คำถามหนึ่ง ที่หลายคนคิด อาจด้วยความกังวล ห่วงใย หรือสงสัย และคิดว่าไม่ชอบมาพากล นั่นคือ ชมรมดำรงอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้ขายสมุนไพร
ครั้งหนึ่งถึงกลับมีคนปล่อยข่าวว่า มีพรรคการเมืองหนุนหลัง ว่าไปโนน่ จนถึงกลับทางการต้องนำเครื่องเฮลิคอปเตอร์มาบินตรวจ เพราะคิดว่ากำลังซ่องสุมคน โดยใช้เป็นฉากบังหน้า เอาเข้าไป
ในแท้ที่จริงแล้ว หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า สถานที่นี้ เมื่อใช้หลักของพระภูมีในการรักษาตน ก็ต้องใช้หลักนี้ในการดำเนินกิจกรรมเช่นเดียวกัน
การดำเนินงานที่ผ่านมาในอดีต อาจต้องอาศัยแนวทางโรบินฮู๊ด ปล้นคนรวยช่วยคนจน แต่มาถึงวันนี้แม้จะมีคนรวยที่ยอมให้ปล้น หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่าก็ทำไม่ได้
ตัวอย่างเช่นผู้ที่ศรัทธาในตัวท่าน อาทิ รองประธานของบริษัทเบทาโกร ที่เอ่ยปากขอสนับสนุนกิจกรรมทั้งหมด ขอรับค่าใช้จ่ายของชมรมเดือนละล้านบาท ท่านก็จึงต้องปฏิเสธไป
เพราะเวลานี้ พูดง่ายๆ คนที่รับผิดชอบ คือคนที่มีส่วนได้เสียจากชมรมเท่านั้น คนนอกมิอาจไปยุ่งเกี่ยวได้
คุณสมบัติประการหนึ่งที่สมาชิกควรจะมี นั่นคือ การทำตนเป็นพระเวสสันดร
กิจกรรมของชมรม จึงขับเคลื่อนไปด้วยพระเวสสันดร นับพันนี้เอง
ภาระของค่าใช้จ่ายสมุนไพรหลักๆ เช่น มะพร้าว พริกไทย เป็นต้น จึงเป็นภาระของสมาชิก ที่จะแสดงตนว่าเชื่อในคำสอนของพระภูมี นั่นคือการเป็นพระเวสสันดร
จึงก่อให้เกิด หน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบและแสดงคุณสมบัติ ในยามที่ชมรมเปิดซุ้มรับบริจาค ค่ามะพร้าว พริกไทย ตามสัดส่วนของตน นั่นคือ มะพร้าว สิบลูก พริกไทยคนละโลครึ่งโล
พฤติกรรมนี้ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง อุปมาดุจเม็ดทรายที่มารวมกัน ก่อกันจนเป็นเจดีย์ ไม่ใช่นำหินใหญ่ก้อนเดียวมาสร้างไม่
การกระทำนี้แม้ดูน้อยนิด แต่ให้ผลมหาศาล เพราะสมาชิกทานในส่วนของตน ส่วนที่เกินก็เป็นทานให้แก่ผู้อื่น อันก่อให้เกิดสุขแก่ผู้อื่น การทำเช่นนี้ ถือได้ว่าเข้าข่ายเป็นพระเวสสันดรแล้ว
ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า มะพร้าวสิบลูก พริกไทยครึ่งโล ช่วยเราให้พ้นโรคได้ ... ใครเชื่อก็ทำดู
แต่กว่าจะได้ทำ ก็ต้องรอสองเดือน หรือสามเดือนครั้ง .... โน้น
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า ธรรมของพระภูมี บัญญัติให้ใครก็ทำได้ ไม่สนหรอกเศรษฐี ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากันหมด