ผ่านมาผ่านไป ก็ยี่สิบกว่าปี ที่หลวงพ่อนิพนธ์ได้ดำเนินกิจกรรมในการรับรักษาคน
กลวิธีต่างๆ ที่ใช้ในการหาทุนมาเพื่อดำเนินกิจกรรม ก็แปรผันเปลี่ยนไปตามวันและเวลา
หากแต่เมื่อถึงที่สุด เมื่อกระบวนการเข้ารูปเข้ารอย สิ่งที่ดำเนินการเพื่อเป็นทุนในการหล่อเลี้ยงกิจกรรมก็ต้องเข้ามาอยู่ในรูปรอยตามที่พระภูมีกำหนด นั่นคือ "หมูไปไก่มา"
ภาพที่กำลังจะปรากฎ และเป็นสิ่งที่จะเป็นตำนานเพื่อกล่าวขาน ในยามที่พูดถึง ชมรมคนรักสุขภาพ และมูลนิธิไทยกรุณา นั่นคือ ไม่พึ่งพาคนนอกที่ไม่มีส่วนร่วมและรับประโยชน์จากกิจกรรม
การดำรงอยู่ได้ ไม่ได้มาด้วยการบริจาค หากแต่มาจากความร่วมมือในการอุดหนุนกิจกรรมของชมรมที่จัดขึ้นจากสมาชิกในชมรมนั้นเอง
ภาพที่ปรากฎให้เห็นเป็นแนวทางสำหรับสมาชิกที่มีส่วนร่วมในกิจกรรม ก็เป็นดั่งเช่นที่ คุณระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ได้กล่าวไว้ว่า ตัวท่านเองรู้แล้วว่ามาที่นี่ต้องทำอย่างไร
ท่านมักพูดเสมอเมื่อมาใหม่ๆ ว่า ไม่รู้จะทำตนอย่างไร เพราะจะให้เงิน หลวงพ่อนิพนธ์ก็ไม่รับ จะระดมทุนจากส่วนต่างๆ ก็ไม่ให้ทำ จะให้มารับสมุนไพรไปทานอย่างเดียวก็อึดอัด
วันนี้ท่านจึงมีคำตอบกับตัวท่านเอง โดยกล่าวว่า ถึงวันนี้ท่านรู้ว่า วันใดที่ท่านมารับสมุนไพร จะบอกคนรถไว้ว่า ให้จัดพื้นที่ท้ายรถให้ว่างมากที่สุด เพื่อที่จะได้ไว้ใส่ของที่ชมรมและสมาชิกเหล่าอาสาได้จัดทำมาขายเพื่อนำกำไรไปเป็นทุนดำเนินกิจกรรม
และให้สั่งลูกน้อง นับตั้งแต่ รปภ ไปจนถึงหัวหน้าทุกแผนกว่า วันที่ท่านมารับสมุนไพร เมื่อกลับไป จะมีของฝากให้ไปทาน
เริ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนกลับบ้านท่านจึงเดินไปเหมาของที่เหลือจากทุกซุ้มที่จิตอาสาช่วยกันทำมาขายกลับไปแจก
แล้วกล่าวว่า ถึงตอนนี้ท่านรู้แล้วว่า หากมาที่ชมรม แล้วนำเงินมาถวาย หลวงพ่อนิพนธ์คงไม่รับ การจะช่วยก็เพียงแค่ช่วยซื้อของที่จิตอาสาช่วยกันทำมา สิ่งนี้แหละเป็นช่องทางที่หลวงพ่อนิพนธ์เปิดไว้ให้
หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมของศาสนา อาศัยหลักพึ่งกันและกัน สิ่งที่จะบังเกิดก็เป็นลักษณะที่เรียกว่า "วินวิน" นั่นคือ ทั้งผู้ทำและผู้ทาน ต่างได้ชื่อว่าเป็น "พระเวสสันดร ไม่มีใครเป็นหนี้ใคร" องค์กรก็จะดำเนินไปได้ด้วยตนเอง พึ่งกันและกัน ไม่ต้องอาศัยบุคคลภายนอก
เสียงที่ควรจะกล่าวในอนาคตของกิจกรรมที่กำลังดำเนินกันต่อไปนี้ นั่นคือ ที่นี่ไม่รับเงิน อยากช่วยก็กินข้าวแกง ซื้อของที่จิตอาสาช่วยกันทำมาขาย แล้วกำไรที่ได้ ก็จะเป็นแหล่งทุนในการซื้อสมุนไพร มาทำเพื่อให้ฟรี
ทุกคนที่ทำที่กิน จึงมีส่วนร่วมในสมุนไพรที่ทานและแจก อันเป็นแนวทางตามพระภูมีทรงบัญญัติ คือ "ตนพึ่งตน" อย่างแท้จริง