วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สอนให้หยิ่ง

ธรรมของพระภูมี เมื่อปฏิบัติแล้ว เข้าใจเหตุผลแล้ว ปรากฏการณ์ที่จะเกิดนั่นคือ "ความหยิ่ง"

ก็ด้วยปฐมบท ของธรรมหมวดแรกที่ทรงบัญญัติ คือ ธรรมหมวดตน ที่ว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดที่ไม่เดินอยู่ในรอยนี้ ถือได้ว่าไม่ใช่พวก ไม่คบค้า เพราะเสียเวลาเปล่า ไม่มีวันสำเร็จ หรือบรรลุสิ่งที่ต้องการ นั่นคือ เป็นคนดี ของศาสนาได้นั่นเอง

ชาดกที่แม่ชีเมี้ยนทรงเล่าให้สงฆ์ฟัง เมื่อครั้งพระโคดม ทรงเสด็จเพื่อโปรดสัตว์โลก และผ่านมายังป่าแห่งหนึ่ง แลมีสองตายายทราบข่าว พร้อมกับท่านเศรษฐี ที่ซึ่งล้วนได้ยินกิติศัพท์และเลื่อมใสในพระโคดม

กาลครั้งนั้น สองตายาย หนึ่งเข้าป่าหาของ หนึ่งหุงต้มเตรียมฟืนไฟ เพื่อทำแกงเลียงและข้าว ไปถวายพระภูมีในตอนเข้า เฉกเช่นเดียวกับเศรษฐีที่เกณฑ์ไพร่พลมากมาย เพื่อจัดเตรียมสำรับอาหารที่คิดว่าดีที่สุด พร้อมภาชนะเครื่องเงินทอง มาถวายภัตตาหารเช้าเช่นกัน

กาลในครั้งนั้น พระโคดม ทรงเสวยแต่เฉพาะข้าวและแกงเลียงของสองตายายจนหมดสิ้น ทำให้ท่านเศรษฐีสงสัยและทูลถามหาซึ่งเหตุผล

คำตอบที่ได้คือ หลักของพระภูมี คือหลักตนพึ่งตน อาหารของท่านเศรษฐีที่นำมา ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใด ที่เกิดจากตัวท่านเศรษฐีเลย เรียกได้ว่าเดินคนละทาง แม้นว่าจะทรงทานก็หาเกิดผลแก่ท่านเศรษฐีไม่

หลักปฏิบัติของพระภูมี เมื่อทรงสอนให้เชื่อเรื่องกรรม ก็ทรงสอนให้เชื่อมันในบุญด้วยเช่นกัน นั่นคือ เมื่อเดินในทางธรรม บุญย่อมคุ้มครองปกปักษ์รักษา

จึงไม่น่าแปลกที่หลวงพ่อนิพนธ์ ปฏิเสธการช่วยเหลือจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ที่มาใช้บริการของชมรม ในขณะเดียวกันก็ปลุกปั่นคนของตน ให้เดินในหลักการอันนี้ทุกวี่ทุกวัน เพื่อสร้างคุณสมบัติ เป็นน็อตเกลียวเดียวกับพระภูมี

ใครจะคิดอย่างไรก็ช่าง ไม่ว่า หากแต่ภาพของชมรมคนรักสุขภาพในอนาคต ที่จักต้องบังเกิดอย่างแน่นอน นั่นคือ ผู้ที่เดินเข้ามาส่วนใหญ่ เมื่อเข้าใจเหตุและผลที่หลวงพ่อนิพนธ์สอนและอยากให้ทำ คนเหล่านั้นจะไม่มามือเปล่า ไม่ทำตนเป็นทองไม่รู้ร้อน นั่นคือ มีการสร้างพันธะแก่ตน ว่ากำลังมาเพื่อให้สุขแก่ผู้อื่น

ดังนั้นสติ จึงสั่งกาย ให้จัดเตรียมสิ่งของที่จะมาให้สุขแก่ผู้อื่นติดมาด้วยทุกครั้ง เมื่อมายังชมรม แม้นจะดูกว่าเป็นของน้อยนิด มะพร้าวสองลูก มะกรูดห้าลูก มะนาวลูกหนึ่ง พริกไทยขีดหนึ่ง ... เพราะนั่นคือ สุขที่ได้จะให้แก่ผู้อื่น แล้วจะย้อนกลับมาหาตน ในอนาคต

ก็ด้วยความสำเร็จในหลักของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนทรงนำมา จะพึงมีก็แต่คนที่ทำตนเป็นพระเวสสันดร หาใช่ชูชกไม่

ดั่งถ้ำกระบอกในยุคแรก ที่ผู้คนหลั่งไหลกันไป หอบหิ้วข้าวปลา เผื่อแผ่ไปยังผู้ติดยาที่มาเลิก มาสวดมนต์ ... ล้วนแล้วแต่มีสติกันว่า มาเพื่อให้สุขแก่ผู้อื่น แล้วสุขนั้นจะย้อนไปรอตนที่กระไดบ้าน เพื่อช่วยตน ....

คนในยุคนั้น จึงใจจดใจจ่อว่าพระจะประสงค์สิ่งใดมาเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์และสัตว์ .... และไม่เคยได้ยินเลยว่า เอาเงินมาถวาย หรือ เรียกเก็บเงินค่ารักษาสักคำ

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกำลังส่งสัญญาณให้พวกเราท่านได้รู้ว่า ชมรมแห่งนี้ ควรจะหยิ่ง อยู่ได้ และเดินไป ด้วยลำแข้งของตนเอง ไม่ต้องง้อผู้อื่นให้มาช่วย ไม่ใช่หมารอบริจาคค่าข้าว ไม่ใช่แพนด้า รอคนสร้างบ้าน หากแต่เป็นมนุษย์ที่เรียนรู้ธรรมคำสอน และปฏิบัติตน อยู่ในครรลอง มีจิตใจเผื่อแผ่ ช่วยตนด้วยการให้สุขแก่ผู้อื่น

หากคนส่วนใหญ่ อยู่เฉย รอพึ่งคนอื่น กิจกรรมดำเนินไปไม่ได้ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะร้องขอให้คนนอกที่ไม่ได้รับประโยชน์จากตรงนี้มาช่วยเหลือ เพราะผลที่ได้ก็คงหาคนสำเร็จจากการหายโรคได้น้อยเต็มที .... ก็คงจะต้องปิด ไปเริ่มใหม่จากคนน้อยๆที่เข้าใจดีกว่า

คนที่จะประสพผล จึงต้องมีเชื้อแห่งความหยิ่งในเรื่องของชีวิต ที่จะทำตนเป็นพระเวสสันดร ไม่ใช่รอรับดั่งชูชก ทำตนเป็นหมูไปไก่มา โดยคุณธรรม ส่วนที่เกินก็ดั่งคำอธิษฐานที่ได้กล่าว "เหลือนั้นทำทาน" ทุกครั้งในยามสวดมนต์ ... ไม่เป็นหนี้ดีที่สุด และที่สำคัญ ที่หลวงพ่อนิพนธ์เน้น นั่นคือ หายด้วยคุณสมบัติ ไม่ใช่ด้วยเงิน หรือการขอ ......ตอกย้ำว่า .. ใครทำ ใครได้

ฤาจะรอแต่ทานมะพร้าวของคนชุมพร ไม่คิดจะหิ้วพริกไทย มะกรูด มะนาว .... มาให้คนชุมพรหิ้วกลับไปบ้างหรือ ....

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44