ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555
ฟังมาคิด
กลุ่มคนไข้มักจะใช้เวลาว่างระหว่างรอคอย มาพักใต้ร่มไม้ แล้วคุยถามทุกข์สุข ในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นกันอยู่ มีให้ได้ฟังเสมอๆ
เราได้ถูกเรียกให้ไปนั่งฟัง กลุ่มคนไข้ที่จัดว่าอายุรุ่นใหญ่แล้ว แต่ละคน ต่ำสุดก็เลยหลักหกแล้ว ฟังเขาคุยกัน คิดว่าน่าจะมีประโยชน์จึงเก็บมาเล่าให้ฟัง
เราขอเลือกเฉพาะ ส่วนที่คุณลุงสองท่านคุยกัน คิดว่ามีสาระพอควร ท่านแรกบอกว่า มาที่นี่ได้สองปีกว่าแล้ว ไม่เคยขาดเลย ส่วนท่านที่สอง มาที่นี่กว่าสามปีแล้ว ก็มีขาดบ้าง ยามติดธุระ
สิ่งที่สองท่านนี้เหมือนกันก็คือ ถูกหมอทิ้งมาแล้วด้วยกันทั้งคู่ คุณลุงท่านแรก จึงมุ่งมั่นมาด้วยความรักชีวิต จึงไม่เคยขาด จนปัจจุบัน ลุงกล่าวว่า โรคที่เป็นมาในอดีตทั้งหมด ได้หายไปแล้ว แต่ลุงก็ยังกลัวอยู่ จึงยังคงมาอยู่ แต่ก็เว้นเป็นสองอาทิตย์มาครั้ง
คุณลุงพูดไป พร้อมกับคว้ายาเส้น ใบจาก มามวนสูบอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับเสียงแซวจากป้าด้านข้างว่า เมื่อก่อนนี้สูบทีจะตายเอา เดี๋ยวนี้พอหายหละสูบใหญ่เลยน่ะ พร้อมกับเสียงหัวเราะทั้งวงสนทนา
ตามมาด้วยเสียงบ่นของคุณลุงท่านหลัง ที่ว่า อ้ายผมสิ มาสามปีกว่าแล้ว ยังไม่หายเลย ไปถามวิทยากร ท่าน อ.อร่าม ท่านก็แนะนำมาว่า ก็พฤติกรรมของผม มามั่ง ไม่มามั่ง ท่าน อ.อร่าม จึงบอกว่า ผมกำลังเลี้ยงไข้ อาจทำให้โรคมันดื้อสมุนไพรแล้ว ถ้ายังทำแบบนี้ กินอย่างไรก็ไม่หาย
คุณลุงจึงกล่าวว่า เห็นทีจะต้องมาให้สม่ำเสมอหน่อย เพราะทนไม่ไหวแล้ว อยากหายเหมือนกัน เพื่อนๆ มาด้วยกัน โรคเดียวกัน เขาหายกันไปหมดแล้ว เหลือแต่ผมคนเดียว
บทสนทนาสั้นๆ นี้ เป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ที่ได้ถูกเขียน และนำมาเล่าขาน อาจจะมีประโยชน์บ้างกับบางคน
จึงขอวิสาสะ นำคำสนทนาของคุณลุงทั้งสองท่าน มา ณ ที่นี้ด้วย