คำกล่าวนี้ หลวงพ่อนิพนธ์ใช้ประกอบ เมื่อพูดถึงความจริงของมนุษย์ข้อหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ คือ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
อันเป็นเหตุผล ที่ใช้ยืนยันว่า มนุษย์ทุกคนไม่ถึงที่ตาย ไม่วายชีวาวาต โรคห่าใดจะพิฆาตไม่อาสัญ
เป็นการชี้ให้เห็นถึงความไม่รู้ ทำให้คิดไปเองว่าสิ่งนั้นช่วย สิ่งนี้ช่วย
หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักยกตัวอย่างเช่น คนจนคนรวยเป็นโรคเดียวกัน สมมุติโรคพื้นฐานปวดท้อง แล้วไปซื้อยากิน เมื่อทั้งคู่ยังไม่ถึงพรหมลิขิต ไม่ว่าจะยาเม็ดละร้อยของคนรวย หรือเม็ดละบาทของคน ทั้งคู่ก็ต้องหายเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุมิใช่หายเพราะยา แต่หายเพราะพรหมลิขิต
สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ คนจำนวนมาก เมื่อมีทุกข์ ไม่ว่าจากโรคภัย หรือ ทุกข์จากสิ่งใดก็ตามแต่ ก็มักเร่ไปให้คนนั้นช่วย คนนี้ช่วย หากเป็นโรค ไปหาหมอคนที่หนึ่ง ก็ไม่หาย คนที่สองก็ไม่หาย จนกระทั่ง เมื่อกรรมถึงเวลาผ่านไป หมอคนสุดท้ายเลยเฮง เพราะกลายเป็นว่า ทานยาไปปุ๊บ ก็หายปั๊บ จิด ก็จับทันที ยกย่อง สรรเสริญ ว่าหมอท่านนั้นวิเศษ เก่งจริงๆ หามาหลายหมอแล้วไม่หาย คนนี้ แค่วันสองวันก็หายแล้ว
เราท่านจึงมักได้ยิน คนแนะนำกัน ไปหาหมอคนนั้นซิ ฉันก็เป็นโรคเดียวกันนี้ หามาตั้งหลายหมอไม่หาย หมอคนนั้นวันเดียวหายเลย ... สุด.....ยอด
หรือแม้แต่ทุกข์อื่นๆ หลวงพ่อนิพนธ์ก็ยกตัวอย่าง ความจน ให้ฟัง
หลายคนก็ไปบนบาน วัดโน้น วัดนี้ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ หลวงพ่อนั่น หลวงพ่อนี่ ก็ไม่ดีขึ้นเลย หากแต่เมื่อถึงเวลากรรมดีมาถึง พอดีไปเห็นจิ้งจกสองหาง ยกมือไหว้ แล้วก็ได้โชคลาภ จิตก็ฝังใจ ว่า ทุกข์มาตั้งนาน พอได้ไหว้จิ้งจกเท่านั้น ก็มีลาภเลย จิ้งจกธรรมดา เลยกลายเป็นเทพเจ้าขึ้นมาทันทีทันใด ชวนคนนั้นคนนี้ มากราบไหว้
แต่เมื่อครั้นถึงที่สุด เมื่อกรรมมาถึง จิ้งจกตัวเดิม หมอคนเดิม ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า พรหมลิขิตมนุษย์นั้นเหนียวแน่นที่สุด ดังนั้น เมื่อไม่ถึงที่ตาย จะทำอย่างไรก็ไม่ตาย จึงถูกนำมาหากินกันมากมาย
หากแต่ที่ร้ายที่สุด นั่นคือ การสร้างอุบัติเหตุให้แก่ตน โดยการไปทำลายธรรมชาติ หรือระบบร่างกายของตนเอง จนเสียหาย สิ่งนี้แหละที่เรียกว่า "อุบัติเหตุ"
อาทิเช่น ตัวอย่างคนไข้สองราย
รายแรกเป็นหมอหญิง มีปัญหาด้านสายตา แล้วเลือกใช้วิธีทางการแพทย์สมัยใหม่ โดยวิธีการฉีดเสตียรอยด์ จนในที่สุดส่งผลให้ประสาทตาถูกทำลายด้วยผลของยา และท้ายที่สุด ก็รอวันที่ตาจะบอดสนิท
หากปล่อยไปตามวันเวลา ดวงตาอาจใช้เวลาเป็นสิบปี กว่าจะบอด นี่แหละเรียกอุบัติเหตุ ทำให้ต้องเสียดวงตาก่อนเวลาอันควร
รายที่สอง เป็นเด็กหนุ่มวัยประมาณยี่สิบ มีปัญหาด้านสมอง หมอแนะนำให้ผ่าตัด ฝังเครื่องกระตุ้น
ผลจากการผ่าตัด กลายเป็นช่วยตัวเองไม่ได้ ระบบการทำงานของร่างกายรวนทั้งระบบ
สิ่งนี้เรียกว่า "อุบัติเหตุของชีวิต" ทำให้ระบบเสียหายก่อนเวลา แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั่นคือ ระบบที่เสียไปนี้ร่างกายจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้หรือไม่
ในกรณีของคุณหมอ ผ่านการทานสมุนไพรมาสามสี่เดือน ปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบรับสมุนไพร เพื่อนำมาฟื้นฟู ดวงตา หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า อยู่ที่เลือดสามารถกลับมาเลี้ยงได้หรือไม่ และก็มีแววของปาฏิหารย์เกิดขึ้น เมื่อปรากฎเส้นเลือดฝอย ขึ้นมาเลี้ยงที่ตา อีกครั้ง นั่นคือ ร่างกายเริ่มซ่อมตัวเองได้ แต่จะได้ในระดับไหนก็ต้องรอดู
ในกรณีของเด็กหนุ่ม ผ่านการทานสมุนไพรมาเป็นปี เด็กหนุ่มกลับมาเดินได้ สมองเริ่มสามารถบังคับอวัยวะต่างๆ ได้ดีขึ้น พูดชัดขึ้น จนพ่อของเขามักพูดกับเหล่าสมาชิกว่า เสียดายที่พาลูกไปผ่าตัด แล้วฝังเครื่องกระตุ้น แล้วจึงมาได้พบสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน
มิฉะนั้นแล้ว ลูกเขาคงจะฟื้นฟูกลับมาได้ดีกว่านี้แน่ หากแต่ก็ยังได้รับความเมตตาเป็นพิเศษ เพราะหลวงพ่อนิพนธ์ได้ทำสมุนไพรเฉพาะตัวของลูกเขาให้ทาน คือ สมุนไพรฟื้นฟูสมอง โดยเฉพาะ ซึ่งก็ต้องรอดูกันเหมือนคุณหมอ ว่าร่างกายจะฟื้นฟูได้เท่าไร จนสามารถทำงานเองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องกระตุ้นหรือไม่
บทสรุปของหลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า คนที่ไม่ผ่านเคมี ไม่ผ่านศัลยกรรม ผ่าโน่น ตัดนี่ เมื่อมาพบสมุนไพรจึงได้เปรียบ เพราะหากไม่ถึงพรหมลิขิต ย่อมไม่ตายแน่ ด้วยพรหมลิขิตของเขา เมื่อได้พบสมุนไพรที่ถูก ร่างกายย่อมสามารถฟื้นฟูกลับมา เดินจนครบพรหมลิขิตอย่างแน่นอน
ตัวอย่างที่มักยกมาให้เห็น อันได้แก่ ครูวัลลภ ผู้ซึ่งหมอจุฬา วินิจฉัยว่า เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย เหลือไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ ทางเดียวที่จะรอด คือ เปลี่ยนถ่ายหัวใจ
หากแต่ครูวัลลภ เชื่อมั่นสมุนไพร เพราะเห็นตัวอย่างจากภรรยา ที่ได้พามาหาหลวงพ่อนิพนธ์เมื่อยี่สิบปีก่อน ที่พี่น้องภรรยาทุกคน ล้วนเป็นมะเร็งตายทั้งสิ้น เหลือแต่ภรรยาที่รอดมาได้
ทุกวันนี้ ครูวัลลภ ก็ยังอยู่และฟื้นฟูตัวเองกลับมาทำงานได้เกือบปกติเต็มร้อย รับอาสาทำหน้าที่ดูแลสถานที่และแพ ที่เตรียมไว้เพื่อผู้ป่วยยาเสพติด โดยไม่ผ่านการผ่าตัดแต่อย่างใดเลย
อุบัติเหตุ จึงหมายถึง การที่เราท่านตัดสินใจใช้เคมี หรือการผ่าตัดศัลยกรรม เพื่อแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่ จนท้ายที่สุด ผลของมันทำให้ร่างกายไม่สามารถดำรงอยู่ได้จนถึงพรหมลิขิตนั่นเอง
ที่สำคัญ อวัยวะที่ถูกทำลายจากเหตุนี้ ต้องไปวัดดวงว่า ร่างกายจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้เท่าไร .....