วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คิดสู้มะเร็ง

หลายครั้งที่ได้ยินคนไข้กล่าวว่า "ฟังหลวงพ่อนิพนธ์มาแล้ว ก็เลยตัดสินใจ สู้ ตายเป็นตาย และก็จะมาที่ชมรมทุกอาทิตย์"

ช้าก่อน .... ฟังยังไม่จบ อย่ารีบด่วนสรุป

โดยเฉพาะคนไข้ที่อาการสาหัส ดังเช่นในกรณีของโรคมะเร็ง ที่เมื่อมีใจฮึกเหิม ก็อยากที่จะมาชมรม อยากสวดมนต์ อยากเข้ากระโจม อยากทานสมุนไพรมะพร้าว ..... อยากหาย...

ปัจจัยที่ต้องคำนึงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนไข้มะเร็ง นั่นคือ สภาวะความพร้อมของร่างกาย ที่เราท่านแบกมาเพื่อฟื้นฟู มันอยู่ในสภาวะใด ไม่ใช่เห็นเขาทำกันอย่างนั้น แล้วดีวัน ดีคืน ก็ทำตาม ... หลวงพ่อนิพนธ์ บอกว่าไม่ได้ เพราะคนเรามันต่างกรรมต่างวาระ

ก่อนอื่นต้องเรียนรู้สภาวะทั้งของเรา และคู่ต่อสู้ก่อน จึงกำหนดแผน และสร้างโอกาสชนะ

โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคมะเร็ง ก่อนอื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่า มะเร็งไม่ใช่โรค หากแต่เป็นเซลล์ของร่างกาย และการดำรงอยู่ของมัน คือการดูดเลือดจากร่างกายเข้าไปหล่อเลี้ยงตัว

นั่นหมายความว่า ร่างกายของเราแทนที่จะผลิตเลือดเพื่อเลี้ยงตน อย่างเดียว กับถูกเซลล์มะเร็งแย่งไปส่วนหนึ่ง

นั่นหมายความว่า ยิ่งเซลล์มะเร็งโตขึ้นมากสักเท่าใด เลือดที่หล่อเลี้ยงร่างกายก็จะลดลงไปมากขึ้นนั่นเอง

ดังนั้น การกระทำใดที่ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร หรือ อ่อนแอลง ย่อมทำให้สภาวะการขาดเลือดไปเลี้ยงระบบต่างๆ มากขึ้น จนเกิดสภาวะรวนขึ้น

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ผู้ป่วยมะเร็ง จึงจำเป็นต้องทานอาหารให้ครบหมู่ โดยเฉพาะโปรตีน และประเภทที่จำเป็นในการสร้างเม็ดเลือดให้มากขึ้น

ประเภทที่เป็นแล้ว ไม่กิน หรือทานมังสวิรัติ ชีวจิต ด้วยแล้ว ร่างกายจะเอาอะไรไปสร้างเลือด ยิ่งทำร้ายร่างกาย จนในที่สุดยังไม่ตายด้วยมะเร็ง จะขาดสารอาหารตายเสียก่อน

และส่วนใหญ่ของคนไข้มะเร็งที่มา มักจะอยู่ในสภาวะขั้น ๔ หรือ ขั้นสุดท้าย แล้ว ยิ่งต้องทำความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้เหมาะสมเพื่อการต่อสู้กับมะเร็ง

โดยเฉพาะคนที่เริ่มอาการขาดเลือด คือ ระบบจะเริ่มรวน ดูได้จากเมื่อมีการออกกำลัง หัวใจทำงานหนัก หน้ามืดจะเป็นลม นั่นส่งสัญญาณแล้วว่า เลือดมันไม่เพียงพอต่อการใช้งานหนัก

เมื่อมาใช้ระบบการฟื้นฟูด้วยสมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ต้องพิถีพิถัน อย่าหักโหมตามใจ ด้วยหวังจะหายเร็วๆ อาทิเช่น นั่งนานๆ ไม่ไหว ก็อย่าฝึน สวดมนต์เสร็จ ก็ขอเจ้าหน้าที่ออกไปพักผ่อนก่อน หรือเข้ากระโจม ก็ชั่วครู่ ไม่ใช่นานเหมือนคนทั่วไป เพราะเมื่อร่างกายเลือดไม่พอหล่อเลี้ยง เมื่ออยู่ในที่อากาศที่ค่อนข้างอับ ร่างกายได้ออกซิเจนเลี้ยงเลือดไม่พอ ระบบต่างๆของร่างกาย อาจจะเกิดอาการช็อคได้

ดังนั้นจึงไม่ต้องเกรงใจ แจ้งเจ้าหน้าที่ขอพื้นที่ที่โปร่งโล่งสบาย หรือเมื่อรู้สึกมีอาการ ก็ออกไปพักผ่อนก่อน และยังไม่ควรเคลื่อนไหวมากจนเกินกำลัง และจะดีอย่างยิ่ง หากจะเตรียมพร้อม อาทิเช่น มีออกซิเจนกระป๋องเตรียมไว้

และด้วยปัจจัยสำคัญ คือ เลือด ดังนั้น หลวงพ่อนิพนธ์จึงเน้นว่า คนป่วยมะเร็ง จำเป็นต้องทานสมุนไพรมะกรูด ที่มีคุณสมบัติในการสร้างเลือด และฟอกน้ำเหลืองได้ดี มากกว่าคนเป็นโรคอื่น เพื่อเร่งกระบวนการสร้างเลือดมาชดเชยที่ถูกเซลล์มะเร็งแย่งไปนั่นเอง

และในกรณีที่คนไข้ทานอาหารทางสาย หลวงพ่อแนะนำว่า ควรให้ข้าวต้ม หรือโจ๊ก ผสมกับตับ หรือ เนื้อไก่ และผักเล็กน้อย ปั่นด้วยเครื่องให้ละเอียด ป้อนแก่ผู้ป่วย เพื่อให้มีสารอาหารใช้ในการสร้างเลือด และมีอาหารเลี้ยงอวัยวะอื่นๆ ให้แข็งแรง

ที่สำคัญที่สุด หากเมื่อเคลื่อนไหวมากๆ แล้วร่างกายอ่อนเพลียมาก นั่นหมายความว่าปริมาณเลือดในตัวมันเหลือน้อย จึงยังไม่ควรที่จะเดินทาง ให้คนมารับสมุนไพรแทน และฟื้นฟูสภาพและระบบต่างๆ จนดีขึ้นก่อน .... โดยติดต่อขอรับสมุนไพรแทน ที่ คุณดา ณ.ตึกมูลนิธิไทยกรุณา

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44