จุดแรกเริ่มจากความรู้ในนิสัยมนุษย์ที่ชอบปฏิเสธกรรม แม้เพียงน้อยนิดนั่นเอง เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะอันใหญ่หลวงของชีวิต
นั่นคือ ยาแก้ปวด ที่ทานกันไปเพื่อปฏิเสธกรรมเล็กกรรมน้อย ที่ทำให้ปวดเมื่อย
วงจรนี้จึงเป็นตัวนำให้สารเคมีที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ผ่านเข้ากระแสเลือด ด้วยสารเคมีเหล่านี้ลอยไปในกระแสเลือด และไม่ถูกย่อยก็ต้องหาที่ตก
เมื่อได้จุดตกก็จะสะสมคล้ายตะกอนแม่น้ำ ร่างกายก็จะพยายามที่จะเคลียสิ่งนี้ที่อุดตันทางเดินของเลือด ก็ต้องใช้แรงดันเลือด
แลเมื่อความดันขึ้นสูง เมื่อไปตรวจหมอก็ให้ยาลดความดัน
ในขณะที่ธรรมชาติของร่างกาย ความดันที่สูงขึ้นนี้ จะถูกสลายไปเองเมื่อผ่านไต
เมื่อทานยาลดความดัน สารเคมีที่ย่อยไม่ได้ จึงไปกองรวมกันที่ได ทำให้ไตพังนั่นเอง
จึงไม่น่าแปลกที่คนโบราณ แทบจะไม่เคยเห็นว่าเป็นโรคไต เพราะไม่มียาเคมีให้กิน อย่างเก่งก็แค่นิ่วเท่านั้นเอง
พระภูมีจึงสอนให้ใช้ขันติอดทน ยอมรับกรรมที่ทำมา ยอมทนปวดทนเมื่อย เดี๊ยวก็หาย เมื่อเราปฏิเสธกรรมเล็กน้อยเหล่านั้น ด้วยยาแก้ปวด ผลที่เสียหายตามมาใหญ่หลวงนัก นี่แหละ "เสียน้อยเสียยาก ไม่ยอมเสีย จึงต้องเสียมาก แลอาจถึงกับเสียชีวิต"