม่ชีเมี้ยนเดินนำหน้าพระ ผ่านช้อนสังกะสีคันหนึ่ง ที่ตกจมดินอยู่ ท่านจึงเก็บขึ้นมาแล้วนำไปทำความสะอาด จนสามารถกลับมาใช้ได้อีก

แม่ชีเมี้ยนจึงกล่าวกับพระว่า พระของพระพุทธเจ้ากระทำตนเป็นผู้ขาดแคลน แลเป็นผู้อยู่ในทุกข์ เมื่อญาติโยมเห็นท่านทุกข์จึงบริจากถวายสิ่งของเพื่อคลายทุกข์นั้น

ในเมื่อพระของพระพุทธเจ้า แสดงตนว่ามีเมตตา รับสิ่งของนั้นมาเพื่อคลายทุกข์ของตน สุขที่พระได้รับจะได้เป็นบุญตอบสนองไปหาโยมผู้บริจาคสิ่งของนั้นมา

ช้อนคันนี้ สภาพยังดีอยู่ พวกท่านใช้ยังไม่ทันไร ไม่หวงแหน แลไม่ดูแล จึงตกทิ้งลงบนดิน

โยมผู้ที่บริจาคถวายช้อนนี้มารอบุญจากพวกท่านจะได้บุญได้อย่างไร และจะเรียกได้ว่าพวกท่านมีเมตตาต่อโยมผู้นั้นได้อย่างไร

ด้วยคำสอนนี้เอง ที่หลวงพ่อนิพนธ์พยายามทำตนและสอนให้ลูกศิษย์ทำตาม พยายามที่จะรักษาของและใช้ของที่มีผู้นำมาให้มีคุณค่าที่สุด นานที่สุด เท่าที่จะทำได้

เราจึงเห็นศาลาไม้แบบ ที่เหลือทิ้งจากการก่อสร้าง ที่สำนักลพบุรี เมื่อปี ๓๐ เราจึงเห็นอาคารไม้ที่เป็นที่พักของผู้ป่วย อันได้มาจากการรื้อบ้านของโยมที่คลองเตย ที่ศรีสวัสดิ์ เราจึงเห็นศาลาขนมไทย ที่ใช้ไม้รื้อจากบ้านป้าอ๊า ลูกศิษย์ที่ติดตามมาจากถ้ำกระบอก มาเป็นศาลาขนมไทย เราจึงเห็นสิ่งของเก่าๆ ที่ถูกนำมาใช้อย่างมากมาย ที่ชมรมครักสุขภาพในปัจจุบัน

เมื่อเราเมตตาตนจนล้น แผ่ไปเมตตาผู้อื่น เพราะอยากให้สุขแก่เขา สิ่งของทุกชิ้นในชมรมคนรักสุขภาพ จึงมีความหมาย หมายถึงชีวิตของผู้ที่เป็นผู้ให้มา

เราจึงพอเข้าใจได้ว่า ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ทุกสิ่งทุกพื้นที่ในสถานที่นี้ เกี่ยวพันกับชีวิต เป็นที่ที่แสดงพฤติกรรมของตน แสดงความเชื่อ และศรัทธา ว่าเป็นฉันใด

หากขาดสติ ขาดเหตุผล วาจาที่พร่ำบอกว่าเราเป็นคนมีเมตตา หรือจะทำตนเป็นคนมีเมตตา ก็ไร้ค่า เพราะสิ่งที่กระทำ คือ การไม่รักษาของในชมรมคนรักสุขภาพ อันหมายถึงบุญที่ผู้ให้จะได้รับจากของนั้น ที่เฝ้ารออยู่ ก็ไม่มีทางเป็นจริงได้

ด้วยสัจธรรม ที่ว่า "ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น" เมื่อเรามีพฤติกรรมเช่นนั้น ย่อมหมายความว่าชีวิตผู้อื่นไร้ค่า เราจึงไม่รักษาของนั้น ผลก็คือ ชีวิตเราก็ไร้ค่า ไม่ควรคู่ที่จะให้สิงศักดิ์สิทธิ์ เกื้อกูลเช่นกัน

เราจึงคาดคิดว่า ด้วยเหตุนี้กระมัง หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักกล่าวว่า "แผ่นดินนี้ไม่ใช่วัด แต่ผลของการกระทำยิ่งกว่าวัดอีก"

เห็นปลาให้อาหาร เห็นหมาโซ คลุกข้าวให้ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่าดูช่างเป็นคนมีเมตตานัก แต่เห็นสิ่งของที่คนเอามาให้เพื่อช่วยชีวิตของเขา ไม่ดูแลก็หนักแล้ว กลับไม่รักษาด้วย บางทีถึงกลับทำลาย พร้อมหัวเราะขบขัน แลกล่าวช่างมัน ไม่ใช่ของเรา

นี่แหละเราท่านทำไปเพราะไม่รู้ซึ้งถึงผลของมัน ท้ายที่สุด ก็รำพึงรำพันว่า ทำไมคนอื่นเขารอด แล้วเราไม่รอด ก็พฤติกรรมของเรามันขัดกับว่าจาของเรานั่นเอง ของทุกสิ่งมีไว้ช่วยมนุษย์ ไม่ให้คุณค่าและรักษา การกระทำที่ช่วยสัตว์ทำให้ตาย หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่ามันจึงไร้ผล เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกนี้ คือ "มนุษย์"

สารพันสิ่งที่ชอบและทำไป ไม่ว่าโบสถ์ วิหาร ใดๆ ก็ตาม หากยังประโยชน์แก่มนุษย์ไม่ได้เลย สิ่งที่ทำไปก็ไร้ค่า จะหาผลที่ย้อมกลับมายังผู้ทำไม่ได้เลย อันเป็นเหตุที่พระภูมีไม่ส่งเสริมให้สร้างศาสนวัตถุ แต่เน้นให้สร้างนิสัย เพื่อนำไปให้สุขแก่เพื่อนมนุษย์ เป็นสุขที่จะย้อนมายังตนนั่นเอง

สร้างศาสนวัตถุ ตั้งแต่เล็กจนแก่ จึงช่วยให้หายปวดหัวยังไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง แต่อยากหายปวดหัว เห็นเก้าอี้ตากแดด ก็เก็บเข้าร่ม เห็นช้อนตก ก็ล้างเก็บเข้าที่ กลับช่วยปวดหัวได้ ... ก็เพราะสุขที่เจ้าของทรัพย์ได้ มันย้อนมาหาตนของเรานั่นเอง

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44