วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

ทานสมุนไพรแล้วมีอาการ

ได้ยินบ่อยๆ ในคำพูดที่ว่า "เมื่อก่อนไม่เห็นเป็น พอมาทานสมุนไพรที่นี่ อาการก็เกิด เพราะสมุนไพรแน่ๆ ทำให้เป็น"

แค่คิดก็อัปมงคลเกิด ทำให้เสียคุณสมบัติ เพราะกำลังทำตนเป็นผู้อกตัญญูไปเสียแล้วนั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักจะอรรถาธิบายให้ฟังว่า สมุนไพรหม้อเดียวกัน สูตรเดียวกัน หากแม้นสมุนไพรเมื่อทานแล้วทำให้เกิดอาการ นั่นหมายความว่า ทุกคนที่ทานย่อมต้องเป็น ต้องมีอาการเฉกเช่นเดียวกัน

แต่คนพัน คนหมื่นทาน ไม่ปรากฎอาการ กลับมีเฉพาะตนของเราที่มีอาการ จะเรียกได้อย่างไรว่า สมุนไพรทำให้เป็น

อุปมา เหมือนทานของเน่า ของเสีย ของบูด ใครทาน ก็ต้องมีอาการ นั่นแลจึงเรียกว่า ทำให้เป็น เพราะมันถ้วนทุกตัวคน ใครทานก็ต้องเป็น ต้องมีอาการ

ก็แล้วอาการที่เกิด หมายความว่าอย่างไร หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายว่า นั่นเป็นอาการของโรค ที่เราท่านเป็น ต่างหาก ที่แสดงอาการออกมา

โรคเป็นตัวแทนแห่งกรรม เมื่อเชื่อในสิ่งนี้ อาการที่เกิด ก็ต้องใช้ขันติ อดทน หากแต่ในวิกฤต ก็เป็นโอกาสอันดี ที่ร่างกายได้รับรู้ว่า มีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อทานสมุนไพร สมุนไพรก็จะเป็นวัตถุดิบให้ร่างกายได้นำไปแก้ไขปัญหา นั่นคือ สร้างภูมิให้แข็งแกร่ง เพื่อแก้ปัญหานั้นๆ

มีคนเคยถามว่า ตัวเขาเองมีอาการปวด มีสมุนไพรตัวใดแก้ปวดให้ลดน้อยถอยลงได้ไหม คำตอบคือ ไม่มี ความปวดที่เกิด ระดับเท่าใด ก็เท่านั้น หากแต่การทานสมุนไพร ทำให้ร่างกายมีภูมิที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้ทนต่อการปวดได้มากขึ้น

เปรียบเสมือน คนธรรมดาที่วิ่งเร็วๆ แค่ร้อยเมตร ก็เหนือยเจียนตาย หากแต่นักกีฬา ที่ฝึกฝน เริ่มฝึกความเหนื่อยก็น้อยลง แต่ก็วิ่งร้อยเมตรเหมือนเดิม ยิ่งฝึกมาก ร่างกายก็มีภูมิมาก วิ่งร้อยเมตรเหมือนเดิม อาการเหนื่อยอาจจะแป๊บเดียวก็หาย

การฝึกฝนนั่นคือ ภูมิ ที่ร่างกายสร้างโดยอาศัยสมุนไพรเป็นวัตถุดิบ ความปวดเหมือนระยะทางวิ่ง ไม่ว่าอาการเกิดเมื่อใด มันก็ยังคงเป็นร้อยเมตรเท่าเดิม แต่คนที่มีภูมิ ร่างกายทนได้ มันจึงเหมือนเหนื่อยน้อยลง นั่นคือ ภูมิดี ความปวดที่เกิดเท่าเดิม แต่ร่างกายทนได้ เสมือนปวดน้อยลง หรือปวดแป๊บเดียวก็หายไป

และผลดีอันมหาศาล ที่หลวงพ่อนิพนธ์ยกตัวอย่างให้ฟังเสมอ ในอดีตที่เริ่มหาสมุนไพรมาทำให้คนไข้ทาน แล้วประสพเหตุเป็นไข้มาเลเรีย

ท่านก็รำพึงกับแม่ชีเมี้ยนว่า ทำดีอย่างนี้ทำไมจึงมาเป็นเช่นนี้ แม่ชีเมี้ยนก็ลูบหัวแล้วตรัสว่า ก็กรรมที่ลูกทำเมื่อยังเด็ก ด้วยฝีมือการยิงหนังสติ๊ก จึงเที่ยวไปยิงหัวนก เอามาย่างกิน สุขในวันนั้น มันย้อนกลับมาเป็นทุกข์ในวันนี้ ให้ทนเอา ห้าวันก็จบ

ด้วยคำสอนนี้ ทำให้หลวงพ่อนิพนธ์นอนซมพิษไข้ห้าวันเต็ม โดยไม่ได้ฉันอาหารเลย พอครบห้าวันอาการก็หายไป แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า ผลของอาการในวันนี้ ต่อไปจะทำให้ไม่เป็นโรคปวดหัวอีก และที่สำคัญจะทำให้เซลล์สมองมีประสิทธิภาพ ความจำดี ไม่เสื่อม ไปจนตลอดชีวิต

คนที่จะเดินแนวทางสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน จึงต้องอาศัยความเชื่อ ศรัทธา และยอมรับในกรรมที่ทำมา จึงจะมีขันติ อดทน กับอาการที่จะพึงเกิด แล้วยืนหยัดทานสมุนไพร ปฎิบัติตนตามธรรมคำสอน รอจนกรรมนั้นหมดไป สิ่งที่ได้ กลับคืนมา ร่างกายก็จะมีภูมิอันมหาศาล

เราจึงไม่แปลกใจเลยว่า เมื่อครั้งที่หมอจากองค์การอนามัยโลก มาหาหลวงพ่อนิพนธ์ ได้พบได้เห็นคนไข้เอดส์กลุ่มใหญ่ที่หลวงพ่อนิพนธ์ได้รับรักษาอยู่ในเวลานั้น ก็ตื่นเต้น ร้องขอให้อนุญาตพาคนไข้ที่ฟื้นฟูเสร็จแล้วนั้น ไปตรวจร่างกาย

ผลของการตรวจร่างกาย ก็เป็นไปตามที่หมอคาด นั่นคือ ปริมาณเม็ดเลือดที่คนไข้เอดส์ทุกคนมี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานทุกคน ในขณะที่การทดสอบการติดเชื้อ พบว่าการย้อมสีติด แต่เชื้อที่ย้อมติด กลายเป็นเชื้อที่ไม่มีอันตราย

หมอองค์การอนามัยโรค จึงบอกเล่นๆ กับหลวงพ่อนิพนธ์ว่า นั่นคือ คนไข้เอดส์เหล่านี้ของหลวงพ่อนิพนธ์ กลายเป็นขุมทองแล้ว เพราะเชื้อเหล่านั้นคือวัคซีนนั่นเอง หากหลวงพ่อนิพนธ์อยากรวย แค่ดูดเลือดคนเหล่านี้ไปทำวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ ก็ไม่รู้ว่ามูลค่ามากมายมหาศาลเท่าใด

เรื่องนี้ ทำให้เราเห็นภาพว่า ทำไมคนที่ทานสมุนไพรแล้ว ที่เข้าตำราหนีเสือ ปะจรเข้ นั่นคือ ไม่มีคนใดตายด้วยโรคที่ตนเคยเป็นแล้วหายด้วยสมุนไพร หากแต่หายจากโรคนี้ แล้วไปตายด้วยโรคอื่น ก็ด้วยภูมิของร่างกายที่แข็งแกร่งต่อโรคนั้นๆ นั่นเอง

คำของหมอองค์การอนามัยโลก ที่ทิ้งท้ายว่า คนที่หายโรคเอดส์ของหลวงพ่อนิพนธ์ จึงไม่มีทางกลับไปเป็นโรคเอดส์อีกอย่างแน่นอน

บทสรุปของคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ จึงเห็นได้ชัดว่า คนที่ใช้แนวทางนี้แล้วปฏิเสธอาการ ไม่คิดจะทน หรือใช้ความขันติ อดทน ยอมรับอาการ คือ ยอมรับกรรม ที่ทำมา อะไรนิดก็ไม่ได้ อาการหน่อยก็จะไม่ให้มี เรียกว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่เหมาะสมกับแนวทางนี้ เพราะไม่มีวันประสพผล

อาการที่เป็น หลวงพ่อนิพนธ์จึงบอกว่า ให้มันทรมานกาย หรือทุกข์กาย ก็พอ อย่าให้ทรมานใจ หรือทุกข์ใจ ด้วยสติที่พระภูมีทรงให้ "ทุกข์วันนี้ สุขวันหน้า" เมื่อเข้าไปในนรกวันใด ด้วยสติอันนี้ ทำให้เรามองเห็นประตูสวรรค์ที่กำลังเปิด รอให้เดินเข้าไปวันนั้น

คล็ดของการมาสถานที่ของแม่ชีเมี้ยน หลวงพ่อนิพนธ์จึงบอกว่า มาเพื่อทำความดี ตามธรรมคำสอนของพระภูมี ตามคำสัญญา ลืมเรื่องโรคไป สิ่งที่หวังคือบุญเป็นที่พึ่ง ส่วนสมุนไพรและการหายโรค นั่นเป็นของแถม ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาให้สำหรับคนดี ... เน้น คนดีของพระภูมี ...

อาทิตย์หนึ่ง มีวันหนึ่งมาทำเพื่อชีวิต พระพุทธศาสนา จึงมีวันพระ หากมีกิจใดสำคัญกว่าการทำเพื่อชีวิต ... นั่นก็หมายความว่า ทางใครทางมัน หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า เราไม่ยุ่งด้วย จะไปที่ไหนก็ไป ที่นี่ปิดไม่ต้อนรับ

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44