แม่ชีเมี้ยนได้ยกพุทธประวัติ เมื่อครั้งพระโคดม ทรงออกผนวช แล้วพบเด็กเลี้ยงควาย ให้ฟัง
เด็กเลี้ยงควายเห็นพระโคดม ก็ใช้หินขว้างปาศีรษะของพระโคดม แล้วด่าว่า อ้ายพระเดียรถีย์ ทิ้งพ่อที่แก่เฒ่า อกตัญญูู
สติที่พระโคดมทรงใช้นั่นคือ "การเสียสละ"
ท่านต้องยอมให้คนด่าทั้งเมือง ต้องยอมเสียสละตน ที่ถือได้ว่าเล็กน้อย เพื่อผลอันยิ่งใหญ่แก่มวลมนุษย์ในภายหน้า นั่นคือ การได้บรรลุธรรม เพื่อมาช่วยมนุษย์ จนทำให้มีพระอรหันต์เกือบแสนรูป ปรากฎเป็นพงศาวดารนั้นเอง
ดังนั้น การที่จะมาทำกิจกรรมนี้ ต้องเริ่มจากการยอมเสียสละบางสิ่ง หากแต่ผลที่ได้ตอบแทนกลับมานั้นใหญ่หลวง มีค่าสุดประมาณมิได้
ด้วยชีวิตมนุษย์นั้นมีค่าสุดประมาณมิได้นั้นเอง เงินทองสักเท่าใดก็หาพอใช้ซื้อได้ หากแต่บุญของพระพุทธศาสนา ที่ทำนั้นสามารถช่วยชีวิตของเราท่านได้
พระพุทธเจ้าจึงกำหนด หนึ่งวันในสัปดาห์ ให้เป็นวันที่เราท่านควรเสียสละ มาทำกิจกรรมเพื่อชีวิต และให้ถือเป็นวันสำคัญ เพราะการกระทำในวันนี้นั้น มีผลต่อทุกข์สุขของวิญญาณ
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ผู้ที่เห็นว่า มาเมื่อไหร่ก็ได้ มีเวลาก็มา มาแล้ว ก็ไม่ได้เน้นในการทำ นั่งคุย นั่งหลับ นั่งแชท คุยโทรศัพท์
นั่นเป็นพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่า คนคนนั้นเห็นสิ่งเหล่านั้นมีค่าเหนือกว่าชีวิต นั่นคือ ราคาชีวิตของเขาต่ำเหลือประมาณ
จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่คนเหล่านั้นจะประสพผลสำเร็จ แลท้ายที่สุด คนเหล่านั้นก็ตีโพยตีพาย โทษศาสนา ว่าทำไมทำแล้ว ผลจึงไม่เกิด
คนที่จะประสพผล ต้องเห็นค่าของชีวิตเหนืออื่นใด เขาจึงเน้นการกระทำของเขาในวันที่มาทำกิจกรรม เพราะรู้ดีว่า ไม่ว่าเงิน ไม่ว่าสิ่งใดในโลก ไม่สามารถแก้ทุกข์ของเขาได้เลย แต่การกระทำที่ดูพื้นๆ ที่แม่ชีเมี้ยนนำมาให้ ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น สามารถใช้สร้างบุญเพื่อแก้กรรมแก้เวรที่มีของเขาได้
ค่าของการรับโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเพื่อให้ได้กำไรพันล้าน หามีค่าไม่ เพราะแก้ปวดท้องยังไม่ได้เลย หากแต่การเสียสละไม่รับโทรศัพท์ แล้วมีสมาธิสวดมนต์ เพื่อหาเงินบุญของพระพุทธเจ้า อย่าว่าแต่ปวดท้องเลย มะเร็งยังกลัว
นี่เองทำให้รู้ได้โดยไม่ต้องเป็นหมอดู ก็เห็นได้เลยว่า คนไหนที่มีแววจะประสพผล คนไหนที่มาทานสมุนไพรแก้ขัด หวังผลไม่ได้เลย ที่หลวงพ่อนิพนธ์เรียกว่า พวกเปลือก พวกกระพี้ หรือ พวกชูชก ที่ต้องทำใจ
เพราะเขามาไม่หวังผล ชีวิตของเขาเองยังไม่ให้ค่า คนประเภทนี้หลวงพ่อนิพนธ์บอก ต้องทำใจ และหลีกให้ไกล
เวลาในการทำเพื่อช่วยตน มีข้ออ้างตลอด ไม่คิดจะยอมเสียใดๆ เลย พระภูมีสอนให้ไกลคนประเภทนี้เข้าไว้ นั่นแหละคนพาล