หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า ศาสน์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน มันผิดเพี้ยนไปจากเดิมมาก ทำให้การกระทำของมนุษย์ ที่หวังหนทางบุญ จึงทำผิดตามไปด้วย
สิงหนึ่งที่ยืนยัน นั่นคือ พระพุทธเจ้า ไม่ใช้ศีล หรือ พูดอีกนัย ว่า ศีล ไม่ใช่บทบัญญัติของพระภูมี
ความข้อนี้ ชี้ให้เห็นชัดว่า ผู้แต่งพระไตรปิฏก หาใช่พระของพระภูมีไม่ แต่หากเป็นหราหมณ์ ที่เขียนแต่งขึ้นมา เพื่อแปลงวินัยของพระภุมี ให้เข้ากับความต้องการของตน
เมื่อแต่งเรื่องเอง ข้อความจึงสับสน ขัดกันเอง
ดังความตอนหนึ่ง ในพระไตรปิฎก จักเห็นว่า เมื่อครั้งที่พระมารดาของพระพุทธเจ้า อยากมีบุตร สิ่งที่พราหมณ์แนะนำ คือ การให้ไปถือศิล นั่นหมายความว่า ศีล มีมาก่อนพระพุทธเจ้าอุบัติ
และสิ่งที่ยืนยันหนักว่า ศีล ไม่ใช่บัญญัติของพระภูมี ก็ด้วยเหตุที่วินัยของพระภูมี เป็นวินัย แห่ง บุญ ที่มีอำนาจเหนือ บาป หรือ กรรม
ในเมื่อ กรรม มีอำนาจ ทำให้ทุกข์ รูปของกรรมที่เด่นชัด สัมผัสได้ นั่นก็คือ โรค ที่ทำให้เราท่านทุกข์นั่นเอง
เอกลักษณ์ของบุญ คือ สุข ดังนั้้น พระของพระพุทธเจ้า จึงไม่มีองค์ใด ที่มีลักษณะของกรรม นั่นคือ ไม่มีลักษณะเดินหลังงอ ตามัว หูหนวก อ่านธรรม ฟังธรรมไม่ออก จนสิ้นอายุขัย
แต่เมื่อมองพระทุกวันนี้ ที่ถือศิล กลับไม่มีเอกลักษณ์ พื้นฐานเหล่านี้เลย สาวกของพระพุทธเจ้า ที่ประพฤติปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด หากมีสภาพเช่นนี้ พระภูมีจะเอาหน้าไปไว้ไหน
เพราะ ศีล ไม่ใช่บัญญัติของพระภูมีนั่นเอง ทำให้ผลการปฏิบัติ ไม่มีบุญ กลับมาเลี้ยงตน จึงต้องมีโรงพยาบาลสงฆ์ พระก็ไม่ดำรงหลัก "ตนพึ่งตน" เป็นอะไร ก็ต้องไปหาหมอ เช่นกัน
ความจริงข้อนี้ ช้าเร็วย่อมปรากฎ เมื่อพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ มาอุบัติ จึงมีหน้าที่หลักอันแรก คือ สังคายานา ธรรมวินัย พระที่บวชเข้ามาหาศาสนาหากิน ทำไม่ได้ ย่อมต้องลาสึกไป หรือแยกออกไปตั้งลัทธิของตนเองใหม่
แลนิทานศาสนา เรื่องหินดำ ที่ตั้งอยู่ในเมืองเมกกะ จะแตกออก เมื่อพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ปรากฎ เพื่อยืนยันว่า ทุกศาสนา ล้วนมีที่มาจากแหล่งเดียวกัน ด้วยจักปรากฎพระพุทธรูปสถิตย์อยู่ในหินดำนั้นเอง
วินัยหาบุญของพระพุทธเจ้า นั่นคือ การสร้างปูชนียบุคคล หาใช่ปูชนียวัตถุ ดังที่ถูกสอนให้ทำกันเกลื่อนกลาดทุกวันนี้
ผลการไปฝังลูกนิมิต หรือสร้างโบสถ์ ไม่ว่ากี่หลัง ก็จึงไม่เท่า มะกรูดลูกหนึ่ง ที่นำมาทำสมุนไพรให้ผุ้อื่นทาน เพราะวัตถุเหล่านั้น ไม่ได้ให้สุขแก่ผุ้ใดเลย แต่สมุนไพรทำให้ผู้ทานพ้นทุกข์จากโรค ....
และยิ่งปฏิบัติธรรม แม้นจักเพียงข้อเดียว เช่น ไม่โกรธ สักหนึ่งหรือสองชั่วโมง ก็ส่งผลให้สุขแก่คนรอบข้างมหาศาล
บทสรุปของบุญ ที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า พระภูมีทรงตรัสว่า หาบุญ อย่ามองไกล จับตนค้นตน แล้วจะพบ
ความสุขที่แท้จริง คือ การทานได้ นอนหลับ และจะมาได้ ก็ไม่ใช่แสวงหามาให้ตน หากแต่กลับได้มาจาก การให้สุขผู้อื่นต่างหาก
ปีใหม่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์ จึงให้ลองวางศีล มาใช้สัจจธรรม ของพระภูมี นำตน สักชั่วโมงสองชั่วโมง แล้วดูผลที่ได้จากการทำ .....
แล้วจะพบว่า เมื่อทำตามธรรมวินัย ... ไม่ว่าโรคอันใด .. ก็กระจอก มองข้ามช็อตไปได้เลย