หลวงพ่อนิพนธ์ ได้เคยพูดเล่นเสมอๆ ว่า เมื่อคนรังแกธรรมชาติจนเกินไป ในที่สุดเมื่อธรรมชาติไม่สามารถรักษาดุลย์ให้เป็นปกติได้ ทำให้ระบบของร่างกายเสียไป นั่นแหละปัญหาใหญ่กำลังตามมา
เรื่องของชีวิต เป็นเรื่องของธรรมชาติ สิ่งที่จะนำมาใช้ ถูกจำกัดว่า ต้องเป็นของที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ ร่างกายจะปฏิเสธทั้งสิ้น
หลายปีก่อน เมื่อผู้คนเริ่มนิยม การทำสีผม การใส่สารพัดสิ่งลงบนศีรษะของเราท่าน ท่านบอกว่า สิ่งเหล่านี้จะย้อนกลับมาสร้างปัญหาให้แก่มนุษย์เหล่านั้น
เมื่อมีคนไข้ที่มีอาการโรคไมเกรน หมดค่ารักษาไปมากมาย ก็ไม่สามารถทำให้อาการทุเลาลงได้ ท้ายที่สุด คนไข้ผู้นี้ก็มาถึงทางเลือกสุดท้าย คือ สมุนไพรแม่ชีเมี้ยน
หลวงพ่อนิพนธ์ ได้วินิจฉัย คนไข้รายนี้ว่า ปัญหาของคุณ อุปมาดังเส้นผมบังภูเขา เมื่อหมอไม่รู้สาเหตุ การแก้ปัญหาจึงบานปลาย ดังเช่นไปหาช่างซ่อมรถ ที่ไม่รู้อาการของรถที่แท้จริงนั่นเอง
ท่านจึงอรรถาธิบายให้ฟังว่า สาเหตุของการเกิดอาการปวดหัวของเขา เกิดจากการใช้สารเคมีกับศีรษะมากเกินไป จนทำให้สารเคมีเหล่านั้น ไปอุดตันรูขุมขนที่ทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียบริเวณศีรษะ
ผลก็คือ เมื่อร่างกายไม่สามารถขับของเสียบริเวณศีรษะออกได้ ทำให้ของเสียเหล่านั้น ไหลย้อนกลับ และตกค้างอยู่บริเวณศีรษะนั่นเอง
ของเสียเหล่านี้สะสม จนเกิดเป็นพิษ ทำให้มีอาการปวดศีรษะขึ้น
หลวงพ่อนิพนธ์จึงให้ คนป่วยนั้นเข้ากระโจม และพยายามนวดศีรษะ เพื่อให้สมุนไพรในห้องกระโจม ทำหน้าที่เปิดรูขุมขนบริเวณศีรษะที่อุดตันนั้น
ความทรมานหลายปีที่เกิด สามารถหายได้เพียงชั่วสองสัปดาห์ โดยที่ไม่ต้องทำอื่นใดเลย
ตำนานบทนี้ ท่านจึงทายทักว่า ในอนาคต เมื่อมนุษย์มีพฤติกรรมรังแกธรรมชาติของตนมากจนเกินไป จะบังเกิดเป็นโรคใหม่ เรียกว่า "มะเร็งเส้นผม"
ใครจะเชื่ออะไรก็ช่าง แต่ธรรมชาติกับเคมี เป็นดั่งเช่น น้ำกับไฟ วงเล็บเฉพาะเรื่องของชีวิต
สิ่งที่ได้จากเคมี มันจึงต้องตรองให้ดีว่า คุ้มกันหรือไม่