วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ชวนให้คิด

เมื่อมนุษย์นำสรรพสิ่งในโลกมาขาย ท้ายที่สุด ก็พบว่า สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องซื้อ และยอมจ่ายเงินโดยไม่เกี่ยงงอน นั่นคือ ตัวมนุษย์นั่นเอง

เมื่อความโลภบังเกิด ด้วยเงินอันมหาศาลที่มองเห็น ทำให้ธุรกิจมนุษย์มันใหญ่เกินกว่าใครจะเอื้อมเข้าไปขัดขวาง หากแม้นจะคิด ก็ถูกกระแสความโลภกลืนเข้าไปในที่สุด

ความจริงอันนี้ หลวงพ่อนิพนธ์ผู้รับอาสาจากแม่ชีเมี้ยนชี้ให้พิจารณา เริ่มตั้งแต่โรคพื้นฐาน คือ การปวด ก็ต้องทานยาแก้ปวด

เมื่อเป็นยารักษา รักษาแล้วก็ต้องบรรเทาเบาบางลง และหายในที่สุด นั่นคือ ผลสุดท้ายแม้นไม่ทานยา ก็ไม่มีอาการปวด

แต่ความเป็นจริงที่สัมผัสหาเป็นเช่นนั้นไม่ เริ่มจากทานหนึ่งเม็ด ทานไปทานมาเป็นกำ แล้วก็จบด้วยการเอาอาการปวดไม่อยู่

หากพิจารณาตามคำโฆษณาชวนเชื่อ ของวงการแพทย์และยาแล้วไซร้ มียารักษาโรคมากมาย เต็มไปหมด ก็ล้วนแล้วมาในวัฐจักรเดียวกันกับยาแก้ปวด เป็นเบาหวาน ก็เริ่มจากยาหนึ่งเม็ด ทานไปทานมา ยาเม็ดเอาไม่อยู่ ก็ต้องฉีด ... แล้วก็ไปตามกระบวน สุดท้ายไม่ว่าโรคใด จบด้วยคำอมตะของหมอ

สิ่งนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นไม่ชัดเจนอีกหรือ ว่า นี่คือ การโกหกคำโต แท้จริงแล้วยารักษาโรค ไม่มีในโลก

หันมามองอีกฝั่ง โหมโฆษณากันมากมายในทีวีดาวเทียม เสนอตัวเป็นทางเลือก ที่ฉีกจากยาเคมี นั่นคือ อ้างสมุนไพร

มีตัวละครมาประกอบ เห็นผลในเท่านั้นวัน เท่านี้วัน ... เมื่อพิจารณาไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็ประกอบด้วยเสตียรอยด์ ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันก็ชี้ให้พึงระวัง

แต่สิ่งที่ร้ายไปกว่านั้น ไม่เคยมีใครเตือน นั่นคือ การเติมเกสรฝิ่นเข้าไป เพื่อให้มีสรรพคุณในการกระตุ้นพลัง จะเรียกว่าโด๊ป ก็น่าจะได้ เพราะเมื่อทานเข้าไปแล้ว จะทำให้ดูเสมือนว่า ร่างกายแข็งแรงขึ้น หากแต่มันเป็นเหมือนเทียนวูบสุดท้าย ที่สว่างไสว บรรเจิด เพื่อรอวันดับ

หลัก "ตนพึ่งตน" ของพระภูมี จึงตอกย้ำ ในเหตุและที่มาของโรคว่า "โรคเกิดแต่กรรม" หากโรคนี้มีมนุษย์ผู้ใด สามารถทำยารักษาโรคได้ นั่นหมายความว่า มนุษย์ผู้นั้น มีอำนาจเหนือกรรม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะโลกนี้เป็นโลกของกรรม ทุกสรรพสิ่ง ย่อมเป็นไปตามกรรม

บทสรุป ในคำสอนจึงชี้ให้เห็นว่า ไม่มียารักษาโรค อย่างแน่นอน ไม่ว่าโรคใด จะเว้นไว้ก็แต่อาการชั่วคราวที่มาเกิดแล้วก็จากไป หรือที่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า โรคกรรมผ่าน หากแต่โรคตาย .... ไม่มียา นับแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ... รอไปเถอะ อีกกี่ปีก็ไม่มีทาง

ในขณะที่สูตรสมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ก็หาใช่ยารักษาโรคไม่ หากแต่เป็นสมุนไพร ที่มีสารที่ร่างกายต้องการ นำไปใช้ในการฟื้นฟูอวัยวะ และสร้างภูมิของร่างกายให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม ส่วนภาระการรักษาโรค เป็นธรรมชาติของร่างกาย ที่จะต้องรักษาสังขารไว้ ให้อยู่ได้ตามพรหมลิขิตนั่นเอง

ดังนั้น หากพรหมลิขิตยังมี นั่นคือ คำตอบที่ทำให้คนอยู่ได้ จะเว้นเสียก็แต่ คนผู้นั้นทำลายพรหมลิขิตตนเอง จากการทานเคมี จนร่างกายรับไม่ไหว

การดำรงได้ด้วยเคมี จึงกลายเป็นบาปเบิ้ล ด้วยเหตุแห่งการทำร้ายตับ ไต ไส้ พุง ของตนเอง จนบาปนั้นทวีคูณ ด้วยเหตุแห่งสังขารที่ตนใช้นั้นยืมเขามาแล้วไม่ดูแล สิ่งที่ต้องเผชิญ จึงมีทั้งโรค ทั้งบาปเก่า และบาปใหม่ จากการทำร้ายตน จนในที่สุด พรหมลิขิตของตนก็หักสะบั้น ตายทั้งที่ยังไม่ครบพรหมลิขิต

หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า เมื่อเหตุดังกล่าวเกิด ภาพที่จะพึงเห็นมากขึ้น นั่นคือ เด็กที่เกิดมาเพื่อใช้พรหมลิขิตให้ครบ จึงมีสภาพไม่สมบูรณ์ หรือ ตามตั้งแต่อายุยังน้อยมากขึ้น ... อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คำสอนปีใหม่ ของหลวงพ่อนิพนธ์ จึงทิ้งให้คิด โดยเฉพาะพวกที่ไปสารพัดม๊อบทั้งหลาย โดยอ้างประเด็น "กู้ชาติ" หากแต่ชาติ ล้วนประกอบด้วยเราท่านทั้งหลาย เมื่อเราท่านทั้งหลาย ทานสมุนไพร ประพฤติตามธรรมคำสอน ก็จะกลายเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ นั่นมิใช่การ "กู้ชาติ" หรือ ได้ทั้งพลเมืองที่ดี ประหยัดงบประมาณชาติ ที่สำคัญ เป็นพลังที่ให้สุขแก่บ้าน สังคม และประเทศชาติ

จะไปกู้ชาติ ก็แล้วแต่ ... แต่ไม่กู้ตนเองก่อน ... จะไปกู้ชาติได้อย่างไร

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44