วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มีค่าเสมือนไร้ค่า

หากดูโทรทัศน์ หรือฟังวิทยุในปัจจุบัน มีการโฆษณากันอย่างมากมายว่า สมุนไพร หรือ สิ่งโน้นสิ่งนี้ มีสารตัวนั้นตัวนี้ ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย

ผลก็คือ สินค้าบรรดามี ก็นำมาใช้อ้างว่า สินค้าของพวกเขามีสารตัวนี้ ตัวนั้น และจะช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ มีสรรพคุณ ฟังจนหูอื้อ แม้นกระทั่ง เครื่องดื่มชูกำลัง ก็ยังใช้วิธีนี้กับเขาด้วย

หากแต่ความเป็นจริง หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจน โดยยกตัวอย่างอาทิเช่น "ขิง" ที่รู้กันมาแต่ดึกดำบรรพ์ว่า มีสรรพคุณในการแก้โรคลม ดีมาก

หากแต่ความจริงที่ปรากฎ ไม่ว่าผ่านมากี่ร้อย พันปี ขิง ก็เป็นได้แค่น้ำต้มขิง ไม่สามารถนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูผู้ป่วยโรคลมได้แม้แต่น้อย

ความรู้นี้ แม่ชีเมี้ยนจึงกล่าวว่า สมุนไพร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของโลก ทีธรรม่ชาติสร้างคู่มากับมนุษย์ ผู้ที่จะรู้สูตรและใช้ได้ จึงมีข้อกำหนดพื้นฐาน คือ คุณธรรม เป็นที่ตั้ง นั่นคือ ทำให้ เป็นสัมมาปฏิบัติ

มิเช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าจะค้นหาส่วนผสมสักฉันใด ก็ไม่มีวันเจอ

หากมองด้วยมุมนี้แล้ว ย่อมแสดงถึงน้ำใจและคุณธรรมอันสูงส่งของแม่ชีเมี้ยน ท่านจึงทราบและบอกให้พระถ้ำกระบอก นำไปทำเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์

หากใครได้มีโอกาสเห็นหลวงพ่อนิพนธ์ทำสมุนไพร ยิ่งต้องทึ่งในวิชาการของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา เพราะจะเห็นเลยว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลง เมื่อผสมสมุนไพรตัวนั้นเข้ากับตัวนี้ ที่หลวงพ่อนิพนธ์เรียกว่า แต่งงานกัน แม้นไม่รู้ว่าปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้น แต่ดูจากสีของสมุนไพร ที่เปลี่ยนไปมา ก็ต้องพิศวงแล้วว่า แม่ชีเมี้ยนรู้ได้อย่างไร

สมุนไพรที่มีพิษ ทานไปฆ่าคนตายได้ อย่างต้น "พญามือเหล็ก" ที่ใช้ทำสมุนไพรเขียวให้ทุกคนทาน ผสมกับตัวนั้น จะทำให้กลายสภาพจากฆ่าคนมาช่วยคน ฆ่าเชื้อโรคแทน

บทสรุปที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นนั่นคือ ค่าที่มีในสมุนไพร ที่เป็นสิ่งศักดิ์ตามธรรมชาติ ย่อมต้องมีคุ่ที่จะทำให้มีฤทธิ์ นั่นหมายความว่า พืชสมุนไพรตัวเดียว ไม่มีทางเลย ที่จะแปรสภาพสารในตัว ให้มาเป็นประโยชน์ในการฟื้นฟูร่างกายได้เลย

พืชสมุนไพรแต่ละตัวจับคู่กัน จึงกลายเป็นสมุนไพรที่มีคุณระดับหนึ่ง และต้องไปจับคู่กับ พฤติกรรมของคนทาน อีกทีหนึ่ง จึงจะเป็นตัวจุดชนวนสรรพคุณของสมุนไพร ให้สูงต่ำ

ความจริงข้อนี้เอง หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวเสมอว่า แม้นว่าสมุนไพรแม่ชีเมี้ยนจะดีสักฉันใด แต่สรรพคุณ ขึ้นกับคนทาน ทำแบบไหน ได้แบบน้น

ความอยากช่วยให้หาย จึงต้องฝากความหวังไว้กับคนทาน สิ่งที่จะช่วยให้คนหายมากขึ้น นั่นจึงการพูดให้เข้าใจ แล้วนำเหตุผลไปไตร่ตรอง แล้วทำเพื่อช่วยตน ....คนที่จะหาย นั่นคือ ต้องฟัง แล้วนำไปทำ ...

เหตุผลที่หลวงพ่อนิพนธ์ต้องเลือกพม่าประการหนึ่ง นั่นคือ คนฟัง ... แล้วทำ หลายปีที่ผ่านมากับคนไทย ร้อยคนได้สักห้าคนก็เก่งแล้ว แต่คนพม่าที่เข้ามา เรียกว่าแทบจะร้อยทั้งร้อย ผลที่บังเกิดกับคณะของคนพม่าที่มา จึงเห็นผลเร็ว และเกิดกับแทบทุกคน

หลวงพ่อนิพนธ์จึงปฏิเสธการทานสมุนไพรจากที่อื่น ว่าท่านไม่รับรู้ หรือ รับผิดชอบ ในการทานทั้งนั้น จะเอามาอ้างกับที่นี่ไม่ได้ ยิ่งพื้นฐานที่มา จุดประสงค์การทำด้วยแล้ว ยิ่งต่างกันคนละขั้ว ด้วยสมุนไพรที่มีเหล่านั้น ... ทำเพื่อผลประโยชน์ คือ ทำขายทั้งหมดทั้งมวลด้วยแล้ว

หากมองย้อนไปครั้งพุทธกาล ย่อมเห็นว่า ธรรมของพระภูมี แม้นคุณค่าสูงส่ง พาไปถึงขั้นนิพพาน ก็มีไว้เพื่อให้ เมื่อสมุนไพรเป็นธรรมหมวดหนึ่ง ที่ไม่ได้มุ่งนิพพาน หากแต่มุ่งหายโรค ก็ย่อมต้องเดินแนวเดียวกัน และก็ผูกติดกับพฤติกรรม ของผู้ทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วิทยาศาสตร์ จึงทำได้แค่ พยายามค้นว่า สารใดมีคุณค่ากับอวัยวะส่วนใด แล้วสกัดสารมาใส่ และก็อ้างว่ามีประโยชน์ ช่วยได้ ...

วิทยากรจึงบอกเสมอว่า อยากหายโรค ทานอาหารให้ครบ ๕ หมู่ ทานสมุนไพร ฟังและทำตามคำสอน .... แค่นั้นจบ อาหารเสริม อาหารสกัด ... ทิ้งไปเลย

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44