วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คิดสักนิด

คนที่เป็นแพทย์ นับจากอดีตโบราณกาลมา มักต้องมีความสามารถที่จัดว่าเชี่ยวชาญสองอย่าง อย่างแรกก็คือ การวินิจฉัยโรค อย่างที่สองที่สำคัญมากนั่นคือ การปรุงยาที่ใช้ในการรักษา

แพทย์ท่านใดวินิจฉัยได้แม่นยำ อาจจะไม่สามารถรักษาโรคนั้นๆได้ ก็มีมากหลาย ดั่งจะเห็นได้จากหนังจีน ที่ตัวเอก หรือแม้แต่ฮ่องเต้เอง ที่เมื่อตรวจแล้ว รู้ว่าเป็นอะไร แต่รักษาไม่ได้ นั่นคือ ไม่รู้ว่าต้องใช้ยาอะไร กระบวนการใดในการรักษา

กระบวนการทั้งสองอย่างนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จักต้องมีในคนๆเดียวกัน เพื่อรักษาโรคที่เป้น หากแต่ปัจจุบัน ที่สั่งสอนให้เรียนตามหลักสูตรฝรั่ง กลายเป็นต้องแยกส่วนออกจากกัน กลายเป็นคนที่เรียกว่าหมอ มีหน้าที่วินิจฉัย แล้วเลือกยา ส่วนคนที่ปรุงยา ไม่มีหน้าที่วินิจฉัย เรียกว่าเภสัชกร

เมื่อคนเหล่านี้ไปประกอบวิชาชีพ จึงต้องมีใบประกอบโรคศิลป์ สำหรับคนวินิจฉัย และใบประกอบเวชกรรม สำหรับเภสัชกร

เรียกว่าได้ครึ่งๆ กลางๆ ทั้งสองฝ่าย แต่ก็ได้รับการยอมรับ นำชีวิตไปวางไว้ อย่างไม่เคยลังเล สงสัย หรือระแวงใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อมาพบพหูสูตรของพระพุทธเจ้า เราท่านจึงต้องฟังและเรียนรู้ เพื่อช่วยตน จึงจำเป็นต้องรู้ถึงเหตุที่มาของโรค ลักษณะอาการ ที่จะพึงเกิด และกระบวนการใช้สมุนไพร ปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะที่บังเกิด เพราะหมอที่ช่วยตนของเราได้ มีคนเดียวก็คือตัวของเราเองนั่นแหละ เพราะรู้ดีกว่าใครทั้งหมด จึงเรียกความรู้นี้ว่า "รู้ได้เฉพาะตน"

ตัวอย่างที่เด่นชัด คือ คนไข้ฝรั่งเศส ที่หมอฝรั่งเศสผ่าตัดมะเร็งลำไส้เสร็จ ก็ยังแก้ปัญหาไม่ตก จนต้องให้กลับไปตายบ้าน เมื่อพี่ชาย นำกลับมาอยู่โรงพยาบาลที่ดีที่สุดของไทย หมอจัดการเข้าคอร์สคีโม ก็มีแต่ทรุดลง และแก้ปัญหาไม่ได้ จนท้ายที่สุดให้ย้ายไป ศิริราช โดยกล่าวอ้างว่ามีเครื่องมือที่ทันสมัยเฉพาะโรคมะเร็งดีกว่า และในที่สุดหมอก็บอกพี่ชายคนไข้ว่า ขออนุญาตนำสายอาหารออก และปล่อยให้คนไข้ตาย ...อันเป็นวาจาอมตะ ... สุดความสามารถ

การวินิจฉัยที่ผิด ต้นเหตุที่มีเพียงนิดเดียว จึงนำมาซึ่งความเลวร้ายของคนไข้ เมื่อพี่ชายมาขอให้ช่วย หลวงพ่อนิพนธ์ก็วินิจฉัย แล้วรีบให้พี่ชายบอกหมอให้เสียบสายป้อนอาหารกลับเข้าเหมือนเดิม และแก้ปัญหาที่ตรงจุด นั่นคือ แผลที่เกิดจากผ่าตัดของหมอฝรั่งเศส และหยุดการเติบโตของก้อนเนื้อมะเร็งที่ลำไส้ให้ได้ก่อน

จากที่มีเลือดออกทางทวารตลอด แต่ไม่เคยถ่ายเลยกว่าครึ่งปี ตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลฝรั่งเศส จนศิริราช ทานอะไรไม่ได้แม้แต่น้ำ อาเจียนหมด ผ่านไปสัปดาห์แรก เลือดหยุดไหล เริ่มถ่าย อาหารที่ป้อนทางสายยาง ถูกย่อย และขับถ่ายออกมา

ถึงสัปดาห์ที่สาม การขับถ่ายเริ่มเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป ระบบการทานเริ่มกลับมาเหมือนปกติ สามารถถอดสายป้อนอาหาร แล้วทานเองได้ ...

ปัญหาเพียงนิดเดียวที่ลำไส้ เมื่อเจอคนวินิจฉัยผิด แล้วนำชีวิตไปวางไว้ให้ ด้วยวางใจในรูปลักษณ์ความน่าเชื่อถือที่ตาเห็น ทำให้แทบจะต้องทิ้งชีวิตไป เสียเงินไม่ว่า กลับต้องเกือบจะเสียชีวิต

วันนี้หมอเห็นคนไข้ มาขออนุญาติพี่ชาย เพื่อเป็นเคสกรณีศึกษา ขอตรวจชิ้นเนื้อ ขอส่องกล้อง ... เพราะสงสัยว่า เป็นไปได้อย่างไร

สถานที่นี้ มีคนหายเดินให้เห็นอย่างมากมาย แต่ก็มักมีคำถามที่ได้ยินเสมอ "กี่วันหาย" ... ได้ยินแล้วสะดุ้ง ... ก็พวกคุณไปหาหมอมา เรียกว่า นานจนลืมไปแล้วว่าวันแรกที่ไปนั้นเมื่อไหร่ ไม่เคยได้ยินคุณถามหมอเหล่านั้นสักครั้งว่า กี่วันหาย ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นคนรอด ... แต่มาที่นี่ ถามซะง้ัน ...

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม โฆษณาในทีวี จึงต้องอวดอ้างสรรพคุณ และต้องมีไฮไลท์ ให้ชมทุกครั้งด้วยการสัมภาษณ์บุคคลที่ใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆว่า ทานไปนานแค่ไหน ... โอโห ท่านผู้ชมครับ เพียงแค่กล่องแรกเท่านั้น ก็เห็นผล อาการดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ .... ช่างถูกใจคน และรู้นิสัยคนแท้ๆ ...

ศาสน์ คือหลักเหตุและผล เอาไปตรองดู จักเดินตามใคร ก็ต้องดูผู้นำว่าเกิดผลเช่นไร เคยถามหมอไหม หมอเป็นโรคหรือเปล่า .. ก็ถ้าผู้นำยังช่วยตนไม่ได้ แล้ววางใจให้มาช่วยตนของเราได้อย่างไร ...

แม่ชีเมี้ยนจึงตรัสว่า ฝรั่งเขาไม่ศึกษาค้นคว้าหายารักษาโรคหรอก เพราะรู้ว่าทำไม่ได้ ไม่มี สิ่งที่ค้นคว้านั่นคือ นิสัยของมนุษย์ต่างหาก ว่าชอบสิ่งใด แล้วจึงสร้างผลิตภัณฑ์มาตอบสนองความต้องการนั้นๆ

จึงไม่แปลกที่เมื่อเราปวดหัว จึงไม่มียารักษาอาการที่ทำให้ปวดมาขายเลย จะมีก็แต่ยาระงับอาการปวดที่ทานปุ๊บหายปั๊บ ให้เป็นที่ชี่นชอบ ติดอกติดใจ หากเมื่อหมดฤทธิ์ยา อาการปวดก็เวียนวนมาอีก เพราะปัญหาต้นเหตุไม่ได้แก้ ก็คว้ายามาทานอีก แล้วก็ดีอกดีใจ ไม่สนที่จะแก้ต้นเหตุ จนในที่สุดเมื่อฤทธิ์ยาเอาไม่อยู่ วันนั้นแหละนรกแตก มาเยือน จึงวิ่งแจ้นหาทางกันจ้าหละหวั่น เพราะกลัวตาย...

เมื่อเจอของจริง นั่นคือคนไข้โคม่า หมอไหนที่ว่าแน่ อาจารย์ไหนที่ว่าแจ๋ว ไม่ว่าที่ใด ล้วนปฏิเสธหมด ... แม่ชีเมี้ยนจึงตรัสว่า สิ่งที่คนเหล่านั้นกระทำ นั่นคือ การหากินกับพรหมลิขิต ก็เท่านั้นเอง เมื่อคนผู้นั้นยังไม่ถึงที่ ยังไงเขาก็ต้องรอดเพื่ออยู่จนครบพรหมลิขิตกรรมที่ทำมา ... แต่คนเหล่านั้นใช้เป็นข้ออ้างว่า รอดได้เพราะพวกเขา...

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44