วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผลกับใคร


พระภูมีทรงให้ความหมายที่ชัดเจนว่า ศาสนาของท่านเป็น "ศาสนาทำ"

เพราะเล็งเห็นแลเข้าใจว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นของธรรมชาติ มีอยู่แล้ว คู่มากับโลก หาใช่ผู้ใดสร้างขึ้นไม่

สิ่งที่ท่านค้นพบ คือ สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ แลธรรมศักดิ์สิทธิ์ เป็นของคู่โลก

สิ่งที่มนุษย์ต้องทำ คือ ทำตนเป็นผู้มีคุณสมบัติ เพื่อรองรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่น

เมื่อพระพุทธเจ้าทำตนจนพ้นอาสวะ ไม่มีกิเลส จึงได้เป็นผู้ถือและใช้อำนาจธรรม

สมุนไพรก็เช่นกัน แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า ตราบใดที่ลูกยังทำตน ตั้งมั่นอยู่ในคำสัญญา คือ "ทำให้" ย่อมเป็นผู้มีคุณสมบัติ สามารถถือและใช้สมุนไพร เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ได้

สิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์พยายามสอน นั่นคือ ให้คนที่มา พยายามที่จะสร้างคุณสมบัติขึ้นในตัวตน เพื่อรองรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

เมื่อพิจารณาเหตุผลดังกล่าว จึงไม่แปลกที่ว่า ธรรมหมวดสมุนไพรของพระภูมี ที่ใช้จึงถูกบังคับด้วยหมวด "ตนพึ่งตน"

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า นี่จึงเป็นข้อจำกัดที่ว่า ทำไมจึงมีผู้นิยมน้อย เพราะแม้อยากจะช่วยสักฉันใด ก็ได้แค่พูด ให้เหตุและผล ปัจจัยชี้ขาดคือ ตัวของผู้ทำเอง ต้องทำ

และเมื่อเข้าใจ สิ่งหนึ่งที่เป็นคำสอนมาแต่ครั้งในอดีต นั่นคือ

การยอมเสียเพื่อใช้เจ้ากรรมนายเวร

คนที่มาถ้ำกระบอก เมื่อมาถึงจึงกราบแม่ชีเมี้ยน พระพุทธ แล้วกล่าวว่า "ข้าพเจ้า ยอมเสียรายได้จากการทำกินในวันนี้ ขออุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า"

แลในการนี้ เมื่อมีเวลา ก็แถมด้วยการทำความดี คือ สวดมนต์ และให้ทาน อันในปัจจุบัน อุปมาเหมือนการทานข้าวแกง ซื้อน้ำ นั่นเอง

สิ่งที่ทำ ดูเหมือนการเสีย แต่หากพิจารณาให้ดี สิ่งนี้จะทำให้เราไม่ต้องเสียเงินมหาศาล อันเกิดจากโรคภัย หรืออุบัติเหตุ ในภายภาคหน้า

พฤติกรรมเช่นนี้ จึงเป็นที่มาของคำพังเพยโบราณว่า "กุ้งฝอย ตกปลากระพง"

พวกที่มาแล้ว เอาแต่ได้ ก็ปล่อยเขาเถอะ เพราะนั่นกำลังสืบสานพงศาวดารของชูชก ท้ายที่สุดท้องแตกตาย นั่นคือ ไม่มีทางประสพผลอย่างแน่นอน

ความหมายที่สรุปให้เห็นในคำสอนนี้คือ อยากได้ของศักดิ์สิทธิ์ ก็ทำเอง ไม่ต้องไปพึ่งผู้อื่น เพราะใครก็ช่วยใครไม่ได้นั่นเอง

เพราะถ้าช่วยได้ พระพุทธเจ้าคงพาไปหมดทั้งโลกแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44