สภาพของเธอตอนนั้น ก็คิดว่าเธอคงรอดยาก ในขณะที่ฐานะทางบ้านก็ย่ำแย่เพราะที่กำลังจะถูกยึด
หลวงพ่อนิพนธ์ได้รับรักษา และฟื้นฟูจนเธอกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
เธอลากลับบ้าน หลังจากที่ใช้เวลาสองสามปี ในการรักษาตน และพักอยู่กับหลวงพ่อนิพนธ์
สุขภาพที่กลับมา พร้อมแนวทางการประพฤติตนที่ได้รับจากหลวงพ่อนิพนธ์ เธอได้นำกลับไปใช้ในชีวิตของเธอ
ปัจจุบันเธอกลายเป็นแม่ค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง ในด้านการทำขนมของ อ.ลาดยาว
สามารถกอบกู้ที่ดินที่กำลังจะถูกยึด และซื้อที่เพิ่มได้อีกสองร้อยไร่
มาวันนี้ ฐานะครอบครัวของเธอมั่นคง กิจการเริ่มอยู่ตัว เธอได้กลับมาหาหลวงพ่อนิพนธ์
เราจึงได้เห็นซุ้มแม่ค้าขายขนมไทยดั่งเดิม และจะได้เห็นการทำขนมแบบมืออาชีพ โดยเฉพาะขนมเทียน ในปีนี้
เธอกล่าวกับหลวงพ่อนิพนธ์ว่า นับแต่นี้ ทุกปีในช่วงเข้าพรรษา เธอจะมาช่วยทำขนม ที่เป็นรายได้หลักในอดีต ที่หลวงพ่อนิพนธ์ใช้เป็นทุนในการซื้อสมุนไพรทุกปี
หากแต่คนไข้ท่านใด ที่ไม่มีอาชีพ เธอก็ยินดีถ่ายทอดสูตรของเธอให้ไปทำกินด้วย
เราจึงสงสัยนักว่า คนที่คิดว่า การมาที่นี่เสียนั่น เสียนี่ เขาคิดอย่างไร
เพราะภาพที่ปรากฎ ดั่งเช่นคุณเจี๊ยบนี้ จากสภาพที่ต้องเสียทุกสิ่ง ทั้งชีวิต และทรัพย์สิน แถมยังต้องมาพักรักษากับหลวงพ่อนิพนธ์อีกเป็นปีๆ กว่าร่างกายจะฟื้นกลับมา
วันนี้ของเธอ น่าจะเป็นบทสรุปให้เห็นว่า หนังชีวิตต้องดูกันยาวๆ หากมองสั้นๆ ก็เสียแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสีย ...
ถ้าคิดสั้น คุณเล็ก ธานินทร์ ก็คงไม่ยอมเสียรายได้ที่รับจ้างในแต่ละวัน เพราะหลวงพ่อนิพนธ์บอกว่า ให้มาพักฟื้นสัก ๖ เดือน เป็นแน่แท้
แลเมื่อถึงวันที่เราพร้อม เราควรที่จะนำกำลังนั้นกลับมาทำประโยชน์แก่แผ่นดินนี้ใช่หรือไม่
เธอจึงเป็นแบบอย่าง ที่เราอยากให้ลองพิจารณา ว่าคนที่ประสพผลสำเร็จ เขาคิดและทำอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น