คณะกรรมการของมูลนิธิไทยกรุณา ได้ประชุมกันเมื่อต้นเดือน มีบทสรุปความเห็นประเด็นหนึ่งเสนอต่อหลวงพ่อนิพนธ์
บทสรุปดังกล่าวมีเนื้อหาใจความมุ่งประเด็นของแนวทางในอนาคตที่จะดำเนินไป หลังจากวันงานของแม่ชีเมี้ยน ที่ซึ่งหากยังได้รับอนุญาตให้ทำต่อไปได้
จุดมุ่งหมายก็คือ ด้วยเหตุที่การทำงานของชมรมคนรักสุขภาพ ที่มีมูลนิธิไทยกรุณาสนับสนุนกิจกรรมอยู่นั้น ไม่ได้มีแนวทางเพื่อแสวงหากำไรอยู่แล้ว และเป้าหมายสำคัญก็คือ เป็นทางเลือกแก่ผู้ป่วย ที่สำคัญคือ "มีโอกาสประสพความสำเร็จสูง" หากได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยปฏิบัติและทำตามแนวทางของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา
ดังนั้น ปัญหาในปัจจุบัน คือ จำนวนผู้ป่วยที่ไม่สามารถกะเกณฑ์หรือใช้เป็นมาตรฐานได้ อยากมาก็มา อยากหยุดก็หยุด ทำให้การดำเนินกิจกรรมเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะในการจัดเตรียมสมุนไพรให้เพียงพอแก่ผู้ที่มารับบริการ
ยิ่งไปกว่านั้นคณะกรรมการเล็งเห็นว่า มีผู้ที่ไม่มีความจริงจังในการช่วยตนเองปะปนเข้ามามาก บุคคลเหล่านี้จึงมักไม่ให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรม หรือรักษาวัฒนธรรมขององค์กร อีกทั้งยังเป็นการสิ้นเปลืองสมุนไพรโดยใช่เหตุ ด้วยว่าพฤติกรรมของคนเหล่านี้ย่อมเป็นการยากที่จะประสพผลในแนวทางของหลวงพ่อนิพนธ์
คณะกรรมจึงมีมติเอกฉันท์ เสนอว่า ควรที่จะจำกัดปริมาณคนไข้ที่มารับบริการต่อวัน หรือ รับเฉพาะคนไข้หนัก และหรือ คนไข้ที่มีความจริงจังในการรักษาตนในแนวทางนี้เท่านั้น อาทิเช่น วันละ ๒๐๐๐ คน เพื่อให้การจัดเตรียมสมุนไพรให้แก่ผู้ป่วยทำได้เต็มที่ และสามารถบรรลุเป้าหมายของชมรมและมูลนิธิไทยกรุณา นั่นคือ สามารถช่วยฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยให้กลับมาปกติได้ อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
มาตราการนี้จะทำให้ ผลงานของสมุนไพรโดดเด่นขึ้น การช่วยผู้ป่วยเป็นกิจลักษณะและมีคุณภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ชมรมและมูลนิธิฯ ไม่มีเป้าหมายเพื่อชื่อเสียง หรือหากำไรอยู่แล้ว นั่นหมายความว่า ปริมาณคนที่จะมาใช้บริการ จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นเป้าหมาย อันหมายความว่า ณ วันนี้ ชมรมและมูลนิธิฯ ต้องการคุณภาพมากกว่าปริมาณ เพื่อโชว์ผลของสมุนไพรแม่ชีเมี้ยนให้โดดเด่น มีที่ยืนในสังคมโลกได้
เรื่องดังกล่าวหลวงพ่อนิพนธ์รับไว้พิจารณา และเห็นด้วยในหลักการ หากแต่คงต้องรอหลังวันงานแม่ชีเมี้ยนไปก่อนจึงตัดสินใจ
วันนี้ เราจึงอยากจะย้อนคำพูดของหลวงพ่อนิพนธ์มาอีกครั้ง ว่า "ขาดเราท่าน หลวงพ่อนิพนธ์ไม่เป็นไร หากขาดหลวงพ่อนิพนธ์เราท่านต่างหากที่ขาดร่มโพธิ์ร่มไทรไว้พักพิง"