ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556
เกร็ดความรู้
หลวงพ่อนิพนธ์ มักย้ำเสมอว่า การจะประสพความสำเร็จ ต้องมีองค์ความรู้ อันเป็นเหตุและผลประกอบ..
ทั้งนี้ เพื่อการเตรียมตัว เตรียมใจ รับสภาวะที่จะพึงเกิด และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการ ลงแดง ของแต่ละโรค
เพื่อจะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที และผ่านวิกฤตอันนั้นได้ จึงกล่าวว่า ศาสน์นี้ เป็นการชิงไหวชิงพริบ ระหว่าง ธรรม กับ กรรม เพื่อแย่งชิงสาวก ก็ว่าได้
หลวงพ่อนิพนธ์จึงยกตัวอย่างให้เห็น ในคนไข้ เบาหวาน เมื่อถึงขั้นตอนลงแดง สุดท้ายสุด ร่างกายจะเคลียร์น้ำตาลในสมอง และเกิดอาการชั่วขณะ นั่นคือ มีอาการเป็นลม หน้ามืด
หากเราไม่เรียนรู้ แล้วพาคนไข้ไปหาหมอ ใช้เคมีช่วย น้ำตาลก็จะวกกลับไปค้างในสมองอีก ไม่สามารถหายจากเบาหวานได้
เมื่อเรียนรู้และเตรียมพร้อม รอรับวิกฤตอันนี้ ก็จะทำได้ง่ายๆ โดยการเตรียมสมุนไพรลูกกลอนดำ หรือ ลูกกลอนน้ำผึง ไว้ และเมื่อปรากฎอาการดังกล่าว ก็รีบชงกับน้ำอุ่นทานทันที่ เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่านวิกฤติอันนั้น ปล่อยไว้สักพัก คนป่วยก็จะฟื้น และนั่นคือการหายโรคเบาหวาน
น่าเสียดายที่ การเปิดเป็นสถานพยาบาล ไม่สามารถทำได้ในประเทศไทย สิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์อยากให้เกิด คือ การรวมกลุ่มคนที่เป็นโรคเดียวกัน เข้าไว้ด้วยกัน และบอกเล่าอาการให้ฟัง เพื่อเป็นองค์ความรู้ในการเตรียมตัว เตรียมใจ ที่สำคัญ คือ สร้างความมั่นใจว่า สิ่งที่เกิด เราท่านเดินมาถูกทาง จิตใจจะได้มั่นคง มีศรัทธา มานะ ขันติ อดทน ทานสมุนไพร ...
หลวงพ่อนิพนธ์จึงดำริว่า หากกิจกรรมในพม่า สามารถดำเนินการจนได้รับการยอมรับ และจัดตั้งโรงพยาบาลสมุนไพรได้ สิ่งหนึ่งที่จะทำ นั่นคือ การเขียนหนังสือ เพื่อให้คนไข้โรคนั้นได้อ่าน ว่า สิ่งที่จะต้องเผชิญในกระบวนการฟื้นฟูตน จนสำเร็จ ต้องผ่านอะไรบ้าง และด้วยองค์ความรู้นี้ จะทำให้คนป่วย มีสมาธิ ไม่ตกใจ ตี่นตูม ไปกับอาการที่เกิด