วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เณร กับ ๕ สมเด็จ

ความผิดใหญ่ที่สุดที่ทำให้สามเณรนิพนธ์กลัวจนตัวสั่นได้ นั่นก็คือ การไปขอบวชเปลี่ยนจากเณรเพื่อเป็นพระ เมื่ออายุได้ ๑๙ ปี นั้นเอง

ปี ๒๕๐๔ เมื่อสามเณรนิพนธ์อายุเพียง ๑๙ ปี วันหนึ่งแม่ชีเมี้ยนก็ให้เข้าพบแล้วสั่งว่า ให้เดินทางไปเพื่อขอบวชเป็นพระ สามเณรหนุ่มก็แย้งว่า ผมยังอายุไม่ครบ ใบสุทธิของพระก็เขียนอยู่ แล้วเขาจะบวชพระให้ผมได้อย่างไร

แม่ชีเมี้ยนก็ยังย้ำคำเดิม พร้อมกับบอกระบุวัดที่จะให้ไปบวช และกล่าวว่าท่านไปเถอะ สามเณรหนุ่มจึงดั้นด้นไปที่วัด พอไปถืงก็ใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่ำๆ ตัวสั่น เพราะกลัวเขาจับได้

จนเมื่อพระลูกวัดเดินมาเห็นเข้า จึงถามสามเณรหนุ่มว่ามาทำอะไร เณรนิพนธ์จึงตอบว่า ผมจะมาสวดยัดเพื่อเป็นพระครับ พระลูกวัดจึงพาไปหาเจ้าอาวาส

เจ้าอาวาส จึงให้พระเลขาขอใบสุทธิมาดู พระเลขาดูแล้วส่งให้เจ้าอาวาส เมื่อดูแล้วก็กล่าวว่า อายุครบแล้วนิ มาหลวงพ่อจะจัดการบวชให้ สามเณรนิพนธ์จึงกลายเป็นพระนิพนธ์นับแต่นั้นมา

ความครั้งนั้นกับมาย้อนความทรงจำอีกครั้ง ในเหตุผลที่ทำไมแม่ชีเมี้ยนจึงต้องรีบให้ไปบวชเป็นพระ ก็เมื่อคณะสงฆ์ถ้ำกระบอกและแม่ชีเมี้ยน ถูกกรมศาสนาตั้งข้อหาอุตริมนุษย์ธรรม และถูกจอมพลสฤษด์แจ้งข้อหาหนัก ซ่องสุมผู้คน มีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ นี้เอง

ด้วยเมื่อถูกข้อหาทั้งหมดทั้งปวง คณะกรรมการสอบจึงให้พระถ้ำกระบอก ตั้งตัวแทนเพื่อสอบปากคำ หลวงพ่อนิพนธ์จึงรับเป็นหัวหน้าคณะสงฆ์เพื่อเข้ารับการสอบปากคำในครั้งนั้น

พระนิพนธ์จึงถึงบางอ้อ ว่าเจตนาของแม่ชีเมี้ยน ก็เพราะเห็นในอนาคตแล้วพิจารณาว่า สถานะเป็นเณรกับพระนั้นมันต่างกัน จึงต้องรีบนั่นเอง

เรื่องเล่าที่หลวงพ่อนิพนธ์มักจะเล่าให้ลูกศิษย์ฟังหลายครั้ง ก็คือ การสอบของข้อหา อวดอุตริมนุษย์ธรรม จากพระระดับสมเด็จทั้ง ๕ องค์ในสมันนั้น

เมื่อองค์หนึ่งถามว่า ทำไมพระถ้ำกระบอกจึงถือสัจจะ ไม่ถือศีล ๒๒๗ ข้อ ที่ซึ่งไม่มีในบัญญัติของพระไตรปิฏก

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงตอบว่า หากคำกล่าวในพระไตรปิฏกเป็นความจริง แล้วไซ้ร ก็ในพระไตรปิฏกเขียนระบุว่า พระนางสิริมหามายา ต้องการบุตร ในครั้งนั้น ได้คำแนะนำจากพราหมณ์ว่า ให้ไปถือศีล แล้วจักได้สมประสงค์ พระองค์ก็กระทำตามคำนั้น จึงได้พระโอรส หากข้อความนี้จริง ก็ย่อมหมายความว่า ศีล มีมาก่อนการอุบัติของพระพุทธเจ้า ใช่หรือไม่

พระสมเด็จอีกรูปหนึ่ง จึงเปลี่ยนเรื่องถามว่า ทำไมพระถ้ำกระบอกไหว้ผู้หญิง หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า เราไม่ได้กราบไหว้ผู้หญิง แต่เรากราบไหว้ครูบาอาจารย์ ที่สอนให้เป็นพระที่ดี เป็นคนดี อันจะเห็นได้จากผลจากการกระทำตามครูบาอาจารย์ พระถ้ำกระบอก ที่มีความประพฤติดี ช่วยเหลือคน ก็มีอดีตที่มาหลากหลาย จากนักเลงบ้าง จากอดีตเสือปล้นเขากินบ้าง จากพวกติดเหล้าติดยาบ้าง ก็ขนาดเสาปูนไม่มีอะไรเลย สอนก็ไม่ได้ คนทั่วไปยังกราบไหว้ได้ แล้วแม่ชีเมี้ยนสอนให้ผมและคณะเป็นพระที่ดี ทำไมจึงกราบไม่ได้

พระสมเด็จอีกรูปหนึ่ง จึงกล่าวว่า แล้วท่านเชื่อได้อย่างไรว่า หลักปฏิบัติของท่านที่ทำอยู่ เดินตามรอยของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง เพราะไม่มีปรากฎหลักอันนี้เลยในพระไตรปิฎก

หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ทุกท่านก็ล้วนแต่ศึกษาพุทธประวัติของพระพุทธเจ้ามาทั้งสิ้น ย่อมรู้ดีว่า ก่อนจะมาเป็นพระพุทธเจ้า ท่านเป็นใครมาก่อน นั่นแสดงให้เห็นว่าแนวทางของพระภูมี ทิ้งวัง ทิ้งราชรถ มาเดินกลางดิน กินกลางทราย ทิ้งช้อนทอง มาใช้ช้อนสังกะสี จึงพบโมกขธรรม หลักปฏิบัติของพระถ้ำกระบอก ก็ทิ้งทุกสิ่งอย่าง ไม่รับเงินรับทอง ไม่ขึ้นรถลงเรือ จึงเป็นรอยเดียวกัน

หากแต่รอยของท่านทั้งหลายที่นั่งอยู่ที่นี้ทำอยู่ และกล่าวว่าถูกต้อง พวกท่านมาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใคร พฤติกรรมที่ท่านทำอยู่ ทิ้งช้อนสังกะสี มาใช้ช้อนทอง มานั่งราชรถ จะให้เชื่อว่าเป็นของพระพุทธเจ้า คงเป็นไปไม่ได้

ผลก็คือ การสอบในวันนั้น แทบจะถูกสมเด็จทั้งห้าถกจีวรเตะ พร้อมกับการลุกขึ้นเดินขึ้นรถกลับไปในทันที พร้อมกับคำกล่าวลอยตามลม "อ้ายพระองค์นี้ปากมันร้ายนัก"

ไม่ได้เล่าให้มาคัดง้างใคร แต่เล่ามาเพื่อให้ยั้งคิดสักนิด หากจะทำบุญกับพระ จะได้ใช้เป็นดุลย์พิจารณาว่าพระนั้นอยู่ในรอยใคร ... อันหมายถึงสิ่งที่จะถวายน้้น ผลที่ย้อนกลับมามันจะให้สุขหรือให้ทุกข์กันแน่ ไม่ใช่จบที่การถวาย

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44