วันอาทิตย์ที่ผ่านมา รัฐบาลพม่า ได้แสดงความพร้อมในการสนับสนุนให้เห็น ด้วยการนำคณะของผู้ใหญ่บ้าน ๒ หมู่บ้าน พร้อมลูกบ้าน มาเยือนที่มูลนิธิไทยกรุณา
ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้าน รับปากจะทำหน้าที่ในการปลูกสมุนไพรป้อนให้ พร้อมกันนี้ได้พาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านต้นไม้ชนิดต่างๆ มาเรียนรู้ศึกษาว่า สมุนไพรชนิดใด ที่เป็นที่ต้องการของที่นี่
พม่าเปิดอกแสดงความพร้อมในทุกด้านแก่หลวงพ่อนิพนธ์ และที่สำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจ ว่าทางรัฐบาลพม่าจะไม่ยึดพื้นที่คืน จึงได้ขอเอกสารเพื่อจัดทำบัตรประชาชนพม่า เป็นกรณีพิเศษแก่หลวงพ่อนิพนธ์ เพื่อที่จะยกพื้นที่ทีมอบให้เป็นสิทธิ์แก่หลวงพ่อนิพนธ์ ให้ครอบครองได้ตามกฎหมาย
หลวงพ่อนิพนธ์จึงได้บอกแก่คณะของพม่าว่า มีความประสงค์ที่จะให้อาคารสถานที่แล้วเสร็จ ก่อนวันงานของแม่ชีเมี้ยน และเริ่มเปิดศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยเอดส์ และยาเสพติด ในลำดับแรก
คณะของพม่าแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้ได้จัดเตรียมผู้ป่วย ที่จะเข้าโครงการแรกนี้ไว้แล้ว จำนวน ๗๐ คน
เมื่อฟ้าเขาเปิดทางโล่งให้แก่สมุนไพร การอุบัติของโรงพยาบาลเมตตา และศูนย์ในพม่า จะทำให้โลกได้ประจักษ์ว่า สิ่งที่แม่ชีเมี้ยนทิ้งไว้ให้ มีค่ามหาศาลเพียงใด มิใช่เฉพาะประเทศไทย หากแต่เป็นมนุษย์ทั้งโลก
คำเปรยๆ เบาๆ ที่เราได้ยิน ก็คือ "เสียดายที่คนไทยไม่เห็นค่า"
คนไทยที่ตายด้วยเหตุอันไม่ควรจากโรคเหล่านี้ น่าจะเป็นกำลังของชาติ แต่ด้วยความโลภของคน ทำให้หมดโอกาส ที่สำคัญ คนไทยก็ยังไม่ตื่นตัว .... เราจึงต้องเสียสิ่งดีๆ ให้แก่พม่าไป