ปัญหาที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เมื่อพบกับคนไข้ที่มีโอกาสรอดได้ หากแต่อุปสรรคใหญ่ของเขากลับกลายเป็น ความห่างไกลของบ้านกับชมรมนั้นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักเปรยเสมอว่า วันใดที่ท่านมีความพร้อม และคนเข้าใจในหลักการในการช่วยตนเองแล้ว ก็อยากให้คนเหล่านั้นมีทางรอด ไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยใช่เหตุ
ฝันของท่าน จึงอยากที่จะตั้งสาขา ให้กระจายไปทั่วภูมิภาคของประเทศไทย นั่นเอง เพื่อให้พี่น้องชาวไทยสามารถไปใช้บริการได้ ในสาขาที่ใกล้บ้านตน
วันนี้ จึงพยายามที่จะสร้างความเข้าใจ ให้ทุกคนได้เห็นว่า การทานสมุนไพรให้ประสพผลต้องทำอย่างไร และทุกคนต้องรับผิดชอบส่วนไหน เพื่อให้กิจกรรมดำเนินต่อไปได้ โดยไม่ต้องอาศัย หรือรอการพึ่งพาจากภายนอก
ความพร้อมในด้านสถานที่ คงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะมีผู้ที่ยินยอมจะให้ใช้พื้นที่กันมากมาย ประเด็นจึงอยู่ที่รูปรอยวิธีการ ในการดำเนินกิจกรรม ถ้าทุกคนเข้าใจ และช่วยกัน จนเกิดสิ่งที่แม่ชีเมี้ยนเรียกว่า "พลังสามัคคี" วันนั้นแหละ คือวันที่พร้อมเปิดศึกแล้ว
ส่วนประเด็นปัญหาที่สำคัญอีกประการ ก็คือ การหาแหล่งสมุนไพรที่เป็นธรรมชาติ มาเป็นวัตถุดิบเพื่อป้อน ในการทำแจกนั่นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ปีนี้ ฟ้าก็เริ่มเปิดหนทางให้บ้างแล้ว นับตั้งแต่ ชาวเขาใน จ.เชียงราย พื้นที่ พุน้ำร้อน ในบริเวณ ชายแดนไทยพม่า ที่ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ยอมหลีกทางให้ตั้งเป็นศูนย์รับซื้อสมุนไพร และล่าสุดซึ่งเป็นส่วนที่หลวงพ่อนิพนธ์อยากได้ นั่นคือ การตั้งศูนย์รับซื้อสมุนไพรในฝั่งพม่า ในขณะที่ไปแสวงหาก็พบคนพื้นที่ที่บังเอิญเป็นคนไข้ จึงได้ยกบ้านของตนที่ซื้อไว้ในฝั่งพม่าให้หลวงพ่อนิพนธ์ จัดทำเป็นศูนย์รับซื้อสมุนไพร
ฝันของหลวงพ่อนิพนธ์ ที่จะทำให้ปณิธานที่แม่ชีเมี้ยนมอบให้ นำสมุนไพรมาช่วยเพื่อนพี่น้องชาวไทย ก็คงใกล้จะเป็นจริง เราก็คงจะได้เห็นหมู่บ้านที่ไม่เคยมี ปรากฎขึ้น นั่นคือ หมู่บ้านผู้ป่วยโรคเอดส์ หมู่บ้านผู้ป่วยยาเสพติด หมู่บ้านผู้ป่วยโรคหัวใจ หมู่บ้านผู้ป่วยโรคมะเร็ง และอื่นๆ ที่ซึ่งผู้เข้ามาแล้ว สามารถเดินออก และกลับไปเป็นคนดีของบ้านและของสังคม ไม่ใช่สถานที่ที่เดินเข้าแล้วหามออก เอาไว้ได้เป็นทางเลือก ไม่ใช่ไปให้ฝรั่งหลอกกินหมด เสียทั้งทรัพย์ เสียทั้งชีวิต อย่างที่เป็นอยู่
และที่ฝัน อันสูงสุด นั่นคือ กระบวนการที่ใช้ในการกอบกู้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นั่นคือ การที่ได้เดินตามรอยและแสดงรูปลักษณ์ของพระภูมีนั่นเอง อันได้แก่การบวช แล้วถือวินัยของพระภูมี ที่เป็นหนทางที่ได้ผลเฉียบขาด ซึ่งหลวงพ่อนิพนธ์ใช้มาตั้งแต่ปี ๓๐ ไม่ว่าผู้ป่วยชนิดใด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เข้าขั้นวิกฤต
ตัวอย่างล่าสุดที่หลวงพ่อนิพนธ์มักชี้ให้เห็น ก็คือ คนไข้โรคหัวใจ ที่หมอลงความเห็นว่าต้องผ่าสถานเดียวมิฉะนั้นตาย คือคุณปรีชา หัวหน้าทีมสมุนไพร หลังจากผ่านคอร์สการบวช ถือวินัย และทานสมุนไพร เพียงพรรษาเดียว ก็กลับมาเป็นปกติ ไม่ต้องผ่า ไม่มีหอบเหนื่อย ทำงานได้ทั้งวัน
เราก็ฝันว่า จะได้เห็นพระพุทธกาลที่แท้จริง อีกครั้ง ซึ่งเลือนหายไปนับแต่ถ้ำกระบอกล่มสลาย กลับมาให้เป็นที่กราบไหว้ และพึ่งพิงอีกครั้ง เร็ววันเช่นกัน อันเป็นเอกลักษณ์ที่แม่ชีเมี้ยนกล่าวว่า พระของพระพุทธเจ้า ไม่มีเป็นโรค ไม่มีหลังงอ ตาฝ้าฟาง แม้นอายุ ๑๒๐ ปี ก็ยังทำกิจเดินธุดงค์ได้ปกติ
ฝันอันนี้ จะแสดงให้เห็น พุทธดำรัสว่า เมื่อพบและทำตามศาสนา อายุจะเป็นเพียงตัวเลข นี่แหละคือที่มาของ "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น