วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คนไม่มีกิเลส

เราท่านมักได้ยินเสมอว่า พระภูมีและพระอรหันต์ จึงเรียกว่าเป็นผู้ที่หมดแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง

หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า อันที่จริงแล้ว คุณสมบัติของกิเลส นั่นคือ เข้าครอบงำคนที่มีความสามารถในการทำกรรมนั่นเอง

ทั้งสองอย่างแรก คือ ผู้มีธรรม ดังนั้นกิเลสจึงไม่สามารถเข้าไปบงการใดๆได้ เพราะเป็นผู้มีธรรมเป็นวินัยเสียแล้ว

หากแต่เราท่านก็จักพบเห็นผู้ที่ไม่มีกิเลสเสมอ และทั่วไป เพียงแต่คนเหล่านั้นต่างกับพระภูมีและพระอรหันต์ นั่นคือ เป็นบุคคลที่ไร้ความสามารถในการสร้างกรรม หรือยังทำกรรมไม่ได้นั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า คนหมู่แรกที่ยังไม่มีกิเลส ไม่มีความอยาก ความโลภ ไม่เคยแสวงหาสิ่งใด นั่นก็คือ ทารกนั่นเอง ที่ร่ำร้องก็แต่เพียงนม ยามหิว และคนอีกจำพวกก็คือ คนป่วยหนักนั่นเอง

ลองไปถามคนป่วยในห้องไอซียูซิ อยากดูทีวีไหม อยากฟังเพลงไหม อยากได้โน่นได้นี่ไหม คนเหล่านี้คือคนกลุ่มที่ไร้ความสามารถในการทำกรรม กิเลสจึงเมินไม่มอง

คนที่ไร้ซึ่งกิเลสเหล่านี้ ยามใดที่กลับมามีพลังในการสร้างกรรมวันใด กิเลสก็จะเกาะกินเข้าหาในทันใด ที่สำคัญ และเรียกได้ว่าเป็นจุดเปราะบางในการส่งเสริมให้ทำกรรม นั่นคือ การลืมเลือนสภาพที่ทรมาน บนเตียงนอนของโรงพยาบาล และอู่ที่เคยนอนกินนมไปเสียสิ้น ว่าแท้จริงแล้วความสุขของตนคืออะไร

ศาสน์ของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา จึงมีเพื่อตอกย้ำความจริงของสัจจธรรมข้อนี้ของมนุษย์ ให้ได้พิจารณา ว่า แท้จริงแล้ว ความสุขของมนุษย์คืออะไร คือการกินได้นอนหลับ ไม่มีโรคาพยาธิมาเบียดเบียน มิใช่หรือ

หลวงพ่อนิพนธ์จึงอาสาแม่ชีเมี้ยน มาตีฆ้องร้องปล่าว ให้คนหันกลับมา พิจารณาหลักของพระภูมี แล้วทำตนรอพระพุทธเจ้าที่กำลังอุบัติขึ้น ...

จึงต้องชวนกันให้ลดกิเลส นิสัย ของตนลง เป็นบางสิ่งบางอย่าง เพื่อรักษาตน รอจนถึงวันพระพุทธเจ้าอุบัติ อย่าได้ไหลไปตามกระแสโลก อันเป็นกระแสกิเลส จนกู่ไม่กลับ

จุดมุ่งหมายสูงสุด ของสถานที่นี้ ก็คือ การรวบรวมคนที่เชื่อและศรัทธาในศาสน์ของพระภูมี รอพระพุทธเจ้าอุบัติ และชวนกันไปเดินตาม ด้วยเล็งเห็นว่าเป็นทางซึ่งปลอดภัย และให้สุขที่แท้จริง ก็เท่านั้นเอง

จึงไม่ได้มุ่งหวังว่า จะต้องมีคนมากมาย เพียงแต่ทำให้เห็นจริงได้ว่า ธรรมของพระภูมี แม้เพียงเศษเสี้ยวที่ทิ้งไว้ให้ ก็ยังให้สุข นั่นคือ ความไม่มีโรค หากได้สัมผัสเนื้อนาบุญ ก็จะเห็นซึ่งสุขของพระภูมี ที่เล่าขานกันมากว่า สองพันปี ว่าเป็นเช่นไร .. จึงตรึงอยู่ในจิตใจของมนุษย์ และแม้นจะไม่ชอบ แต่ก็ต้องยอมรับ ในบุญญาธิการของพระภูมีทุกยุคทุกสมัย

แม้นยังไม่เห็นพระภูมีและพระอรหันต์ ที่หมดซึ่งกิเลส แต่คนที่ไม่มีกิเลสที่เห็นได้ทุกเมื่อเชื่อวัน น่าจะทำให้สะกิดใจแก่บางคนได้ว่า แท้จริงแล้วสุขของเราอยู่ที่ใด .. ควรหรือไม่ที่จะเรียนรู้ธรรมที่แท้จริงของพระภูมี เพื่อเดินไปให้ถึงสุขอันนั้น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44