วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

เสียงที่ลือไป

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราท่านเหล่าสมาชิกประสพผลล่าช้า นั่นคือความประมาท ชะล่าใจ ทำให้มีพฤติกรรมเฉื่อยชา หรือที่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ไม่เน้น หรือให้ความสำคัญมากนัก

เหตุผลหนึ่งมักมาจากความเชื่อความศรัทธาที่ยังไม่สมบูรณ์นั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีคนไข้ชาวฮ่องกงท่านหนึ่งมาหาหลวงพ่อนิพนธ์

คนไข้ท่านนี้ เป็นซินแสที่ดังที่สุดในเกาะฮ่องกง ป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้

หลังจากผ่านการรักษาเริ่มจากหมอสมุนไพรจีน ที่จัดยาเทียบละ แสนบาทให้ ก็ไม่เป็นผล ในที่สุด ก็ใช้วิธีการทางแพทย์สมัยใหม่ โดยการเข้าคอร์สฉีดคีโม เข็มละแสนบาท เช่นเดียวกัน

ผ่านการรักษามาได้ห้าเดือน ผลที่ปรากฎ อาการจากมะเร็งลำไส้ ลามไปยังตับ และไขกระดูกสันหลัง เกิดอาการดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง และอาการน้ำท่วมปวด มือเท้าบวม

ด้วยความที่เป็นคนดัง จึงมีพรรคพวกมาก บังเอิญได้ทราบข่าวจากพรรคพวกที่เคยบินมารักษาตัวกับหลวงพ่อนิพนธ์ แนะนำทางเลือกให้แก่เขา

เขาตัดสินใจโทรหาพรรคพวกที่เป็นเอเย่นต์ทัวร์ใหญ่ของเมืองไทย และถามว่ารู้จักสถานที่นี้หรือไม่ และบอกให้ทราบว่าผู้ที่รักษา คือหลวงพ่อนิพนธ์

อาจจะเป็นโชควาสนาของซินแสท่านนี้ก็เป็นได้ เพราะเจ้าของบริษัทพรรคพวกของเขา กล่าวว่า ตัวเขาเองก็เป็นโรคกระดูกทับเส้น หลังจากหมอตรวจและวินิจฉัย ก็ให้ทางเลือกสองทาง

หนึ่ง คือ ฉีดยาแก้ปวด ซึ่งบรรเทาอาการปวดได้ระดับหนึ่ง แต่ยังพอเดินได้ ไปไหนมาไหนได้ จนกว่าไม่ไหว ท้ายสุดก็ปวดจนตาย

สอง ผ่าตัด หากแต่หินปูนที่เกาะอยู่กับกระดูกอยู่ติดกับเส้นประสาทสำคัญ นั่นหมายความว่า เมื่อผ่าตัดแล้ว เส้นประสาทต้องขาดด้วย มีนัยว่า หายปวด แต่จะไม่สามารถเดินได้อีกต่อไปตลอดชีวิต นั่นคือ ใช้ชีวิตที่เหลือบนเตียง กับรถเข็น

และที่สำคัญ ตัวเขาเองก็ได้รับคำแนะนำจากพรรคพวก ให้มาหาหลวงพ่อนิพนธ์เช่นกัน จนทุกวันนี้ ก็ยังคงใช้ชีวิตปรกติ ไม่ได้ผ่าตัดแต่ประการใด อาการปวดก็ลดน้อยลง

ซินแสท่านนี้ ด้วยความเป็นคนดัง จึงได้รับการดูแลจากโรงพยาบาลอย่างดี แต่เขาและภรรยา ได้ตัดสินใจหลบหนีออกจากโรงพยาบาล โดยให้ลูกจองตั๋วเครื่องบิน ในวันเดียวกัน คือเช้าวันอาทิตย์ และมาหาหลวงพ่อนิพนธ์ โดยการติดต่อของพรรคพวกที่ช่วยเหลือ

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยอาการที่เป็นหนัก คือ เริ่มท้องอืด ทานไม่ได้ ดังนั้น อาการจึงเป็นสองแรงบวก อันมาจากโรคที่เป็นหนึ่ง แต่ที่ร้ายกว่านั้นมาจากร่างกายขาดสารอาหาร อันเป็นผลจากการโดนคีโมแล้วเกิดผลข้างเคียงทำให้ทานอาหารไม่ได้

สิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนไข้ซินแสท่านนี้ กับคนไข้ทั่วไป นั่นคือ การตัดสินใจแน่วแน่ และมีชีวิตเป็นเดิมพัน ยอมถอดสายระโยง ระยาง ทิ้ง หนีโรงพยาบาล และเตรียมเสื้อผ้ามาอยู่ วัดพรหมลิขิตกับหลวงพ่อนิพนธ์

บทสรุปที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า ทำไมคนไข้ที่มีระยะอาการขั้นสุดท้าย ที่เป็นชาวต่างชาติ แล้วมาหาท่าน มักจะฟื้นตัวได้รวดเร็ว และมีโอกาสรอดสูง

ก็ด้วยเหตุที่บุคคลเหล่านี้ รู้ดีว่า ทางรอดอื่นๆ ที่เคยเชื่อ ล้วนแล้วแต่เป็นทางตัน ดังนั้นเมื่อได้สัมผัสสมุนไพร แล้วเกิดอาการตอบรับที่ดี ผลก็คือศรัทธาและความเชื่อมั่นอันมหาศาลที่บังเกิดแก่เขา นั่นเอง

สิ่งนี้แหละเป็นชนวนทำให้เกิดความมุ่งมั่น ในการรักษาชีวิตตน และเห็นหนทางว่าเป็นไปได้ จึงทุ่มเท เรียนรู้และทำตาม แม้จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตามที

คำกระเซ้าเย้าแหย่จากหลวงพ่อนิพนธ์ ที่กล่าวกับคนไข้ทั่วไป เหมือนพูดเล่นๆ อาจเป็นจริงขึ้นมาวันใดวันหนึ่งก็ได้ นั่นคือ พวกเราคนไทยประมาท และชะล่าใจ วันหนึ่งที่ฟ้าเปิด คนต่างชาติเหล่านี้จะแห่กันมาเพื่อทานสมุนไพร

นั่นก็หมายความถึงว่า เขาเป็นคนไกลแท้ๆ แต่มาทานแล้วก็เอาผลกลับกันไป ส่วนคนไทยของเรา ก็ยังคงทานอยู่ไม่หายสักที เพราะทานแบบไม่เอาผลนั่นเอง

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44