วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำตนเป็นใบหยก


สิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์ นำมากล่าวเล่าให้ฟัง ล้วนแล้วแต่เป็นความจริง หากแต่ความจริงนี้ไม่มีคนรู้ เป็นของใหม่ ที่คนทั้งหลายทั้งปวงไม่คุ้นเคย ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น คือ ไม่ถูกจริตเดิม จึงยากที่จะยอมรับ ไม่ว่า รับฟัง หรือ รับปฏิบัติ

ความจริงก็คือความจริง เมื่อพูดความจริง จึงต้องบอกต้องเล่า ต้องกระตุ้น ให้เหตุและผล หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักเน้นเสมอว่า ไม่ได้คิดว่าคนทั้งหมดจะฟัง จะปฏิบัติ หากแต่ก็คงมีบางคน ที่ฟังแล้วชอบอยากปฏิบัติ อยากทำตาม

แล้วทำไปทำไม ในเมื่อสอนเสมอว่าคนเราอยู่ได้ด้วยพรหมลิขิต และที่สำคัญ แต่ก่อนแต่ไรอยู่มา ก็ไม่เคยมีสิ่งนี้ในชีวิต ก็อยู่กันมาได้

สิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์กำลังพูดสอนให้ปฏิบัติ ก็คงต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ อาจจะเรียกว่า ศาสน์ ก็ได้ หากแต่ศาสน์อันนี้ เป็นของพระภูมีทุกพระองค์ ที่ทุ่มเทชีวิต ศึกษาเรียนรู้ แล้วทำให้เห็นว่า ใครก็ตามที่ทำตาม สามารถเดินหลีกหนีกรรมที่ทำมาได้

ดังนั้น ศาสน์นี้จึงมีประโยชน์ กับผู้ที่เบื่อหน่ายกับวัฐจักรของกรรม คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เท่านั้นเอง ส่วนคนที่ยังชอบในวัฐจักรเดิม ไม่สนที่จะก้าวให้พ้น ศาสน์อันนี้ก็หาประโยชน์อันใดแก่คนผู้นั้นไม่

พูดง่ายๆ แค่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เริ่มสอน คนเหล่านั้นก็กล่าวว่า สิ่งที่พวกเขานับถือ มีอยู่ นั้นดีแล้ว พึ่งได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาทำตามคำสอนอันนี้เลย ที่สำคัญทำยากเสียด้วย

การทานสมุนไพรและปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ จึงหนีไม่พ้น เพราะเป็นแนวทางของพระภูมี ดังนั้น ไม่ว่าสมุนไพร ก็ทานยาก การปฏิบัติตน ก็ทำยาก

ก็แล้วให้ทำไปเพื่ออะไร เพื่อหายจากโรคที่เป็นอยู่ในขณะนี้นั้นหรือ .... อันนี้มันของแถม หาใช่สาระสำคัญไม่

สิ่งที่สำคัญกว่า ก็คือ การสร้างคุณสมบัติ เพื่อให้สอดคล้องรองรับ กับการอุบัติของพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ต่างหาก เพราะเมื่อวันนั้นมาถึง ข้อปฏิบัติที่เข้มข้น เพื่อให้สามารถต่อกรกับกรรมที่เข้มแข็ง และเกิดผลอันมหาศาล และรวดเร็ว ก็จักไม่เป็นสิ่งที่หนักหนาสาหัส เพราะได้ฝึกไว้บ้างแล้วนั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า การดำรงอยู่ของที่นี้ จึงทำเพื่อให้คนที่เชื่อแล้วทำตาม ได้ทำตนอุปมาเป็นใบหยก รอรับกิ่งทองของพระพุทธเจ้านั่นเอง

และเมื่อบังเกิดพระพุทธเจ้า อาศัยซึ่งแนวทางการช่วยตน ที่พระโคดมทรงตรัส นั่นคือ "บุญล้างบาป สมุนไพรล้างโรค" ก็จะเห็นผลได้ไว เพราะมีเนื้อนาบุญที่แท้จริงให้ทำแล้ว และก็ผลจากการฝึกในวันนี้ การทำบุญตามแนวพระภูมี ก็คุ้นเคย ผลก็จักเกิดมหาศาล รวดเร็ว

หากแต่วันนี้ ยังไม่มีเนื้อนาบุญให้พึ่ง ก็ต้องพึ่งตน จึงจำเป็นต้องสวดมนต์ นั่งกรรมฐานวิปัสนา โดยการฟัง ฝึกความขันติอดทน และการยั่วยวนจากกิเลส ที่พึงเกิดในขณะฟัง สิ่งนี้แหละหลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า คือ กรรมฐานวิปัสนาของพระภูมี ของจริง

กรรมฐานเยี่ยงนี้ จักเห็นจากสงฆ์สาวก นั่งฟังเทศนาของพระภูมี ก็นิ่งเงียบ สงฆ์นับพัน นับหมื่น หาเสียงไม่มีเลย หากิริยาไม่สงบไม่มีเลย ทุกองค์ล้วนแล้วนั่งสงบ อยู่ในกรรมฐาน ฟังคำเทศนา แล้วนำไปปฏิบัติ จนหลุดพ้นกันทั้งหมดทั้งสิ้น หาใช่นั่งหลับตาแล้วรู้ไม่ แม่ชีเมี้ยนจึงมักกล่าวเสมอ เมื่อครั้งในอดีตถ้ำกระบอกไว้ว่า นั่งหลับตาก็เห็นแต่ความมืด หากเห็นสิ่งอื่นใด นั่นแหละคนบ้าโรคจิต ผิดปกติ

หากแต่สมาชิกทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เขาไม่เชื่อในคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ ที่เน้นย้ำเสมอว่า โรคหรือกรรม มันกลัวธรรม คือความสงบ เพราะกรรมมันทำให้เราเป็นทุกข์ หากแต่เมื่อเรียนรู้ธรรม ความสงบ ก็ทำให้ทุกข์ที่เกิด ก็เป็นเพียงแค่ทุกข์สังขาร ทำให้เราทุกข์ใจทุกข์วิญญาณไม่ได้เลย

เพราะพระภูมี สอนให้เราท่านทุกข์กับวินัยธรรมก่อนเสียแล้ว และสุขที่มีธรรม ยอมรับกรรมที่ทำมา ทุกข์ที่เกิดกับสังขาร ก็ย่อมทำร้ายใจ ทำร้ายวิญญาณเราท่านไม่ได้ ไม่สามารถก่อให้เกิดกรรมต่อไปในอนาคตอีก

ความสำคัญของศาสน์ ก็คือตรงนี้แหละ ที่ทำให้เราท่านตัดวงจรกรรมที่จักซ้ำเดิมในอนาคตออกไป โดยการเขียนพรหมลิขิตใหม่ ที่ไม่มีโรคมะเร็ง โรคอัมพฤกต์ อัมพาต ... ในภพหน้า และภพต่อๆ ไป

หากแต่คนใดปฏิเสธ ไม่สน ไม่ทำ แม้นจักปฏิเสธสักฉันใดว่าตายแล้ว ก็จบ หากแต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ อันจักเห็นได้ว่า ทำไมคนนั้นเกิดมาเป็นอย่างนั้น คนนี้เกิดมาเป็นเช่นนี้ ... ก็เกิดมายังไม่ได้ทำอะไรเลย กรรมมันก็เล่นงานเสียแล้ว และก็อ้างว่า ฟ้าไม่ยุติธรรม ... ทั้งที่ความเป็นจริง นั่นแหละเราท่านเขียนไว้ในอดีต ปัจจุบันมันมาแล้ว จะปฏิเสธสักฉันใด หาอะไรป้องกัน ก็ทำไม่ได้ หนีไม่พ้น

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่ไม่ว่า คำสอนที่หลวงพ่อนิพนธ์จะสอนนั้น นับวันก็ยิ่งเข้มข้น เน้นยิ่งขึ้น ผลที่ได้สำหรับคนที่นำไปปฏิบัติ ก็จักเห็นความเปลี่ยนแปลงของสมุนไพร ที่แม้นจะทานเหมือนเดิม แต่ผลมันไม่เหมือนเดิม นับวันยิ่งออกฤทธิ์รุนแรงมหาศาล ตามการกระทำของผู้ทานนั้นเอง

และวันหนึ่ง เมื่อใบหยกอันนี้พร้อม และได้ไปผูกติดกับกิ่งทองของพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ วันใด แม้นจักดูว่าน้อยนิด อาทิเช่น การตักบาตรเพียงทัพดีเดียว ก็ตามแต่ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า โรคก็หนีป่าราบแล้ว เพราะนั่นคือ ต้นอำนาจ ไม่ต้องมานั่งสวดมนต์เหมือนทุกวันนี้หรอก

ใครจักเห็นว่า การเข้าสวดมนต์ และฝึกกรรมฐานวิปัสนา ลดกิริยา อยู่ในความสงบ ฟัง แล้วไปปฏิบัติ ที่หลวงพ่อนิพนธ์กำหนดให้ทำอยู่นี้ เป็นเรื่องไร้สาระ ก็ตามแต่ ... หากแต่เราอยากบอกแก่คนที่สำนึกตนว่า อาการของตนสาหัส ลองทำให้สมบูรณ์ แล้วอธิษฐานใช้แก่เจ้ากรรมนายเวร ทานสมุนไพร ตามหลวงพ่อนิพนธ์สอน แม้นจักเป็นทางอ้อม แต่ก็เชื่อได้ว่า ได้สัมผัสปาฏิหารย์อย่างแน่นอน เพราะนี่คือของจริง เรื่องจริง ใครทำ ใครได้

ผลจากการปฏิบัติ จักทำให้เกิดความเหนียวแน่น นั่นจึงเกินเลยจาก คำเรียก การตายจากโรคที่ว่า ตายห่า หากแต่รวมไปถึง การตายจากอุบัติเหตุ ที่เรียกกันว่า ตายโหง นี่แหละจึงเรียกว่า ชีวิตปลอดภัยอย่างแท้จริง

ส่วนพวกที่หายจากโรคนี้ได้ก็ดีใจ แต่ไปตายด้วยโรคอื่น หรือ เจออุบัติเหตุตาย ก็ถือว่าตายทั้งสิ้น หลวงพ่อนิพนธ์จัดว่า คนเหล่านี้ไม่ประสพความสำเร็จในเส้นทางนี้



ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44