ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556
บทเริ่มของการดูคน
หลวงพ่อนิพนธ์ กล่าวว่า พระภูมีทรงรองรู้จักรวาล ดังนั้น ผู้ที่รู้เรื่องของศาสนา จึงกลายเป็นปราชญ์ เพราะความรู้ของศาสนา มีเหตุผล มีน้ำหนัก ใครก็โต้แย้งไม่ได้ เพราะมันเป็นสัจธรรม ความจริงนั่นเอง
สิ่งหนึ่งที่พระต้องฝึก นั่นคือ การเลือกคนที่จะสอน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนที่จะมา เขาจะเชื่อ หรือยอมให้สอนได้
วิชาที่ติดตัวมาจากถ้ำกระบอก วิชาหนึ่ง นั่นคือ การอ่านใจ หรือ ความคิดของคน เรียกได้ว่า "ดูตาก็รู้ใจ"
ไม่ช้าก็เร็ว เมื่อถึงเวลา วันใดที่สถานที่นี้ ต้องการคุณภาพ นั่นคือ หวังผลให้ผู้ที่มา ล้วนประสพผลสำเร็จในการช่วยตนเอง วันนั้น วิชานี้ก็คงต้องถูกนำกลับมาใช้
ปฐมบทของการดูคน หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า นั่นคือ ศรัทธาที่คนมีนั่นเอง คือ คุณสมบัติ เริ่มต้น
การสวดมนต์ และการนั่งฟังคำสอน นั่นแหละ คือ กรรมฐาน ที่พระพุทธเจ้าทรงสอน และเป็นการดูคน ดูคุณสมบัติว่าช่วยคนๆ นั้นได้หรือไม่
เพราะในเวลานั้นเอง เราท่านจะมีมารมาผจญ ทำให้เสียซึ่งกรรมฐาน อาทิเช่น อยากคุย ไม่อยากฟัง ...
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นคุณสมบัติพื้นฐาน ทำให้สาวกของพระภูมี ที่มานั่งฟัง สามารถรักษาซึ่งกรรมฐานของพระภูมีได้ นั่นคือ "ศรัทธา"
ด้วยตัวศรัทธานี้เอง ที่ใช้ข่มใจ ข่มกิเลส ความอยากของตน เพื่อให้อยู่ในกรรมฐานสงฆ์ได้
จึงไม่แปลกเลย หากคนที่คุยกันในห้องสวดมนต์ จะถูกเจ้าหน้าที่มองอย่างไม่พอใจ หรือว่ากล่าว เมื่อเห็นพฤติกรรมเหล่านี้
แต่ก็อาจด้วยความที่ยังไม่รู้เรื่องศาสนา ก็เป็นได้
พื้นฐาน คุณสมบัติของสาวก จึงเริ่มจากศรัทธา และจะถูกใช้เพื่อการคัดคน อย่างแน่นอน ในอนาคตอันใกล้
ยิ่งใกล้พระภูมีทรงอุบัติ การกระทำของหลวงพ่อนิพนธ์ ก็ยิ่งต้องหวังผลมากขึ้น ดังนั้น ในไม่ช้าก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะมีเหตุการปฏิเสธหรือให้ออก สำหรับคนที่พิจารณาแล้วว่า แนวทางนี้คงไม่เหมาะสมกับเขาอย่างแน่นอน เพราะขาดซึ่งคุณสมบัติเบื้องต้น คือ "ศรัทธา" อันเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่า คนคนนั้น ย่อมไม่มีทางประสพผลสำเร็จจากแนวทางของพระภูมีอย่างแน่นอน