ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ห้าครั้ง - หายเลยไหม?
หลวงพ่อนิพนธ์ นำสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน และหลักของพระภูมีมา ให้เป็นทางเลือก
คำว่า "ทางเลือก" แสดงว่าเหมาะสมกับบางบุคคล ไม่ใช่ทุกคน กระนั้นก็ตาม ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้ลองฟัง ลองคิด และลองทำดู
บทบัญญัติ ห้าครั้ง จึงถูกกำหนดขึ้น เพื่อที่จะให้ทุกคนได้มีสิทธิ์ที่จะลองนั่นเอง หาใช่ หมายความว่า สมุนไพรนี้ เป็นสมุนไพรที่ทานครบห้าครั้งหายไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ขอย้ำ
กระบวนการสมุนไพร อาศัยธรรมชาติที่ค่อยๆ ปรับสมดุลย์และฟื้นฟูตัวเอง ต้องใช้เวลา ระยะสั้นยาว ไม่มีใครตอบได้
ทำไมเรียกทางเลือก เพราะเป็นพหูสูตรที่ใช้ได้กับทุกคน และทุกโรค ไม่มีขีดข้อจำกัด สิ่งที่เป็นปัจจัยกำหนดว่า ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ทานเป็นสำคัญ นั่นคือ ผู้ทานเป็นผู้เลือก หรือ ตัดสินใจ ว่าเส้นทางนี้เหมาะสมกับตัวหรือไม่
ในห้าครั้งแรกนี้เอง จึงเป็นช่วงที่หลวงพ่อนิพนธ์ มีไว้เพื่อให้เราท่านตัดสินใจ ว่าจะเดินในเส้นทางนี้หรือไม่
คำถามที่ต้องตอบกับตัวคนป่วยเอง ในระหว่างห้าครั้งแรกก็คือ
๑. การทานสมุนไพร ต้องอาศัยความต่อเนื่องเป็นระยะเวลาที่มากพอ จึงจะเกิดผล จะยืนระยะไหวไหม พร้อมไหม มีสิ่งไรที่ติดขัดหรือไม่ เพราะระยะเวลาจนกว่าจะหาย นานหรือสั้น ไม่มีใครตอบได้ แล้วแต่ตัวบุคคล
๒. ข้อปฏิบัติที่จะต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง มีความพร้อมหรือไม่ นั่นก็คือ ต้องมาเองทุกสัปดาห์ ยกเว้นกรณีพิเศษจริงๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป
๓. ดั่งคำโบราณ ที่ว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสมุนไพรอาจจะทานยากสำหรับบางคน ดังนั้น ห้าครั้งนี้ ก็ลองดูว่าสมุนไพรที่รับมา ทานได้หรือไม่
๔. การใช้แนวทางนี้ ใช้ความขันติ อดทน ยิ่งโดยเฉพาะเวลาที่เกิดอาการลงแดง รวมทั้งความลำบากในการต้องทนกับเหตุ อันเนื่องจากการอยู่รวมกันของคนหมู่มาก
เพราะหลวงพ่อนิพนธ์มองเห็นแล้วว่า เส้นทางนี้เมื่อมองเทียบกับทางหมอสมัยใหม่แล้ว ภาพเสมือนขาวกับดำ
วิทยาการสมัยใหม่ แสดงภาพให้เห็น เริ่มตั้งแต่ภาพคนรักษา ต้องมีดีกรีที่สากลยอมรับ ยาเคมีที่ทำ ได้รับการรับรองจากสถาบัน สถานที่ให้การรักษา สะอาด สุดยอด เป็นภาพที่งดงาม อุปมาดอกบัว เมื่อทานก็ทานง่าย ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก สรุป มีเงินทุกอย่างก็จบ
หากแต่ตอนจบ ก็หนี้ไม่พ้น นิ้วขาด แขนขาด อวัยวะถูกตัด ถูกเฉือน เพราะสิ่งนี้คือ กงจักร ที่เราท่านเห็นเป็นดอกบัว เมื่อเลือกเดิน ก็เพราะถูกจริต ได้ใจ กว่าจะรู้ตัว ก็ถูกตัดโน่นตัดนี้ อาจจนกระทั่งชีวิต
วิทยากรพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนถ่ายทอดมาให้ ภาพที่เห็นไม่น่าไว้วางใจเลย สมุนไพรก็ไม่รู้สะอาดไหม มี...ไหม ชวนน่าสงสัยไปหมด จะวางใจดีไหม ทานก็ยาก ยิ่งซ้ำร้ายข้อปฏิบัติก็ยุ่งยาก จนเห็นเป็นภาพที่น่ากลัวดุจกงจักร จะหยิบจับก็กลังไปหมด หากแต่เมื่อได้สัมผัส และทำได้ ผลที่ได้รับ กลับเป็นความงดงามของชีวิต ดุจดังดอกบัว
สถานที่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักพูดให้ฟังเสมอ "เราไม่กลัวโรค เรากลัวความคิด แลนิสัยของผู้ที่มาต่างหาก"
สถานที่นี้จึงไม่มีข้อจำกัด รับทุกโรค ทุกอาการ ทุกขั้น ไม่ว่าจะวิกฤตสักเพียงใด แม้หมอให้นับชั่วโมงก็ยังรับ และให้โอกาสมาทดลองทางเลือกสายนี้เสมอ และห้าครั้งแรก ก็คือ ช่วงที่คนไข้ต้องตอบคำถามกับตัวเอง ว่าทางเลือกนี้ เหมาะกับตัวท่านหรือไม่ และท่านมีความพร้อมที่จะช่วยตนด้วยวิธีนี้หรือไม่
และหลวงพ่อนิพนธ์ก็ไม่หวงห้าม หากเห็นว่า ไม่ชอบ หรือ ทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร สามารถเลิกแลไปหาเส้นทางเลือกใหม่ ได้ตามอัธยาศัย จะเลิกเมื่อไรก็ได้ แต่ถ้าจะทำ "ต้องยืนระยะ และอดทน" รอจนกว่า เมล็ดพันธุ์ที่เราปลูกออกผล ซึ่งผู้ทำได้ ช้าหรือเร็ว ผลก็ต้องเกิดอย่างแน่นอน
หากมีปัญหาใดๆ ก็สามารถถาม วิทยากร ได้ที่แผนกประชาสัมพันธ์ หรือเข้าหาคุณดา ได้โดยตรง ในวันทำการ คือ พฤหัส และอาทิตย์
ห้าครั้งแรก จึงอุปมาได้ดั่ง ไปรับเมล็ดพันธ์ และตัดสินใจว่าจะปลูกหรือไม่ เท่านั้นเอง