ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555
เดินตามรอยพระพุทธ
เรามักได้ยินได้ฟังบ่อยๆ ถึงความเห็นในโรงอาหารของชมรมคนรักสุขภาพ
คำพูดหลากหลายความเห็น ไม่ว่า คิวยาว อาหารไม่ถูกปาก แม่ค้าพูดไม่ถูกใจ หรือสรรพสิ่งอีกมากมาย สรุปได้ประเด็นเดียวคือ ไม่ทาน
คำพูดเหล่านั้นล้วนมีเหตุผล มีน้ำหนัก ที่น่าฟังได้ ที่ทำให้เลือกเช่นนั้น หากแต่สิ่งที่ทำลงไปนั้น ก็คงหนีคำว่า "ใจสั่งมา" ไม่ได้เลย
พฤติกรรมเช่นนั้น ถ้ากระทำที่อื่นก็ไม่กระไร แต่สำหรับที่ชมรมคนรักสุขภาพ ผลมันต่างกันมหาศาล
ด้วยเหตุสถานที่นี้ มีคำสอนพระภูมีให้หนีกรรม ดังนั้น ทุกภาคส่วนย่อมทำเพื่อตน และหนีไม่ได้ที่ต้องเผชิญกรรมที่ทำมา
ร้านอาหาร ที่จัดขึ้ัน มีเจตนาเพื่อนำผลที่ได้ ที่หลากหลายคนได้ทำร่วมกัน นำไปเพื่อจัดหาสมุนไพร ไว้กอบกู้ชีวิตมนุษย์
คนทำ ก็ต้องใช้ขันติ อดทน เพราะคนมาก งานมาก และหนักมาก แต่ทำฟรี คนขาย ก็ทำฟรี คนกิน ก็ต้องทน คิวยาว อาหารไม่ถูกปาก ทุกภาค ทุกส่วน ล้วนแล้วแต่ต้องทน
แล้วทนไปเพื่ออะไร เพื่อแสดงว่าเราท่านเชื่อในคำสอนของพระภูมี จึงมีขันติ อดทน ทำด้วยเหตุ ด้วยผล ไม่ใช่ด้วยใจอยาก
หลวงพ่อนิพนธ์ สอนว่า เราได้ทำใจ แม้เราจะไม่สุขใจในรสชาติ แต่ควรจะสุขใจที่ได้เป็นผู้ให้ ได้ฝึกตนให้มีขันติ อดทน
แลที่ฝึกโดยไม่รู้ตัว คือ ฝึกทานเพื่อประทังสังขาร ดั่งพระภูมี ที่บิณฑบาต ได้อย่างไร ฉันอย่างนั้น
เมื่อพิจารณาแล้ว จะพึงเห็นว่า ถ้าทานด้วยใจ ก็ไปหาที่อื่นดีกว่าเยอะ อร่อยกว่าเยอะ ยิ่งนำมาเอง ยิ่งถูกปาก หากแต่การทำเช่นนั้น ไม่ได้ช่วยตนเลย นอกจากถูกจริตเท่านั้นเอง
หากเราทานด้วยเหตุและผลแล้วไซร้ การทานนั้นก็จะให้สุขมหาศาล เพราะไม่มีที่ไหนที่เราทาน อิ่มแล้วยังมีบุญ ได้เป็นผู้ให้
พฤติกรรมที่ดูไม่สำคัญ แต่มีผลต่อตนเองมหาศาล หากไม่เชื่อในพระภูมีแล้วไซร้ สุขในการทานย่อมไม่บังเกิด หากเชื่อ แม้มีเพียงข้าวคลุกน้ำปลา ก็อร่อยหาที่เปรียบไม่ได้เลย
คำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ น่าจะย้อนให้เราได้คิดว่า ทำไมจึงมีวินัยให้บิณฑบาต
และควรฉุกคิดว่า ถ้าสิ่งที่สอนให้ทำมันผิด ผลถูกมันจะเกิดให้เห็นได้โดยวิธีใด