วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

ปราชญ์


ความรู้ของศาสนา เป็นจริงและมีเหตุและผลสมบูรณ์ครบถ้วน เมื่อผู้ใดรู้ แล้วทำ ย่อมเกิดผลที่ถูกอย่างแน่นอน

จึงไม่น่าแปลกที่คนโบราณ มักจะให้ลูกหลานได้บวช ได้เล่าเรียน

เมื่อบวชเรียนแล้ว ก็เรียกว่าผู้นั้น สุกแล้ว

สิ่งที่พระภูมีตรัสรู้ คือ ธรรมชาติ ความจริงของมนุษย์และจักรวาล ดังนั้น ภูมิปัญญาที่ได้กลั่นกรองออกมา จึงสมบูรณ์ ไม่จำเป็นต้องพัฒนาประการใดอีก เพราะรู้แจ้งเห็นจริงแล้วนั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์ จึง มักเล่าให้ฟังเสมอๆ เพื่อให้เราท่านค้นหาคำตอบกับตัวเอง ว่า สิ่งที่เราแสวงหาคือความสุขใช่ไหม แลสุขที่ว่านั้นเป็นเช่นไร

ท่านจึงมักเปรียบเปรย เวลาเรากลับบ้าน สุนัขที่เลี้ยงไว้วิ่งมาหา ให้ดูแววตา แล้วพิจารณา ว่า สิ่งใดคือความสุข เพราะสัตว์ไม่มีกิเลส สุขที่แท้จริงจึงเป็นการได้กิน แล้วนอนหลับ

พระภูมีจึงชี้ให้เห็นว่า กรรมเป็นต้นเหตุแห่งโรค ทำให้เราท่านเป็นโรค เพื่อผลก็คือ ทำให้เราเป็นทุกข์จากกรรมที่ทำมานั่นเอง ดังนั้นผลของมันจึงปรากฎในที่สุด แห่งรากเง้าความสุขของมนุษย์ คือ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ

เมื่อพิจารณา เราจะพบว่า เมื่อใช้ภูมิปัญญาของมนุษย์ ไม่ว่าจากใคร เราก็ไม่อาจที่จะนำสุขอันนี้กลับมาได้เลย เป็นเก๊าต์ไปหาหมอ หมอบอกว่ารักษา แต่ห้ามกินไก่ เป็นมะเร็ง ห้ามกินเนื้อ เป็นนี่ห้ามกินนั่น .....

ก็สุขอยู่ที่การกิน อยากินแล้วได้กิน อยากนอนได้นอน โรคมันจึงมีหน้าที่ทำให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับ

ถ้าสิ่งที่มนุษย์คิดแล้วแก้ปัญหาได้ เราท่านก็จะได้ความสุขเหล่านั้นกลับคืนมาให้สุขเหมือนเดิม แต่พิจารณาเท่าไร ก็มีแต่หายเพิ่มขึ้น เบาหวาน จากลดหวาน ท้ายสุดกินได้แต่วุ้นเส้น

เมื่อเจอปราชญ์ คือพระภูมี ที่ทรงรู้แจ้ง แม่ชีเมี้ยนเห็นและนำมาถ่ายทอด หลวงพ่อนิพนธ์ขันอาสา มาทำให้ พร้อมบอกกล่าววิธีที่จะทำให้สุขอันนั้นคืนกลับมา

เราจึงเห็นความแตกต่างที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงระหว่าง ภูมิปัญญาของมนุษย์ ที่เมื่อใช้แล้วมีแต่ลดทอนสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ภูมิปัญญาของพระภูมี เมื่อใช้แล้วสุขนั้นก็จะเริ่มกลับมาเรื่อยๆ

เราจึงเห็นคุณเล็ก ธานินทร์ อินทรเทพ ดีใจ ที่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ถ้าเล็กทานสมุนไพรถึง จะกินเหล้าสูบบุหรี่ ก็ตามใจ เราจึงเห็นรอยยิ้มของคนไข้ เมื่อวิทยากร อ.อร่าม กล่าวว่า เมื่อทานสมุนไพรไประยะหนึ่ง คนไข้เบาหวานให้เริ่มทานหวาน คนไข้เก๊าต์ให้ทานสัตว์ปีก คนเป็นมะเร็งให้ทานเนื้อสัตว์

นั่นคือความสุขที่แท้จริง ที่กลับมาทานอาหารได้ครบห้าหมู่ อยากทานสิ่งไรได้ทาน

พิจารณา แค่ประเด็นนี้ ก็เห็นได้ว่า หลักใดเป็นหลักปราชญ์กันแน่แท้ หากผู้พิจารณาเอาเหตุและผล

และเมื่อนำไปโต้เถียงกับผู้อื่น ก็ไม่มีวันแพ้

ใครบอกว่ายาที่นั่นดี ที่โน่นดี แค่บอกว่า ทำให้เราทานอาหารได้ทุกอย่างได้ไหม ก็โกยอ้าวแล้ว...

และยิ่งอวดอ้างสรรพคุณ ได้ผ่านการพัฒนา อย่างนั้นอย่างนี้ ยิ่งต้องหนีให้ไกล เพราะคนที่รู้จริง เขาแก้ตรงจุด ทำครั้งเดียวจบ

มันจึงน่าแปลกใจ ที่คนที่ไม่เคยมีผลงาน กลับมีคนเชื่อมากมาย แต่คนที่มีผลงาน กลับทำใจยอมรับไม่ได้ แม่ชีเมี้ยนจึงตรัสให้หลวงพ่อนิพนธ์ทำใจ ก็กรรมไง "กรรมมันบังตา"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44