วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พุทธประวัติ

หลวงพ่อนิพนธ์มักชี้ให้เห็นเสมอว่า คำสอนหลักของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนทรงนำมา เน้นที่ "ตัวกระทำ"

คำขยายความ ผลของ "ตัวกระทำ" คือ ตัวกระทำไม่ตาย จะทำสักฉันใดไม่ตายเลย

ดังนั้น เมื่อผลของตัวกระทำบังเกิด จึงไม่มีอะไรมาลบล้าง นั่นจึงเป็นเหตุแห่งการยืนยันว่า เมื่อตัวกระทำเป็นกรรม ผลแห่งกรรมดลบันดาลให้เป็นโรค จึงไม่มียารักษาโรค และที่สำคัญ ไม่ว่าจะป้องกันสักฉันใด ก็ป้องกันโรคไม่ได้

การโทษนี่ โทษนั่น เป็นบ่อเกิดแห่งโรค จึงอุปมาเหมือน รำไม่ดี โทษปี่โทษกลอง ... ต่อให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อทั้งชาติ กินแต่ของดีๆ ผ่านการตรวจ การฆ่าเชื้อ ถึงเวลาก็เป็นโรค .... ฝรั่งเขาลองมาแล้ว

หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนให้เราพิจารณาว่า สิ่งที่เรากระทำ แล้วหวังผลในการทำนั้นๆ ต้องดูรายละเอียดว่า เป็นบุญจริงๆ ตามคำสอนของพระภูมีหรือไม่

มิใช่ว่า เมื่อทำแล้ว ก็ไม่สนรายละเอียด อ้างเหตุแห่งการทำ แล้วก็บอกหรือสรุปเองว่าสิ่งที่ทำเป็นบุญ

หลักแห่งการทำบุญ พระภูมีบัญญัติ มีมูลเหตุอย่างเดียว นั่นคือ "ทำกับมนุษย์และสัตว์"

นั่นคือ หากการกระทำนั้นๆ หามีผลให้สุขแก่มนุษย์และสัตว์ การกระทำอันนั้นก็หาบุญอันใดไม่ได้เลย

หลวงพ่อนิพนธ์จึงยกตัวอย่างเช่น ลูกนิมิต ที่กล่าวกันว่าปิดทอง ๙ วัด ให้บุญหลาย ก็หินก้อนนั้น เมื่อปิดทอง แล้วถูกฝังลงดิน ยังประโยชน์ให้แก่มนุษย์หรือสัตว์ ใดบ้าง หามีไม่เลย แล้วจะมีบุญมาเยียวยาผู้ทำได้อย่างไร

เมื่อการกระทำเป็นลม ผลก็คือ ความเลวร้ายที่บังเกิดแก่ผู้ทำ จึงยังคงอยู่ เพราะมันเป็นบุญที่คิดนึกเอาเอง หาใช่ตามพุทธบัญญัติไม่

เมื่อสารพัดคำสอน ทำให้เราท่านเดินเลย สัจจธรรมความจริงข้อนี้ไป ไม่สนรายละเอียด ครั้นมาวันนี้ หลวงพ่อนิพนธ์ได้นำกลับมาให้ทำอีก จึงเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคย และมองข้าม

อุปมาเช่น การทานข้าวแกง ซื้อน้ำ ในสถานที่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์ยืนยันว่ามันเป็นบุญ ก็ด้วยเหตุแห่งพงศาวดารของมันนั่นเอง

เมื่อทานข้าวแกง กำไรที่ได้ ก็จะถูกรวบรวมเข้าเป็นกองทุนซื้อสมุนไพร และเมื่อนำไปปรุง ก็จะกลายเป็นสมุนไพรที่แจกให้คนทุกข์มากมายมารับไป ก่อให้เกิดกับสุขแก่มนุษย์ผู้ทุกข์ยากเหล่านั้น

อณูใดของสมุนไพร ที่มาจากกำไรของข้าวแกงจานนั้น ที่ไปสร้างสุข ย่อมต้องย้อนกลับคืนไปให้เจ้าของ เฉกเช่นเดียวกับกรรม ที่ก่อให้เกิดทุกข์ ก็ย้อนคืนไปให้ผู้ทำเช่นกัน

ที่สำคัญ เราท่านถูกหล่อหลอม ให้นึกฝันแต่การกระทำที่เป็นบุญใหญ่ หากแต่หลักพระภูมี ให้สิทธิที่เท่าเทียมกัน ให้ทุกคนได้มีโอกาสเช่นกัน เจดีย์ของพระภูมี จึงประกอบด้วยเม็ดทรายเล็กๆ มารวมกัน หาได้มาจากหินใหญ่ไม่

ค่าของข้าวแกง จึงไม่ได้อยู่ที่ความอร่อย แต่ให้ความซาบซื้งว่า เมื่อเราท่านทาน นั่นคือ เราท่านได้เดินตามพระภูมี เป็นพระเวสสันดร ให้สุขแก่ผู้อื่นต่างหาก ข้าวแกงที่ทาน จึงให้คุณค่ามหาศาล ทานเอาบุญ ไม่ได้ทานเอารส

การจะทำอะไร หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า พระภูมีสอนให้สาวพุทธประวัติ ว่ามีผลกับผู้ใด สิ่งใด ....

เรื่องในอดีตที่มักจะถูกหยิบยก ก่อนที่จะมาเป็นหมอสมุนไพร เมื่อครั้งถ้ำกระบอก ... จึงถูกนำมาเล่าให้ฟังเสมอ .. นั่นคือ ความนึกฝัน และความชอบปลีกวิเวก อันเป็นนิสัยส่วนตน ของสามเณรนิพนธ์

ครั้งนั้น สามเณรนิพนธ์ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่นั่งความเพียร ได้ยาวนาน ไม่เป็นสองรองใครในถ้ำกระบอก ความชอบสันโดษ จึงมักไปนั่นบนเขา ทำความเพียร

วันหนึ่ง แม่ชีเมี้ยนจึงเรียกมาสอนว่า ในพุทธประวัติ ท่านเห็นฤาษีตนใดไปนิพพานหรือไม่ หามีไม่แม้นสักตนเดียว ก็ด้วยการนั่งบำเพ็ญเพียร ไม่เป็นบุญ นั่นเอง ฤาษีเหล่านั้น จึงไม่มีพาหนะบุญพาไปนิพพาน

ก็ด้วยบุญเกิดจาก มนุษย์และสัตว์ หากท่านจะแสวงหาบุญ ก็ต้องช่วยมนุษย์และสัตว์ที่ทุกข์ จึงจักได้บุญ

จากสามเณรนั่งความเพียร กลายมาเป็นสามเณรที่ต้องเดินเข้าป่าหาสมุนไพร มาช่วยคน นับแต่นั้นเป็นต้นมา

คำเตือนสุดท้ายในวาระปีใหม่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า เมื่อเราท่านมาฟื้นฟูตน แลมีกำลัง การนำสิ่งที่ได้กลับคืนมาแล้วนั้น ควรพิจารณาให้ดีว่า สิ่งที่ไปกระทำ นั้นให้สุขหรือให้ทุกข์แก่ผู้อื่น ... เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงไม่ส่งเสริมคนให้มีกำลังกลับไปเพื่อให้ทุกข์แก่ผู้อื่น


ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44