หลังจาก ที่เจ้าอาวาส เปลี่ยนปณิธาน ทำให้ถ้ำกระบอก เริ่มแตกแยก จนท้ายที่สุด มาถึงบทสรุป ที่ว่า พระนิพนธ์ ที่แม้ในขณะนั้น จะเป็นพระที่ทรงอำนาจมากที่สุด มีลูกศิษย์มากที่สุด ก็ต้องยอมที่ลาสึก พร้อมกับคำสาบานต่อท่านจรูญว่า ตราบใดที่ท่านยังอยู่ ห้ามพระนิพนธ์บวช หรือ ตั้งสำนักแข่ง
จากเหตุการณ์นั้น แม่ชีเมี้ยนได้มอบตำราสมุนไพรให้ พร้อมกล่าวว่า ให้เอาไปทำแทนแม่ อันเป็นการตอบแทนแผ่นดินเกิด
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า จะไปทำได้อย่างไร ในเมื่อสาบานว่าจะไม่บวช เพราะคิดว่า ผู้ที่จะใช้ตำราสมุนไพร ผลที่เกิดต้องมาจากวัตรปฏิบัติของผู้ทำเป็นสำคัญ
แม่ชีเมี้ยน เหมือนอ่านใจออก จึงกล่าวตอบว่า "สมุนไพรของแม่ ศักดิ์สิทธิ์ในตัวอยู่แล้ว ทองอย่างไรก็เป็นทอง ถึงแม้ตัวลูกจะนุ่งกางเกงทำ อุปมาเหมือน ทองอยู่ในส้วม มันก็ยังเป็นทอง หากผู้ใดต้องการทอง แม้เป็นส้วม เขาก็ต้องไปหาลูกเพื่อเอาทอง คนฉลาด เขามองออก"
ด้วยคำสอนนี้ จึงเป็นที่มาของ "นุ่งกางเกงทำ" เพื่อพิสูจน์ว่า ความศักดิ์สิทธิ์ เกิดจากสมุนไพร ไม่ใช่เกิดจากผู้ทำ ขอเพียงยึดคำสัญญาที่ให้ไว้ว่า ทำให้ ความศักดิ์สิทธิ์นี้ก็จะยังคงอยู่
บทพิสูจน์นี้ เริ่มมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ ผ่านร้อนผ่านหนาวมา ยี่สิบกว่าปี ได้พิสูจน์คำของแม่ชีเมี้ยน ว่า เป็นเช่นนั้นจริงๆ
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า "อย่าเอาเราไปเกี่ยว ไม่ว่าจะมีพฤติกรรมอย่างไร ไม่มีผลต่อสมุนไพร ขอเพียงไม่ผิดคำสัญญา"
สถานที่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์ จึงบอกว่า สิ่งที่ท่านมาหา คือ แม่ชีเมี้ยน พระพุทธเจ้า ธรรมคำสอน แลสมุนไพร เท่านั้น
ส่วนตัวท่าน เป็นกระบอกเสียง อาจจะจัดไว้ว่าเป็นผู้มีพระคุณ ที่นำมาให้ก็ไม่ว่ากัน
อย่าสับสน นำไปปนเปกัน จนทำให้การไม่ยอมรับท่าน พาลไปไม่ยอมรับแม่ชีเมี้ยน พระพุทธเจ้า ธรรมคำสอน แลสมุนไพร อันจะทำให้เสียประโยชน์แก่ตนไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น