วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อุณหภูมิธาตุ

ความรุนแรงหรือหายนะทางสุขภาพ ได้เริ่มส่งสัญญาณให้เห็น ดังนั้นหลวงพ่อนิพนธ์จึงมักกล่าวย้ำในการสอนช่วงนี้ว่า ควรตื่นตัวและเตรียมพร้อม

สิ่งสำคัญประการหนึ่ง ที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็น นั่นคือ สารเคมีที่ตกค้างในเลือด อันมีคุณสมบัติเปรียบเสมือนน้ำแข็งแห้งก้อนเล็กๆ ที่อยู่ในระบบเลือด

เมื่อมีปริมาณมากขึ้น หากแต่สภาพภูมิอากาศยังอุ่นอยู่ก็ยังไม่แสดงผลมากนัก แต่เมื่อวันใดที่อุณหภูมิเย็นมากเข้า ร่างกายก็จะเกิดสภาพขั้วโลก นั่นคือเกิดความหนาวเย็น จนระบบการทำงานเสียไป ที่สำคัญ ตรวจจับด้วยเครื่องมือสมัยใหม่ไม่ได้เลย

จึงจะเห็นจากโรคหลายชนิดที่หมอหาสาเหตุไม่ได้

และหากเกิดสภาวะอุณหภูมิโลกสูงขึ้น ก็จะเกิดสภาวะช็อดของเซลล์ที่มีสารเคมีนี้อยู่ เช่นกัน

การทานสมุนไพรที่มีอุณหภูมิธาตุสูง ประมาณ ๕๐ ถึง ๖๐ องศา เช่น สมุนไพรมะกรูด หรือ สมุนไพรน้ำผึ้ง ทำให้ร่างกาย มีอุณหภูมิความร้อน เมื่อเกิดสภาวะหนาวเย็น ร่างกายก็จะไม่ถูกกระทบ เหมาะแก่ผู้ที่อยู่ในอากาศหนาว

ในขณะเดียวกัน ในสภาวะปกติ เมื่อทานแล้วจะรู้สึกร้อน นั่นทำให้ร่างกายปรับ และสร้างภูมิให้คุ้นเคยกับสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง ดังนั้นวันใดที่ร่างกายประสพเหตุ เช่น มีไข้สูง จากมาเลเรียขึ้นสมอง ที่ทำให้หมอมักกล่าวว่า เกิดอาการสมองไหม้ ในคนไข้บางราย ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะอุณหภูมิธาตุของสมุนไพรที่ทานเข้าไป มีความร้อนที่สูงกว่า เมื่อร่างกายคุ้นเคยและรับได้ ยามที่ต้องผ่านวิกฤต ก็จะทำให้ความร้อนจากเชื้อที่ขึ้นสูงนั้น ทำอะไรสมองของเราท่านไม่ได้

การทานสมุนไพร จึงหาใช่เป็นการทานเพื่อรักษาโรคที่เป็นอยู่เท่านั้นไม่ หากแต่เป็นการสร้าง เตรียมพร้อมร่างกาย ให้ป้องกันโรคที่จะพึงเป็นในอนาคตด้วย

หลวงพ่อนิพนธ์จึงสรุปให้เห็นชัดๆ ว่า ก็คนเป็นอัมพฤกต์ เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นมะเร็ง เขาเหล่านั้น มาทานฟื้นฟูตนยังหายได้ นั่นหมายความว่า คนที่ยังไม่เป็นเมื่อมาทาน ย่อมเป็นการป้องกันไม่ให้เป็นได้อย่างแน่นอน

จะเสียดายก็แต่คนทานไม่ยอมคิด จึงไม่เห็นค่า ไม่ให้ความสำคัญ ดั่งคำสอนของแม่ชีเมี้ยน ที่ตรัสแก่หลวงพ่อนิพนธ์ว่า สมุนไพรเหมือนธรรมของพระภูมี เมื่อท่านนำไปทำ คนทั้งปวงเขามองเห็นว่า คนที่มาหาท่านหิ้วมะกรูด ดีปลี พริกไทย มะพร้าว ... มาให้ท่าน แต่คนเหล่านั้นเขาไม่เห็นว่า สิ่งที่คนที่มารับสมุนไพรของท่านไปทาน ได้อะไร ผ่านวิกฤตไม่ต้องเป็นมะเร็ง อัมพฤกต์ ... ได้อย่างไร นั่นคือ สิ่งที่ท่านทำ อุปมาเหมือน ปิดทองหลังพระ

หากแต่กว่าคนเหล่านั้นจะรู้ ก็เมื่อความจริงปรากฎ ในรุ่นลูกรุ่นหลานของพวกเขาแล้วนั่นเอง เพราะเมื่อพวกเขาที่อยู่ในวัยที่ยังมีลูกได้ และลูกไปมีหลาน ความจริงก็จะปรากฎว่า ตัวเขาได้ให้มรดกที่มีค่าที่สุดแก่ลูกหลาน นั่นคือ ร่างกายที่บริสุทธิ์ ไม่มีโรค

วันนั้นแล ความแตกต่างระหว่าง คนที่ยืนหยัดให้ความสำคัญในการทานสมุนไพร จึงจะซาบซึ้ง

แต่สำหรับผู้ทานแล้ว ปีหน้าเมื่อเภทภัยมาถึง ก็จะเริ่มเห็นผลของสมุนไพร ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างได้รับผลจากเภทภัย คนที่ทานสมุนไพรจะยังยืนหยัดได้ อุปมาดังคำโบราณ ที่คนทานเคมีเหมือนผู้ดี คนทานสมุนไพรเหมือนขึ้คลอก ที่สังคมไม่ยอมรับ แต่ภาพที่ปรากฎเห็นคือ ผู้ดีเดินตรอก ขึ้้คลอกเดินถนน ... เพราะผู้ดีต้องมีผ้าปิดปาก ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันภัยจากโรค ไปไหนก็โรค แต่ขึ้คลอกทานสมุนไพร ไปไหนก็ไม่ต้องกลัว

มารอดูว่า พุทธประวัติอันนี้จะย้อนมาจริงหรือไม่

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44