ดังนั้น สิ่งที่ตามมาคือ ผลของพฤติกรรมที่กระทำต่อศาสนา ย่อมแรงตามไปด้วย
ดัชนีของสิ่งนี้ ในอดีตหลวงพ่อนิพนธ์มักจะวัดด้วย วันเวลาที่ใช้ในการเลิกยาของคนไข้ยาเสพติด
จากปี ๓๐ ที่เริ่มเปิด ในการฟื้นฟูคนไข้ยาเสพติด ก็ต้องใช้เวลาประมาณ ๒ สัปดาห์
ผ่านมาถึงวันนี้ คนไข้ยาเสพติด เมื่อผ่านการทานยาสมุนไพร เพียงแค่ ๓ วัน ก็หมดอาการของยาเสพติดแล้ว
ที่เห็นเด่นชัด หลวงพ่อนิพนธ์ใช้คำว่า รี่น นั่นคือ การเกิดอาการในระหว่างการเลิกยา ปัจจุบันแทบจะมีน้อยมาก หรือที่เรียกเป็นศัพท์ที่ได้ยินเสมอ คือ ลงแดง
เมื่อผลของการกระทำมีผลมากขึ้น รายละเอียดจึงต้องมีมากขึ้น นับตั้งแต่ยาสมุนไพร ที่เห็นความแตกต่างชัดในการเก็บการทาน จากคนไข้พม่า ที่เมื่อได้รับ ก็ทำหิ้งไว้ใต้หิ้งพระ เวลาทานก็กราบ
อาการที่หมอทั่วโลกบอกว่าหมดทาง จนครอบครัวต้องทำห้องสวดมนต์ให้ และอยู่ในห้องไปไหนไม่ได้ เพราะไม่สามารถรับการสะเทือน หรือการเปลี่ยนของอารมณ์ เพราะจะทำให้หัวใจหยุดเต้น
พฤติกรรมเช่นนี้ แค่สองสัปดาห์ ก็บินมาหาหลวงพ่อนิพนธ์ นั่งรถอีก ร้อยกิโลเมตร
หากแต่เราอยากชี้ให้เห็นสิ่งหนึ่ง ที่หลวงพ่อนิพนธ์มักไม่ถือสา หากแต่ดูแล้วมีผลต่อการฟื้นฟูของเราท่านอย่างยิ่ง
อุปมาดั่ง เพื่อนกลุ่มหนึ่ง ที่สัญญากันว่า หลังจากการจากกันในวันนั้น เมื่อครบกำหนดจะกลับมาเจอกันใหม่ และเมื่อครบกำหนด เพื่อนทั้งหมดก็กลับมาเจอกัน
ความเป็นเพื่อนสนิท ทำให้เมื่อกลับมาเจอกัน จึงมีพฤติกรรมที่สนิทสนม และการกระทำเหมือนในอดีต
แต่สิ่งหนึ่งที่เพื่อนๆ บางคนไม่สังเกต หรือไม่ยอมสังเกต ว่าในกลุ่มมีเพื่อนคนหนึ่ง บังเอิญฐานะเปลี่ยน กลายเป็นพระราชาไปเสียแล้ว
พฤติกรรมในฐานะเพื่อน ที่กระทำต่อเพื่อนนั้น แม้นเพื่อนที่เป็นพระราชาจะไม่ถือสา หากแต่ข้าราชบริพาร และอื่นๆ หายอมไม่
ท้ายที่สุด เพื่อนที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ จึงถูกนำตัวไปประหาร
หลวงพ่อนิพนธ์จึงเตือนเสมอ และกลัวในสิ่งนี้ เพราะตัวท่านเป็นตัวแทนของศาสนา มานั่งอยู่ และอยู่ในสถานะที่คนทั่วไปมองแล้วก็เป็นชายแก่ธรรมดา
หากแต่ศาสน์ ยิ่งมีพลังเท่าไร ตัวท่านเป็นตัวแทน ย่อมต้องได้รับความคุ้มครอง และอยู่ในสถานะที่ต้องปกป้องมากเท่านั้น นั่นหมายถึง จะยอมให้ใครล่วงล้ำกล้ำเกินไม่ได้
การกระทำที่มีต่อหลวงพ่อนิพนธ์ จึงมีความหมายดั่งเช่น สมุนไพร ที่เป็นธรรมหมวดหนึ่งของพระพุทธเจ้า
ไม่ได้อยากให้ต้องมากราบไหว้ นับถือ แต่ประการใด แต่ถ้าสถานที่นี้เป็นที่สถิตย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง หลวงพ่อนิพนธ์คือตัวแทน
พฤติกรรมที่จะพึงทำ ย่อมมีผล ต่อผู้ทำ ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น
จึงอยากให้ไตร่ตรอง เพราะไม่อยากให้ โดนประหาร ดั่งเพื่อนในเรื่อง
เพราะสิ่งศํกดิ์สิทธิ์ย่อมไม่ยอมให้ตัวแทนของเขา ถูกเหยียบย่ำ หรือ เป็นรองผู้ใดอย่างแน่นอน
ยิ่งประเภท ขณะที่ท่านสอน แล้วมานั่งลอยหน้า ลอยตา ไม่ฟังไม่ว่า บางคนยังมีกิริยาเย้ยหยัน และคิดว่ากล่าวในใจ ....
เว้นไว้สักที่ ไม่ชอบไม่ต้องมา
จึงไม่แปลกเลยว่า คนพม่าที่หายวันหายคืน จะเห็นแววตาที่มีความรัก และเคารพหลวงพ่อนิพนธ์อย่างสูง ใครจะมองว่าสมุนไพรดี แต่เรามองว่า พฤติกรรมของคนเหล่านี้ เข้าร่องเข้ารอย ต่างหาก