วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ใช้อำนาจของวิญญาณให้เป็น

ในสามอำนาจที่มี อำนาจกรรม และอำนาจธรรม เป็นอำนาจที่จะให้ผล หากแต่อำนาจของวิญญาณ จะเป็นตัวเลือกว่า จะยอมให้อำนาจใดเล่ามาให้ผลกับตน

ด้วยเหตุที่ กรรมเขาเป็นพี่ ผูกติดกับวิญญาณมานาน เรียกว่ากิเลส จึงเป็นเหมือนมารที่คอยขัดขวาง ไม่ให้วิญญาณเอนเองไปทางอำนาจธรรม เพราะเมื่อเอนเอียงไปแล้ว "ธรรมชนะกรรม" นั่นคือ การสูญเสียอำนาจกรรมในวิญญาณนั้นๆ นั่นเอง ผลก็คือ วิญญาณดวงนั้นไม่เดินตามพรหมลิขิตกรรมเสียแล้ว แต่เปลี่ยไปเดินในพรหมลิขิตธรรมแทน

ดังนั้น การจะเดินฝ่ากิเลส ที่จะมาเป็นมารผจญ จึงต้องอาศัยเหตุผล และศรัทธาอันมหาศาล ที่ต้องเรียนรู้ และสร้างขึ้นใหม่ จึงอุปมา ปลาว่ายทวนน้ำ หรือเข็นครกขึ้นภูเขา อันเป็นงานหนักอย่างแน่นอน

ดังนั้น การจะฝ่าด่านเหล่านี้นั้น จึงต้องรวบรวมอำนาจของวิญญาณให้กลับมาอยู่จุดเดียว นั่นคือ พระพุทธเจ้า โดยอาศัยเหตุและผล ไม่ใช้อำนาจของวิญญาณสะเปะสะปะ เรียกว่าฟุ้งซ่าน อันหมายถึงต้องทำสมาธิ ละทิ้งสิ่งต่างๆ หรือวางไว้ก่อนนั่นเอง

วิธีการที่ง่าย และเป็นจุดเริ่ม เมื่อกรรมเห็นก็กลัว นั่นคือ ความสงบ

เพราะเมื่อสงบแล้ว อำนาจของวิญญาณจะค่อยๆกลับมารวมอยู่ที่ตนของเรา เป็นพลังอันมหาศาล และเมื่อจะทำสิ่งใด ก็จะเกิดผลอันมหาศาล

หากแต่ภาพที่เราเห็นในห้องสวดมนต์ ส่วนใหญ่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย

เข้ามาก็คุยบ้าง อ่านหนังสือบ้าง ฟังเพลงบ้าง โทรศัพท์บ้าง คิดเรื่องธุรกิจบ้าง แล้วผลอะไรจะเกิดขึ้น

สิ่งเหล่านี้ก็จะวนเวียนอยู่ในความคิด ขณะที่เรากำลังสร้างบุญ ไม่ว่าสวดมนต์และฟังคำสอน ความคิดเหล่านี้ก็จะมาลอยเด่น ทำให้สมาธิเราท่านแตก หรือด้อยลง ผลของการทำบาปที่ครบองค์ นั่นคือ กาย วาจา ใจ สมบูรณ์ แต่ผลของการสร้างบุญ กาย วาจา แต่ใจกวัดแกว่ง ไม่ครบองค์ มันจะสู้กันได้อย่างไร

คนฉลาด คือ คนรู้รักษาตัวรอด รู้กาลเทศะ ว่าควรหรือไม่ควร

เราท่านพ่ายแพ้กิเลสที่มายั่วยวน หลวงพ่อนิพนธ์เรียกว่าตบะแตก ผลของการทำบุญเพื่อใช้กรรม จึงไม่สมบูรณ์ หรือไม่มี แล้วจะไปหวังผลหาย จากการทานสมุนไพรเพียงอย่างเดียว ก็คงจะเป็นการยาก

เทคนิคเล็กน้อย นั่นคือ ต้องทำตนให้สมองว่าง ทิ้งเรื่องต่างๆ ไว้ก่อนที่เราจะมาทำพิธีกรรมสวดมนต์ เพื่อให้จิตผ่อนคลาย และรวบรวมอำนาจของวิญญาณเกิดสมาธิในการทำบุญอย่างเต็มที่ เมื่อแล้วเสร็จ จะคุยเรื่องใด จะทำสิ่งใด ก็ตามใจ

ไม่ใช่ สวดมนต์ไป คิดไป เมื่อกี้ไปซื้อผักหน้าชมรม ถูกกว่าซื้อแถวบ้านโลละตั้งยี่สิบ ไว้ซื้อไปขายดีกว่า หรือ อ่านหนังสือพิมพ์บ้าง ละครบ้าง แล้วก็มีวิพากวิจารณ์ ลอยไปมาขณะสวดมนต์ บ้างก็เดี๋ยวต้องโทรบอกคนโน้น คนนี้ ให้ทำโน่นทำนี่ ธุรกิจเต็มหัวไปหมด

ทำเหมือนกัน แต่ผลได้ต่างกัน มันจึงมาด้วยประการละฉะนี้

สู้เตรียมตัวเตรียมใจมาแต่บ้าน ถึงก็ไปกราบแม่ชีเมี้ยน กราบพระภูมี ถวายสัจจะ เล็กๆ น้อยๆ ตามแต่ตนทำได้ อาทิ เช่น จะช่วยกวาดถนน หนึ่งชั่วโมง แล้วก็ไปทำเตรียมสวดมนต์ ฟังคำสอน หลังจากออกจากทำกิจกรรม ทีนี้จะอ่านหนังสือพิมพ์ จะทำสิ่งไร ก็ไม่เป็นไรแล้ว เพราะกิจกรรมที่ทำเราสมบูรณ์ ทั้งกาย วาจา และใจแล้วนั่นเอง

เคยได้ยินหมอบอกไหม ว่า ทำใจให้สบาย และโรงพยาบาลห้ามมีเสียงรบกวน ... สงสัยไหมว่าทำไม

อย่าเลย มาแต่เช้า แล้วจับกลุ่มคุยเรื่องสัพเพเหระ แบกไว้เต็มหัว แล้วจะมีช่องว่างตรงไหนให้ธรรม ให้บุญเขาแทรกเข้าไปเล่า

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44