หน้าที่ของการรักษาโรค เป็นความสามารถโดยธรรมชาติของร่างกาย ที่มีมาคู่กับมนุษย์อยู่แล้ว
หน้าที่ของสมุนไพร เบื้องต้น คือการฟื้นฟูอวัยวะ ๓๒ พร้อมกับการสร้างภูมิคุ้มกัน
แต่หน้าที่ที่สำคัญที่แม่ชีเมี้ยนได้พยากรณ์ และนำสูตรสมุนไพรมาให้ คือ การขจัดสารเคมีในร่างกายออกไป
ในปฐมบทของการสอนสมุนไพร แม่ชีเมี้ยนได้พยากรณ์ให้หลวงพ่อนิพนธ์ฟังว่า ในอนาคต จะมีหมอผู้ที่จะค้นพบ กระบวนการของลูกโซ่ ในการใช้ยาเคมี อันหมายถึงผลข้างเคียงจากการใช้ยาเคมีตัวที่หนึ่ง จะเกิดโรคที่สอง เมื่อใช้เคมีตัวที่สอง จะเกิดโรคที่สาม ต่อไปเรื่อยๆ
ด้วยความรู้นี้ หมอนั้นจะทำการผลิตยาเพื่อรองรับ และเริ่มที่จะชักชวนให้คนทั่วไป ทานยาตัวที่หนึ่ง เพื่อเข้าสู่วงจรอันนั้น
และไม่ช้า ผู้คนทั่วไป จะติดอยู่ในลูกโซ่นี้ จนถอนตัวไม่ได้
สมุนไพรที่นำมาให้ จึงมีไว้เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ ที่เชื่อ และทำตาม คำสอนของพระภูมี อันจะเป็นการล้างสารเคมีที่ตกค้างในร่างกายออกไป
ผลจากเคมี ที่ตกค้างในร่างกาย หมอจะบอกว่าอวัยวะส่วนนั้นๆ ได้ถูกทำลาย ไม่สามารถฟื้นฟู จนในที่สุดก็ต้องตัด หรือเปลี่ยน
แต่แท้จริงแล้ว อวัยวะของมนุษย์ไม่ได้ถูกทำลาย หากแต่ถูกทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ อุปมาดั่งหมดสติไปนั่นเอง
เมื่อใดก็ตาม ที่สารเคมีถูกสมุนไพรขจัดออกไป อวัยวะส่วนนั้นก็จะเริ่มฟื้นตัว กลับมาทำงานได้ดั่งเดิม
หากการฟื้นฟูสามารถทันต่อการถูกทำลาย คนผู้นั้นก็จะประสพผลจากการหายโรคได้ หากแต่การฟื้นฟูทำไม่ทัน ก็จะช่วยได้แค่เพียงไม่ให้ทรมาน บรรเทาลง หรือไม่มี แต่ก็ยังคงเสียชีวิต หลวงพ่อนิพนธ์ เรียกว่า ถึงตายก็ตายสบาย
ท่านวิทยากร ได้เคยบรรยายให้สมาชิกใหม่ฟังเสมอว่า "ผู้ใดกล้าหยุดยาเคมี ก็จะมีผลเร็ว ผู้ที่ทานสมุนไพรไป ทานเคมีไปด้วย ผลของสมุนไพร ก็ยากที่จะคำนวน" ดังนั้น จึงมักแนะนำสมาชิกใหม่เสมอๆ ว่า "ถ้าเป็นไปได้ ให้หยุดยาเคมีเสีย"
กระนั้นก็ตาม คำบรรยายที่ตามมาเสมอก็คือ เมื่อหยุดยาเคมี ก็จะมีอาการลงแดง อันเนื่องจากร่างกายขาดสารเคมีนั่นเอง จึงมักได้ยินวิทยากรพูดเล่นๆว่า " ไม่ผ่านนรก ก็ไม่ได้ขึ้นสวรรค์ " หรือที่หลวงพ่อนิพนธ์มักใช้คำว่า "ทุกข์วันนี้ เพื่อสุขวันหน้า"
เราท่านจึงได้ยินหลวงพ่อนิพนธ์กล่าวบ่อยๆว่า "แค่หยุดยาเคมี โรคก็หายไปครึ่งหนึ่งแล้ว" ด้วยเหตุอันนี้เอง
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า แม่ชีเมี้ยนเรียกการเสียชีวิตนี้ว่าเป็นการตายก่อนพรหมลิขิต เพราะเป็นการตายเนื่องจากการทำร้ายตัวเอง ไม่ได้ตายด้วยโรค แต่ตายด้วยเคมี
ด้วยเหตุที่พระภูมี สอนว่า "โรคคือตัวแทนของกรรม มีหน้าที่มาเพื่อทรมาน ไม่ใช่ทำให้ตาย เมื่อถึงเวลาก็ต้องไป เพราะมนุษย์ต้องอยู่จนครบพรหมลิขิต"
แล้วหมอที่ไหนจะบอกญาติคนไข้ว่า "คนไข้เสียเพราะทนเคมีไม่ไหวเล่าเอย"
นั่นแหละที่มาว่า ทำไมเริ่มจากยาแก้ปวด แล้วจึงมีโรคสอง โรคสามตามมา เรื่อยๆ ยาดีทำไมไม่จบตั้งแต่แรกเริ่ม ยิ่งทานยิ่งมากโรค ....... สงสัยสักนิดไหม .....
นี่พยากรณ์เมื่อห้าสิบปีที่แล้วน่ะ .....
หน้าที่ประการสำคัญของสมุนไพรอีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ต่อเนื่องหลังขจัดสารเคมีออกไป ก็คือ ลดอาการลงแดงนั่นเอง
เราจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมคนติดยาเสพติด แห่แหนกันไปถ้ำกระบอก ก็ด้วยเหตุที่ เมื่อสารยาเสพติดถูกขจัดออกไปแล้ว อาการลงแดงที่พึงเกิด มีน้อย หรือแทบไม่มีเลยนั่นเอง
อาการลงแดงของการขาดสารยาเสพติด น่ากลัว และเป็นที่วิตกของผู้ที่อยากจะเลิกมากที่สุด เมื่อปากต่อปากของผู้ที่ไปถ้ำกระบอก ส่งเสียงมาว่า "ผ่านสบาย ไม่ทรมาน" จึงเป็นเหตุที่ทำให้คนแห่กันไปมืดฟ้ามัวดิน เฉกเช่นเดียวกัน อาการลงแดงของผู้ที่มารักษาโรค ก็สามารถผ่านกันได้ทุกคน