วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คุณสมบัติ - แค่ซื้อน้ำก็ได้บุญ จริงหรอ?

การกระทำที่เราคิดว่าถูก หากแต่ในหลักของพระภูมี กลับเป็นคนละเรื่อง สิ่งนี้จึงเป็นคำยืนยันของหลวงพ่อนิพนธ์ว่า ผลสำเร็จในเบื้องต้น มาจาก "องค์ความรู้ของพระภูมี"

เมื่อคิดเอง ทำเอง โดยไม่ศึกษา แล้วนั่งตีขิม รอผลบุญแห่งการกระทำตามความคิดตน เมื่อผลปรากฎ สิ่งที่เราทำอาจไม่ได้อะไรเลย หรือซ้ำร้ายกระทำผิด จนผลผิดย้อนมาสนองตน

ยกตัวอย่างเรื่องที่ทำกันอยู่ทุกสัปดาห์ของเหล่าสมาชิก

ความคิดที่มิอาจปฏิเสธได้เลยว่าเป็นเจตนาที่ดีบริสุทธิ์มากๆ คิดโดยตรรกะทั่วไป ก็มองไม่เห็นซึ่งมลทินอันใดเลย นั่นคือ การซื้อน้ำ

กิจกรรมการซื้อน้ำ เป็นกิจกรรมที่ใช้หลักหมูไปไก่มา คือ "พึ่งกันและกัน" หลวงพ่อนิพนธ์จึงดำริ ดำเนินการทำขึ้นเพื่อสร้างกิจกรรมให้ทุกคนมีส่วนร่วม "ทำบุญและทำทาน" เพื่อช่วยตนและผู้อื่น

กิจกรรมนี้ จึงเริ่มต้นด้วยความคิดที่ว่า ไม่เบียดเบียนผู้อื่นจนเกินไป ทุกคนมีส่วนร่วมและทำได้ตามกำลังของตน ราคาที่หลวงพ่อนิพนธ์กำหนดจึงอยู่บนพื้นฐาน ที่ทั้งผู้ทำและผู้ซื้อ ไม่เป็นหนี้ซึ่งกันและกัน ผลที่ได้ก็จะถูกรวบรวมไปเพื่อจัดซื้อสมุนไพร

องค์ความรู้ที่ขาดไป หรือขาดความเข้าใจ ของเหล่าสมาชิก ในคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ก็คือ กิจกรรมนี้มีไว้สร้างคุณสมบัติ ในตนให้เกิดขึ้นตามครรลองของพระภูมี

หากแต่เมื่อความเข้าใจถูกตัดตอน หลายคนจึงคิดว่า ฉันซื้อน้ำร้อยแพ็ค จ่ายเงินหกพันบาท หิ้วน้ำกลับแพ็คเดียว ฉันได้ทำบุญแล้ว และทำถูกต้อง เงินที่ให้ไปจะช่วยหลวงพ่อไว้ซื้อสมุนไพร จึงทำด้วยความเต็มใจ

ความจริงแล้ว สิ่งนี้เป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะผู้ทำจะกลายเป็นบาป อันค้าขายกำไรเกินควร แลผู้ซื้อก็จะกลายเป็นผู้ขาดคุณสมบัติของพระภูมี

ท่านจึงยกตัวอย่างสมัยพุทธกาลให้ฟัง ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จผ่านไปยังตำบลแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งมีเศรษฐีคนหนึ่งผู้เลื่อมใสในพระภูมีทราบ ขณะเดียวกัน ก็มีตายายคู่หนึ่งทราบเช่นกัน

เศรษฐีจึงสั่งให้บ่าวไพร่หลายสิบคน จัดสำรับ ทำอาหารอย่างดี เพื่อไปถวาย ขณะเดียวกัน ยายก็ให้ตาไปเก็บผักหวาน ส่วนยายก็ตั้งหม้อ หุงข้าว ทำแกงเลียงไปถวายเช่นกัน

ครั้นถึงเวลา เศรษฐีก็ให้บ่าวไพร่ จัดสำรับคาวหวาน ใส่ภาชนะอย่างดีที่สุด นำไปถวาย เช่นเดียวกับตายาย ก็นำแกงเลียงใส่หม้อดิน และข้าว พร้อมช้อนสังกะสี

เมื่อพระพุทธเจ้า พิจารณา ก็ทรงฉันข้าวและแกงเลียงของตายายจนหมดสิ้น โดยไม่แตะอาหารใดๆ ของเศรษฐีเลย

เมื่อเศรษฐีได้เห็นดังนั้น รอจนฉันเสร็จจึงทูลถามในความสงสัย

พระภูมีทรงตรัสว่า หลักของตถาคต คือ "ตนพึ่งตน" แลเมื่อตถาคตพิจารณาแล้วก็เห็นว่า สองตายาย ใช้หลักที่ตถาคตใช้อยู่จึงเสมือนเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนของท่านเศรษฐี อาหารที่ทำมา มิได้มีส่วนหนึ่งส่วนใดเลยที่เป็นน้ำเหงื่อน้ำแรงในการทำ แม้นทานไป ก็หาประโยชน์แก่ท่านเศรษฐีหามีไม่

หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมของคนซื้อน้ำก็เช่นกัน ใช้เงินมาแลก หาได้มีน้ำพักน้ำแรง และส่วนร่วมในกิจกรรมใดๆ ไม่ การทำนั้นจึงไม่ได้ผลเท่าที่ควร

หากการกระทำที่ถูกก็ควรทำให้ถูกต้องตามครรลองของพระภูมี เริ่มจากการทำบุญ เมื่อซื้อน้ำก็รับน้ำไปตามจำนวนที่ซื้อ จะนำไปแจกหรือทำเช่นไรก็สุดแล้วแต่

หากกระบวนการยังไม่สิ้นสุด เมื่อทำบุญ พระภูมีสอนให้ทำทานควบคู่กันไป ด้วยการให้สุขแก่เพื่อนมนุษย์ น้ำที่เราซื้อไป จึงต้องมีสติพึงเก็บรักษาขวดให้สะอาด นำกลับมาเพื่อเป็นบรรจุภัณฑ์ ที่ใส่สมุนไพรเพื่อคลายทุกข์ของเพื่อนมนุษย์

การทำทั้งสองส่วนจึงจะสมบูรณ์ในกิจกรรม

เมื่อทำแล้ว ยามที่เรากราบแม่ชีเมี้ยน กราบพระพุทธ เราจึงอ้างเอ่ย บุญและทานที่ได้ทำในกิจกรรมนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร .... ดั่งเช่นหลังสวดมนต์

พึงเห็นได้ว่า ผู้ที่ซื้อมาก โดยไม่ทำอะไรเลย การกระทำก็ดั่งเช่นเศรษฐี ผู้ที่้ซื้อน้อย มีสติและทำตามคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ ก็อุปมาดั่งตายาย

ผลที่ปรากฎ จึงกลายเป็น ทำน้อยได้มาก ทำมากได้น้อย

ก็เพราะเรื่องของสมุนไพร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติ ดุจดั่งกุมารทอง รู้ใจคนทำ รู้ใจคนกิน และผลของสมุนไพร ขึ้นกับคุณสมบัตินั่นเอง ยิ่งทำถูกเท่าไร ผลยิ่งมหาศาล ไม่ได้ขึ้นกับการให้เงินมากเท่าไร ผลจะมหาศาลตามจำนวนก็หาไม่

การซื้อน้ำ และการเก็บรักษาขวดน้ำ เพื่อนำมาเป็นบรรจุภัณฑ์ จึงเหมือนเป็นภาระ หากแต่ภาระนี้แหละคือคุณสมบัติที่ฟ้าดินเขาพิจารณา ว่าตัวผู้ทำเดินตามใคร ยึดหลักคำสอนของใคร

ก็เพราะถ้าเราท่าน ไปมือเปล่า มามือเปล่า นั่นหมายความว่า เราไม่เคยคิดที่จะให้สุขแก่ผู้ใดเลย แล้วสุขนั้นจะย้อนมาสู่ตนได้โดยวิธีใด

ยิ่งเราพิถีพิถันในสิ่งที่จะทำให้คนอื่นเท่าไร ผู้รับได้สุขมาก ผลที่ย้อนกลับก็ยิ่งมาก

เรื่องที่ดูเล็กน้อย ภาชนะที่ดูไร้ค่า หากแต่เราทำด้วยสติ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า สิ่งนี้ช่วยให้เราพ้นจากโรคได้ เชื่อหรือไม่ ก็เพราะเราทำตามคำสอนของพระภูมีนั่นเอง เราจึงมีคุณสมบัติให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาเกื้อกูล

อย่ามักง่าย จ่ายเงินไปก็จบ พฤติกรรมเช่นนั้นไม่มีทางพบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

สิ่งที่ทำ มันมลายหายไปกับคำพูดและความคิดที่ว่า "หนักก็หนัก เป็นภาระเปล่าๆ"

ก็ภาระนี้แหละ คือตัวกระทำที่ชัดเจน ว่าเรามีคุณสมบัติ เชื่อและทำตามคำสอนของพระภูมี จริงหรือไม่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44