ช่วงนี้หลายท่านอาจจะพบเห็นชาวพม่ามากหลายเดินทางมายังชมรมคนรักสุขภาพ การตื่นตัว และเห็นช่องในการช่วยคนของเขา
สัปดาห์ที่แล้ว ทางการพม่าประชุมที่เนบิดอร์ ลงความเห็นว่า ประเทศกำลังจะเจริญก้าวหน้าขึ้น แต่หากพิจารณา ความเจริญที่มาจากตัวอย่าง อาทิ ประเทศไทย แล้ว ทางรัฐมนตรีสาธารณสุขแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า อัตราการนำเข้ายาเคมีของไทย ปัจจุบันมากกว่า สามแสนล้านบาท ต่อปีแล้ว หากนับมูลค่าที่ใช้ในกระบวนการสาธารณสุขทั้งหมด ก็คิดเป็นเงิน หนึ่งล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งรัฐบาลพม่าคงจะประสพปัญหาอย่างแน่นอน
ดังนั้น ที่ประชุมเมื่อได้รับการยืนยันจาก ส.ส. ส.ว. และบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่ของประเทศที่ได้ผ่านการฟื้นฟู โดยสมุนไพรแม่ชีเมี้ยนมายืนยันแล้วว่า ทำได้จริง จึงลงมติเป็นเอกฉันท์ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ให้รัฐทวายเป็นรัฐตัวอย่าง และวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ส่งคณะ ส.ส. ส.ว. มาอีกครั้ง กว่า ๒๐ ท่าน เพื่อมายืนยันแก่หลวงพ่อนิพนธ์ในการให้การสนับสนุนกิจกรรม
ในการมาครั้งล่าสุด คณะของพม่า ได้แจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างอาคาร ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และอยู่ในกระบวนการเทเสาแล้ว และเชิญให้หลวงพ่อนิพนธ์ ในวันอังคารนี้ เข้าไปเพื่อชมความก้าวหน้าของโครงการ
ในขณะเดียวกัน แจ้งให้ทราบว่า ส.ส.ท่านหนึ่งของรัฐเนบิดอร์ ที่ได้รับการฟื้นฟูด้วยโรคเบาหวาน จากวิกฤตจนกลับมาเกือบปกติแล้วนั้น ได้เสนอยกที่ของเขาที่ติดกับพื้นที่โครงการ อีก ๑๒๐๐ ไร่ เพื่อเตรียมให้หลวงพ่อนิพนธ์เผื่อไว้ขยายในอนาคต
ทางคณะแจ้งให้ทราบว่า ตอนนี้รัฐบาลได้รวบรวม คณะผู้สนับสนุนกิจกรรมนี้ที่เป็นคหบดีของพม่า ที่ตอบตกลงเห็นพ้องด้วย จำนวนกว่า ๗๐ ท่าน
ทางคณะแจ้งเพิ่มเติมให้หลวงพ่อนิพนธ์ทราบว่า รัฐบาลกลางได้รับข้อเรียกร้องของหลวงพ่อนิพนธ์ทุกข้อ รวมทั้งการขอสัญชาติพม่าเป็นกรณีพิเศษ หากแต่รัฐบาลกลางอยากจะให้โอนเชื้อชาติด้วยจะได้หรือไม่
การร้องขอนี้ หลวงพ่อนิพนธ์ปฏิเสธไป เพื่อให้สิทธิ์ของคนไทยยังคงอยู่นั่นเอง
และระหว่างดำเนินการสร้างอาคาร ทางพม่าก็ขอดำเนินกิจกรรมคู่ขนาน ที่ซึ่งในอดีตรัฐบาลได้ให้การสนับสนุน โครงการในรัฐทวาย เป็นศูนย์ผู้ป่วยเอดส์ ที่ซึ่งต้องซื้อยาเวชภัณฑ์จากไทยเพื่อสนับสนุน เดือนละสองแสนกว่าบาทนั้น มาเป็นศูนย์ทดลองการฟื้นฟูผู้ป่วยเอดส์ด้วยสมุนไพร
ฟังแล้วดีใจปนเศร้า เพราะแต่ไหนแต่ไรเราคิดเสมอมาว่า พี่น้องคนไทย ต้องเป็นคนกลุ่มแรกที่จะมีโอกาสได้ฟื้นฟู มาวันนี้กลับกลายเป็นพม่า ที่มีโอกาส
กิจกรรมนี้จะเป็นศูนย์แรกที่ทางพม่าจะจัดตั้งขึ้น ตามมาด้วยศูนย์บำบัดยาเสพติด
ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลพม่ากับหลวงพ่อนิพนธ์ ก็จะตัดสินด้วยผลของโครงการทั้งสองนี้ หากประสพผลสำเร็จ ทางรัฐบาลพม่า จะออกใบอนุญาติและจัดตั้งโรงพยาบาลสมุนไพรให้
ท้ายที่สุดของบทสนทนา หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวแก่คณะของพม่าว่า กิจกรรมในอนาคต จะไม่ให้ทางรัฐบาลพม่าต้องมาเป็นภาระ โดยชี้ให้เห็นเฉกถ้ำกระบอก เมื่อผลงานที่ออกมาเป็นที่ยอมรับของโลก ย่อมต้องมีผู้ที่ต้องการและสนับสนุนอย่างแน่นอน