วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

คุณสงสัยไหม? คนไข้มูลนิธิไทยกรุณา ทานสมุนไพรอะไรถึงหายป่วยได้

หลายปีที่ผ่านมา คนไข้ที่เราเห็น และประสพผล มีครบทุกรส โรคอะไรที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยพบเคยเจอ ก็ได้เห็นได้เจอ ที่สำคัญได้เห็นคนเหล่านั้นประสพผล แต่ทุกคนก็ล้วนแล้ว ต้องผ่านด่าน ต้องใช้ความขันติอดทน และต้องเรียนรู้ นำสิ่งที่เรียนรู้จากหลวงพ่อมาปฏิบัติเอง ผู้ใดทำได้ผู้นั้นประสพผล ถึงแม้ว่าในจำนวนคนหลายๆ หมื่นที่ผ่านเข้ามา จะประสพผลเป็นพันก็ตาม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า การประสพความสำเร็จในการหายโรค ไม่ว่าจะร้ายแรงสักฉันใด ถึงจะยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ อุปสรรคหลัก ก็คือ นิสัยของผู้ป่วยนั่นเอง

คนแรกที่สร้างความมหัศจรรย์ให้เรา คือ ท่านตอง ผู้ซึ่งมีกรรมพันธุ์เป็นมะเร็งสมองทั้งครอบครัว พี่และน้องทั้งหมด ล้วนตายด้วยโรคนี้ ท่านตองมาหาหลวงพ่อ ท่านบอกท่านตองว่า ลืมเรื่องมะเร็งสมองไป แล้วเอาเวลาไปดูแลเรื่องของคนอื่น ท่านให้ท่านตองรับผิดชอบปลูกต้นมะพร้าว และดูแลเองทั้งหมด ท่านตองหรือพระตอง ได้ลองทำตาม ด้วยสติที่ได้ว่า "มะพร้าวทุกต้นที่ท่านดูแล จักกลายเป็นตัวยาให้กับผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นมีสุข แลท่านก็จะได้สุขกลับคืนมา" หลายปีต่อมา ต้นมะพร้าวทุกต้น ในแผ่นดินของมูลนิธิไทยกรุณา ก็ได้เป็นอย่างนั้น ไม่มีต้นใด ถูกเก็บมาเพื่อขายเลย ผลที่ท่านตองได้ คือ หายจากโรคมะเร็งสมอง ในขณะที่พี่น้องทุกคนตายหมด  ปัจจุบัน ท่านตองสึกจากพระ กลายเป็นราษฎรอาวุโส ของหมู่บ้าน ทำหน้าที่สอนการจักสาน ให้ชนรุ่นหลัง มาจนทุกวันนี้ อายุกว่า 80 แล้ว ใช้ชีวิตอย่่างเป็นสุขที่เขาค้อ เพชรบูรณ์

คนต่อมาที่เราต้องทึ่งกว่า คือ ท่านเสรี  หลวงพ่อให้คนช่วยไว้จากการไปกระโดยสะพานแม่น้ำเมย ด้วยเหตุที่ตนเองติดเชื้อเอดส์มา ในขณะที่พระของท่านธุดงค์ไปแม่สอด ท่านจึงรับมาและให้บวชทำความดี ในพระพุทธศาสนา หลักของแม่ชีเมี้ยน และทำหน้าที่ช่วยดูแลผู้ป่วยยาเสพติด หลังจากสามปี ท่านก็สึกไป และมีครอบครัว ปัจจุบันมีลูกชาย วัยสิบขวบ แข็งแรงตัวอ้วนใหญ่ เราจะได้เห็นเสมอ เมื่อมีงานของหลวงพ่อใหญ่

เราได้เห็น ฟรังโก้ ชาวอิตาลี บิดาของภรรยาเขา เป็นหัวหน้าของจ่าสมเกียรติ ผู้หนึ่งที่ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะใจ ของคุณปรียานุช ปานประดับ  ฟรังโก้บอกว่า โรคที่เขาเป็นคือ โรคที่อวัยวะของร่างกายแก่เร็วกว่าปกติ ผู้ที่เป็นโรคนี้ เมื่อปรากฎอาการ จะอยู่ได้อีกห้าปี โรคนี้เป็นกันมากในยุโรป โดยเฉพาะอิตาลี มีคนเป็นโรคนี้กันมาก  ฟรังโก มาอาศัยพักที่บ้านหลวงพ่ออยู่ครึ่งปี จากสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้ กลับมาช่วยตัวเองได้ อยู่มาจนทุกวันนี้ ก็สิบกว่าปีแล้ว

เสี้ยวหนึ่งของคนไข้ที่เล่ามา ทำให้เราเชื่อในสิ่งที่ท่านบอกว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ให้สุขแก่เขา สุขนั้นถึงตัว"  ธรรมแค่หมวดเดียว ก็ทำให้เราก้าวข้ามโรคได้อย่างสบายแล้ว คนแล้ว คนเล่า ที่ผ่านเข้ามา ล้วนแล้วจะต้องผ่านกิจกรรม และทำธรรมหมวดนี้ ลืมเรื่องโรค แล้วไปดูคนอื่นแทน ทำให้นิสัย ให้สุขผู้อื่นกลายเป็นนิสัยสันดานใหม่ของตนเอง ผลทีได้กลับทำให้โรคร้ายของตน หายไปด้วยเป็นของแถม รายแล้วรายเล่า นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์ สร้างแหล่งรวมคนทุกข์ไว้ เพราะนี่แหละคือแหล่งบุญ ถ้าเราให้สุขแก่คนทุกข์เหล่านี้ เราก็จะผ่านโรคได้อย่างไม่น่าเชื่อ

คนสุดท้ายที่เราอยากกล่าวถึง เมื่อเราเดินเข้าไปในมูลนิธิ จะเห็นผู้หญิงสูงวัยท่านหนึ่ง รูปร่างเล็ก ค่อนข้างผอม มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของอุปกรณ์ที่ใช้ ในครัว และโรงยา ชื่อของท่านคือ ป้าซุ้ย ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือด ท่านกล่าวว่า ไม่ต้องทานสมุนไพรมากหรอก แค่ดูแลงานที่รับผิดชอบให้ดี ชีวิตก็เหนียวแน่นแล้ว ไม่น่าเชื่อ ท่านไม่เคยไปหาหมอเลย อยู่มายี่สิบปีแล้ว คนเหล่านี้ ได้ทำกิจกรรมที่ให้สุขแก่ผู้อื่น เป็นความรับผิดชอบของตนเอง ผลที่่ได้กลับมหาศาล แม้จะทานสมุนไพรน้อยกว่าคนทั่วไป หรือแทบจะไม่ได้ทานเลย เราจึงอยากให้เป็นข้อพิจารณา คำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ ที่มักกล่าวบ่อยๆว่า "ถ้าเข้าใจ และทำเป็น ไม่จำเป็นต้องทานสมุนไพรมากหรอก ไม่ว่าโรคอะไร"  ท่านใดที่จะหวังพึ่งสมุนไพรเพียงอย่างเดียว น้อยคนนักที่จะประสพผลสำเร็จ

เราจึงไม่แปลกใจ ที่เจ้าของโรงงาน มาเป็นพนักงานขนยา พนักงานขายขนม พนักงานขายน้ำ แม้กระทั่งคุณปรียานุช ก็กลายมาเป็นคนดูแลรักษาห้องน้ำ และอีกหลายตำแหน่งในมูลนิธิแห่งนี้ ก็ทางหายมันจบที่ให้สุขแก่ผู้อื่น ก็แล้วเราๆ ท่านๆ จะตัดสินใจเลือกเดิน และรับผลกันอย่างไรก็เลือกกันเอง ขอย้ำ หลักของแม่ชีเมี้ยน ที่หลวงพ่อนิพนธ์ถ่ายทอดมา "สมุนไพรรักษาโรค ธรรมรักษากรรม" ต้องมีสองขา จึงจะสมบูรณ์ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่คนจะแอบมากิน เพื่อให้หายโรค โดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงนิสัยอะไรเลย ทำไมจึงไม่ประสบผล

2 ความคิดเห็น:

  1. คนไข้ที่มาส่วนมากก็คือหมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อ ป่วยจนหมอไม่รักษาหรือไม่ก็หมอรักษาไปตามอาการมาก็ช่างไม่มาก็ไม่สนใจพูดไม่ไห้กำลังใจคนไข้เลย เหมือนว่าคนไข้เป็นโรคนี้ไม่ต้องมาหาหมอบ่อยๆหรอก เพราะตายแน่ๆช่วยไม่ได้กินยาพอประทังไป เพราะเราคือคนป่วยเรารู้ว่าป่วยแต่จะทำยังไงมันเป็นเองหรือเราลืมใส่ใจสุขภาพตังเองการกินเป็นสิ่งสำคัญมาก กินไม่ดีร่างกายก็ไม่ดี มาเจอมูลนิธิไทยกรุณาพอมีกำลังใจให้อยู่ต่อถึงหายช้าก็จะอดทนกินยาเพื่อจะได้ทำงานได้หาเงินค่ารถมาที่นี่ คนที่ป่วยไม่ต้องคิดมากมาเลยครับดีขึ้นแน่นอน จากคนตายแล้วเกิดใหม่เพราะสมุนไพรไทยกรุณาช่วยไว้

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ14 ตุลาคม 2558 เวลา 19:12

    ผมปวดเข่ามาที่นี้สบายเลย.ตอนนี้มาก็ช่วยเค้าล้างขวดใส่ยา สงสารคนแก่.คนเจ็บ.ลืมปวด เข่าไปเลย

    ตอบลบ

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44