ด้วยเหตุที่หมอประจำ ได้วินิจฉัยให้ผ่าตัด และเข้าคอร์สคีโม เพื่อรักษาอาการดังกล่าว
หลวงพ่อนิพนธ์ ได้อรรถาธิบายให้ฟังว่า โรคดังกล่าวเกิดจากร่างกายไม่สามารถย่อยสลายแคลเซียมได้ตามปกติ ทำให้เกิดเป็นหินปูน ไปตกค้างที่ต่อมลูกหมาก จนกลายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากในที่สุด
ด้วยวัยที่สูงอายุ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะทำการผ่าตัด และที่ร้ายกว่านั่นคือ ผลของคีโม จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรง ทำให้ร่างกายที่เข้าสู่วัยชรายากที่จะฟื้นตัว จะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
การแก้ไขด้วยสมุนไพรจึงเป็นวิธีที่ละมุนละม่อม และถูกกับผู้สูงอายุอย่างยิ่ง เพราะสมุนไพรจะฟื้นฟูร่างกายให้สามารถ กำจัดแคลเซียมส่วนเกิน และไปทำให้หินปูนที่เกาะอยู่นี้แตกตัวออกได้
โดยวิธีการใช้สมุนไพรนี้ ก็มีผลเพียงแต่ทำให้เกิดอาการขัด และปัสสาวะลำบากในช่วงแรก เท่านั้นเอง อันเป็นผลมาจากการที่ร่างกายพยายามจะรีดหินปูนที่เกาะอยู่ออกนั่นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า หากสามารถยืนระยะทานสมุนไพรอยู่ได้ อย่างเร็วก็สามเดือน อย่างช้าก็หนึ่งปี จบแน่นอน
อาการที่เป็นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หากแต่ว่าถ้าแก้ผิด นั่นคือ ใช้วิธีผ่าตัด ผลข้างเคียงที่ตามมานั่นแหละปัญหาใหญ่ มิหนำซ้ำ ส่วนเดิมที่รักษาก็ไม่ใช่ว่าจะหาย อันจะเห็นได้ว่า บางคน เมื่อผ่าตัดแล้ว เวลาปัสสาวะจะมีเลือดปน แล้วท้ายที่สุดก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะนั่นเขาเรียก "ระงับ" ไม่ใช่การรักษา