หลวงพ่อนิพนธ์ได้ยกตัวอย่าง กรณีของยาเสพติดไว้ว่า สารเคมีที่อยู่ในยาเสพติด เมื่อเสพเข้าไปแล้ว ในระยะแรกที่ร่างกายพอขับได้ ผู้เสพจึงคิดว่า ไม่ติด ไม่เป็นไร
ความจริงที่เกิดคือ สารเคมีที่ร่างกายขับไม่หมด จะเริ่มสะสม และกลายเป็นดั่งร่างแหใยแมงมุม เกาะรัดกระดูก
ตราบใดก็ตาม ถ้าร่างกายยังคงได้รับสารยาเสพติดนั้นอยู่ ร่างแหนี้ก็จะอยู่ในสภาพที่ชุ่มชื้น แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายขาดสารยาเสพติด ร่างแหของสารเคมีนี้ก็จะเกิดอาการหด และรัดตัว ทำให้เกิดอาการ ประหนึ่งร่างกายเราโดนเข็มหลายพันหมื่นเล่มแทง
ดังนั้น แม้ว่าผู้นั้นจะไม่อยากเสพ แต่ความทรมานก็ได้บีบคั้น จนต้องหามาเสพ เพื่อให้อาการดังกล่าวหายไป
ครั้นเมื่อมารับสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน สมุนไพรจะทำหน้าที่ล้างสารเคมีเหล่านี้ออก ภาษาพระท่านเรียกว่ากระชาก
ประเด็นที่สำคัญที่ตามมาคือ แล้วร่างกายจะไล่สารเคมีที่ถูกล้างออกได้โดยวิธีใด
ก็ต้องอาศัยทางระบายที่มีอยู่นั่นเอง ในกรณีของสารเสพติด การอาเจียน เป็นทางที่เร็วที่สุด และได้ผลที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุด จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นตัวอย่างได้จากสารคดี และภาพยนต์เรื่อง "น้ำพุ" นั่นเอง
แต่การจัดสมุนไพรให้ทาน ก็ยังต้องอาศัยเทคนิคบางประการ นั่นคือ ต้องรอจนกว่าผู้ติดยาเกิดอาการลงแดงเสียก่อน เพราะขณะนั้นเอง สารเคมีเหล่านี้จะลอยตัว เมื่อทานสมุนไพรก็สามารถทำงานได้โดยง่าย
เฉกเช่นเดียวกันในการรักษาโรค การลงแดง ย่อมหมายถึงโอกาสอันดี ที่ร่างกายและสมุนไพร มีโอกาสทองที่จะกำจัดสารเคมีที่ตกค้างออกจากตัว ผู้ป่วยทั่วไป จึงอาจมี อาการที่ปรากฎที่จะใช้ในการขับสารเคมีออก เช่น ปัสสาวะบ่อย ถ่ายบ่อย แม้กระทั่งเกิดอาการไอ ดังที่วิทยากรบางท่านเรียกว่า "ไอกระแทก" เกิดขึ้น
สัญญาณเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ดี เพราะแสดงถึงว่าร่างกายเราพร้อมที่จะต่อสู้แล้วนั่นเอง แต่ก็น่าเสียดายที่บางท่านกลับมองเป็นอาการที่เลวร้าย
ดังนั้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ การทานสมุนไพรในระยะแรกๆ สภาวะจะดีขึ้น จวบจนที่ร่างกายพร้อม ก็จะทำการขับสารเคมีออก ก็จะปรากฎอาการลงแดง ในช่วงนี้เอง การกำจัด เป็นความสามารถของร่างกาย ที่จะเลือกวิธีที่ปลอดภัยแก่ตัวของคนป่วยเอง อาการก็จะปะทุขึ้น จนบางท่านคิดว่าตัวเองแย่ลง และอาจทิ้งทางนี้ไปก็มีมาก
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า เมื่อประตูนรกเปิด เราต้องพร้อมยอมรับที่ต้องฝ่าเข้าไป เพราะเป็นกรรมที่เราทำมา แต่วันใดที่เราเดินผ่านพ้น เราจะพบประตูสวรรค์
การลงแดง ในความหมายของชมรมคนรักสุขภาพ จึงมีความหมายกลายๆ ว่า เรากำลังจะผ่านนรก และใกล้จะถึงประตูสวรรค์ คือการหายจากโรคแล้วนั่นเอง
ผู้ไม่เรียนรู้ จึงมักตกม้าตายเมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ เพราะเกิดวิตกจริต จนเกิดความกลัว จนต้องทิ้งหนทางนี้ไป ทั้งๆ ที่เหลืออีกนิด ก็จะถึงประตูสวรรค์แล้ว นับว่าน่าเสียดายยิ่ง
ตัวอย่างที่หลวงพ่อนิพนธ์มักยกให้ฟัง ก็ดังเช่น ท่านผู้พัน ที่เป็นโรคหัวใจ เมื่อมาปรึกษาท่าน ก็ได้อธิบายให้เข้าใจ และเตรียมใจ จนเกือบปี อาการลงแดงจึงเกิด ท่านผู้พัน เล็บเขียว ตัวซีด มองดังคนไม่มีเลือด ลมหายใจแผ่วเบาจนแทบไม่มี ท่านรู้ตัว จึงทำตามที่หลวงพ่อนิพนธ์แนะนำ ทานสมุนไพร แล้วไปนอนหายใจรวยระรินในห้องพระ พร้อมสั่งครูผู้ซึ่งเป็นภรรยาว่า ห้ามพาท่านไป ร.พ. อย่างเด็ดขาด กระนั้นก็ตาม ครูผู้เป็นภรรยา ก็เรียกรถพยาบาลมารอไว้ จนผ่านไปสามชั่วโมง ท่านผู้พัน จึงเริ่มกลับมามีอาการปกติ ลุกขึ้นได้ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวกับท่านผู้พันว่า ผลจากการลงแดงครั้งนี้ จะเป็นตัวบอกว่า โรคหัวใจไม่สามารถทำอะไรผู้พันได้อีกแล้ว เพราะการลงแดง คืออาการที่รุนแรงที่สุด ร่างกายก็สามารถรับได้ และนับแต่นั้นมา ท่านผู้พันก็ไม่เคยมีอาการดังกล่าวอีกเลย
เราจึงอยากให้เปลี่ยนทัศนะคติใหม่ว่า เราท่าน ควรอยากให้การลงแดงมาถึงเร็วๆ เพราะนั่นย่อมหมายถึง ร่างกายเราพร้อม เมื่อมีสมุนไพรเป็นกองหนุน เราท่านย่อมสามารถผ่านได้ และวันใดที่ผ่านพ้น ประตูสวรรค์ก็เปิดรอเราแล้ว
ผลของการลงแดง นั่นแหละทำให้ร่างกายของเรา ไม่ว่าอวัยวะ หรือภูมิต้านทาน จะกลับมาแกร่งเหมือนเดิม .... แล้วจะกลัวทำไม
เราจึงไม่แปลกใจว่า ผู้ป่วยยาเสพติด เดินพยุง หรือ หาม เข้าถ้ำกระบอกในอดีต แต่เวลากลับ วิ่งออกมา แถมร่างกายสมบูรณ์ ก็ด้วยเหตุอันนี้เอง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องดีใจจนตะโกน เหมือน "น้ำพุ" ในวันที่เขาทำสำเร็จ