เคล็ดอันหนึ่ง ที่หลวงพ่อนิพนธ์ใช้มาตั้งแต่สมัยถ้ำกระบอก นั่นคือ การดำรงตนในสถานะครูบาอาจารย์
เหตุและผล ที่หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายในการใช้เคล็ดอันนี้ และหลีกเลี่ยงไม่ดำรงตนในฐานะ หมอ กับ คนไข้ ก็ด้วยเหตุที่ หลักของพระภูมีนั้น เป็นหลัก "ตนพึ่งตน"
หากอยู่ในสถานะหมอ ย่อมต้องเป็นผู้รักษาให้คนไข้ ซึ่ีงพระภูมีทรงตรัสไว้แล้วว่า ไม่ว่าใครก็ทำให้ใครไม่ได้
ด้วยบทพิสูจน์ แม้นตัวพระภูมีเอง ก็ไม่สามารถทำให้สาวกเป็นอรหันต์ได้ แต่สามารถสอนแล้วให้สาวกนำไปปฏิบัติตนจนสำเร็จพระอรหันต์ได้ ด้วยตัวของตัวเอง
ดังนั้น หากการดำรงตนในสถานะหมอ ก็ย่อมเสมือนหลอกเขานั่นเอง เพราะแท้จริงแล้ว ไม่มีใครช่วยใครได้ ท้ายที่สุด หากไม่เข้าตำรา "ช่วยเขาแล้วเราตาย" ก็ต้องตำรา "หมองูตายเพราะงู" อย่างที่เห็นกันดาษดื่น ทั่วไปว่า หมอที่รักษาโรคคน ล้วนตายด้วยโรคกันทั้งหมดทั้งสิ้น รวมไปถึงคนที่ผลิตยาให้กินกันโครมๆ ก็หาผู้ใดหนีโรคพ้น
แลสิ่งหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากการดำรงตนในสถานะครูบาอาจารย์ นั่นคือ การกราบ
การจะกราบสิ่งใด นั่นย่อมหมายถึง สิ่งนั้น "เป็นสิ่งสูง"
ก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า สิ่งที่เรากำลังกระทำ เป็นของสูง แลเมื่อเป็นของสูง จึงสามารถดึงวิญญาณของเราที่ตกต่ำ กำลังทุกข์ทรมาน ให้พ้นขึ้นที่สูงได้
การกระทำใดๆ ที่จะพึงมี ก็ต้องพิจารณาว่า ไปลบล้างซึ่งการกราบนั้นไม่
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงอุปมาให้ฟังว่า อาทิเช่น คนทั่วไป เห็นรูปพระพุทธ ก็กราบไหว้ แสดงว่า เป็นสิ่งสูง จึงน้อมตนแล้วกราบไหว้ หากแต่พฤติกรรมหลังจากกราบไหว้ คือการนำพระพุทธ ไปตีราคา ซื้อขาย
ของสูง เป็นสิ่งไม่มีราคา แต่มีค่ามหาศาลสุดประมาณ กลับถูกนำมาตีราคา นั่นคือพฤติกรรมที่หักล้าง ทำลายการกราบนั้นไปหมดสิ้น ผลก็คือ การกราบเป็นเพียงภาพมายา แท้จริง กำลังมีพฤติกรรมทำลาย หรือ ดูถูก พระพุทธอันมหาศาล
เพื่อชี้ให้เห็นชัด หลวงพ่อนิพนธ์ จึงได้ยกพุทธประวัติให้เห็นว่า พระโคดม ทรงทิ้งวังที่มีราคามหาศาล มาหาธรรม และเมื่อมีธรรม ก็แจกจ่ายสั่งสอนสาวก โดยไม่มีราคาค่างวด แต่ผลแห่งธรรมนั้น ให้ค่าอันมหาศาล ทำให้สาวกบรรลุอรหันต์
นี่เป็นเครื่องชี้ว่า คุณลักษณะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีราคา แต่คุณค่ามหาศาล แลเมื่อเราเห็นในค่าอันนี้ เราจึงกราบไหว้
นั่นจึงเป็นเรื่องที่ทำให้เข้าใจได้ว่า ผู้ที่ศรัทธา จึงเป็นผู้ที่เห็นค่าในสิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์นำมา และเต็มใจที่จะกราบไหว้ พร้อมกับใช้ศรัทธาอันนี้ ในการควบคุมตน เพื่อสนองน้ำใจ หรือ เป็นเครื่องตอบแทน เพราะสิ่งที่กำลังทำ เงินมันไม่มีประโยชน์
ผลที่ได้ คือ ผู้ที่มา ก็สามารถใช้ศรัทธานี้ เป็นตัวนำร่องให้ตนประสพผล จนหายโรค ผู้สอนก็จะได้บุญจากการทำตนของผู้ที่มา เป็นผลอุปมา "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"
หากขาดเสียซึ่งศรัทธาแล้วไซร้ นั่นก็พึงเห็นได้ว่า ผู้ที่มาย่อมยากที่จะประสพผล ผู้ที่สอน ก็ไม่มีวันได้บุญจากการกระทำ นั่นคือ การเสีบเปล่าของทั้งสองฝ่าย
และที่แย่ไปกว่านั้น จิตที่ก่อนตาย อาจผูกอาฆาตพยาบาท หาว่าหลอกลวง ทำไม่ตนทำแล้วไม่ได้ผล
ปฐมบทของการดูคน แลดูผล ในศรัทธาที่มี ในยามสวดมนต์ หรือฟังคำสอน จึงบอกเล่าอนาคตของผู้นั้นได้อย่างแม่นยำ หากผู้ใดจะพึงสังเกตุและดูผล ก็จะเห็นความจริงข้อนี้ได้ชัดแจ้ง
เคล็ดของการกราบไหว้ ในสถานะครูบาอาจารย์ จึงตอกย้ำคำสอนของพระภุมีอีกครั้งว่า "ใครก็ช่วยตัวเราไม่ได้ นอกจากตัวของเราเอง"
นั่นจึงเป็นบทสรุปที่หลวงพ่อนิพนธ์ มักกล่าวเสมอว่า "เมื่อตัวท่านไม่ประสพผล จะมาโทษกันไม่ได้ เพราะผลสำเร็จอยู่ที่ตัวของผู้ทำ"
สิ่งที่ต้องถามตนเอง แล้วหาคำตอบ "ทำไมคนอื่นเขาประสพผล"