ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555
คุณค่าของการให้
เพราะคนไม่รู้ค่าจึงไม่ซึ้ง สิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์พยายามฝึกให้เรามีนิสัยพระเวสสันดร ก็เฉกเช่นนี้
แม้จะดูน้อยนิด จากผลของข้าวแกงที่เราทาน น้ำที่เราซื้อ ขนมที่เราหิ้วกลับบ้าน ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่
หากแต่กำไรจากหยาดเหงื่อของทุกคนที่ร่วมเข้ามา เทรวมกันลงในสมุนไพร แลเมื่อคนทุกข์มารับไป ย่อมจินตนาการได้ถึงผลอันมหาศาล
เราอาจมีวิศวกรไทยที่เก่งกาจ พัฒนาประเทศให้เจริญ แต่จะมีวันนั้นได้อย่างไร เพราะเขาไม่มีสมุนไพร และไม่มีชีวิตรอดไปถึงแม้วันรับปริญญา หลังจากเรียนจบ
เราอาจมีผู้หญิงไทยที่เก่งระดับโลกอีกคน หากจะมีวันนั้นได้อย่างไร ในเมื่อน้องคนนั้น หมอสั่งตัดขา ด้วยโรคมะเร็ง จนต้องเลิกเรียน แม้นจะได้ที่หนึ่งของห้องก็ตาม
เสาหลักของครอบครัวอีกเท่าไรที่ต้องล้ม ตามมาด้วยครอบครัวที่แตกกระสานซ่านเซ็น ด้วยผลของหนี้ที่ใช้ในการรักษา หากไม่มีสมุนไพร
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักกล่าวว่า จงภูมิใจ และสุขใจเถิด ทุกครั้งที่เราทานข้าวแกง แม้นไม่สุขจากรสอาหาร แต่สุขที่ได้เดินตามพระภูมี สุขที่ได้เป็นผู้ให้ แลมองสุขของผู้ที่มารับสมุนไพร อันเป็นผลจากหยาดเหงื่อของเรา เห็นเขาหัวเราะได้ เห็นครอบครัวเขากลับมามีสุข แลเชื่อเถิด สุขนั้นจะย้อนกลับมาหาตนของเรา
อย่าไปเพลินกับสุข จากการเป็นชูชก เอาเปรียบผู้อื่น เพราะผลท้ายสุดย่อมหนีไม่พ้น "ท้องแตกตาย"
ศาสนา จึงสอนให้เราเป็นพระเวสสันดร เป็นผู้ให้ สิ่งที่เรากินเราใช้ จึงต้องมีหยาดเหงื่อของเราผสมอยู่ไม่มากก็น้อย จึงไม่มีหนี้ ไม่มีกรรม มาตามทวง ให้เกิดทุกข์แก่ตนของเราในภายภาคหน้า
แค่เห็นและมองพิจารณา เด็กและเยาวชนที่มาทานสมุนไพร จะได้กลับไปมีชีวิตที่สมบูรณ์ เป็นกำลังที่มีคุณภาพ ทั้งสติปัญญาและคุณธรรม ในอนาคต ไม่ต้องอิ่มข้าว ก็อิ่มบุญแล้ว