วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ใจต้องหิน

คนป่วยทั้งนั้น เอามานั่งทรมานตั้ง ๒ ชั่วโมง จนหลายคนเป็นลม

นี่คือข้ออ้างในการร้องขอให้หลวงพ่อนิพนธ์ เปลี่ยนระยะเวลาการพูดให้เหลือ ๑๐ นาที

แต่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวปฏิเสธ

เพราะการกระทำที่จัดให้ทำนี้ คือการฝืนนิสัย หรือเปลี่ยนนิสัยเดิมของผู้ป่วย เพราะหากถามความสมัครใจ ก็คงไม่มีใครมีนิสัยอยากมานั่งแบบนี้หรอก

สิ่งที่พระภูมีตรัสรู้ และแม่ชีเมี้ยนทรงนำมาให้หลวงพ่อนิพนธ์ นั่นคือ กรรมเกิดจากนิสัยกรรม หากจะแก้กรรม ก็ต้องเปลี่ยนจากนิสัยกรรมที่ตนชอบ มาใช้นิสัยธรรมของพระภูมี จึงจะเกิดบุญ

มันจึงเป็นความจำเป็นที่ต้องให้ทำ

แม้นสิ่งนี้จะเป็นทุกข์ แก่คนป่วยทั้งหลาย แต่ก็เพียงชั่วครู่ชั่วยาม และก่อให้เกิดการหายโรค จึงเรียกบัญญัตินี้ว่า "ทุกข์เพื่อสุข"

ทุกข์กับวินัยของพระภูมีในวันนี้ แล้วจะสุขในวันที่เราไม่มีโรคในวันหน้า

หากจะเรียกแนวทางวิทยาศาสตร์ ที่คนป่วยเมื่อมาโรงพยาบาล ให้ไปนอนเตียงนุ่มๆ เปิดแอร์ ไม่ต้องทำอะไร

ดูผิวเผินเปลือกนอก ก็คงจะทำให้คนป่วยสบาย หากแต่ผลที่ประจักษ์ นั่นคือ ต้องทุกข์กับโรค ทั้งวันนี้ และวันหน้า ไปจนตาย

จึงไม่แปลกใจเลยที่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า หากคิดจะช่วยคน และเดินในหลักพระภูมี ต้องใจแข็งเป็นหิน การช่วยจึงประสพความสำเร็จ

ภาพในอดีตที่คุณสมศักดิ์ เพื่อนคุณพิศาล อัครเศรณี ที่สมองไหม้จากการไปดูสถานที่ถ่ายทำหนัง แล้วติดเชื้อมาเลเรีย มา จนทำให้สมองหยุดสั่งการ ขณะขับรถ จนพุ่งชนราวสะพานพุทธ

ฟื้นมาอีกครั้ง ก็ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่กินข้าวเอง ก็ทำไม่ได้

หลวงพ่อนิพนธ์รับมารักษา จึงสั่งให้ ตักข้าวใส่จานแบนๆ และเทน้ำใส่จานแบนๆ แล้วให้ทานเอง

คนที่เห็นต่างบอกว่าทารุณ เพราะให้กินเหมือนสุนัขเลย

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ถ้าเราใจอ่อน เขาจะไม่มีวันหาย

มาวันนี้ คุณสมศักดิ์วัย ๗๐ ปี กลับไปมีภรรยาใหม่แล้ว

หรือแม้แต่ภรรยาของจ่าทหารลพบุรีท่านหนึ่ง ที่ป่วยด้วยโรคท้าวแสนปม เส้นยึดทั้งตัว เดินไม่ได้ มือเท้าหงิก

ก็สั่งไม่ให้สามีช่วย ปล่อยให้คลานมาทุกเช้ามาใส่บาตรพระแล้วสวดมนต์ ยิ่งไปกว่านั้น เวลาว่างทั้งวัน ให้ไปถอนต้นหญ้า วันหนึ่งจะถอนได้กี่ต้น ก็ต้องทำ

มาวันนี้ สามีของเธอ ลาออกจากทหารไปซื้อที่ทำไร่กันสองผัวเมียที่นครสวรรค์

ใครจะว่าโหดก็ช่าง หากเราท่านรักคนของเรา อยากให้เขาหาย ก็ต้องทำตนเป็นคนใจแข็ง พยายามให้คนป่วยเดินในครรลอง หรือ ทางสายเดียวที่พระภูมีบัญญัติในการช่วยตน นั่นคือ "ตนพึ่งตน" ให้ได้ ....

เมื่อนั้นความหวังในการหาย จึงจะเริ่มมีประกาย

เจ้าหน้าที่ที่เขารู้เคล็ดอันนี้ ก็พยายามที่จะให้คนป่วยทำด้วยตนเอง

จึงมักได้รับเสียงด่าตอบกลับมา .... เพราะความไม่เข้าใจในสิ่งนี้นั่นเอง

เขาหวังดีหรอก เขาจึงทัก ...

พฤติกรรมที่คอยป้อน คอยประคอง เป็นภาพที่ดูดี แต่นั่นแหละคือเป็นกลอนลั่นดานประตูหาย ที่จะทำให้ประกายของความหวังดับลง

หากมีวิธีอื่นที่ทำให้หายได้ แม่ชีเมี้ยนก็คงไม่จำเป็นต้องมาสอนให้ลูกชายทำบาปกับมนุษย์หรอก เงินก็ไม่ได้ ....

แต่แม่ชีเมี้ยนก็ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่มีหรอก วิธีที่จะหายจากโรค นอกจากวิธีของพระภูมีเท่านั้นเอง

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์เห็นคนนั่งรถเข็น จึงต้องรีบแก้ไขคนเหล่านี้ให้กลับมาช่วยตนได้ ให้เร็วที่สุดนั่นเอง

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44