วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557

กว่าจะมาเป็นถ้ำกระบอก

หลังจากคลอดลูกคนเล็ก ทุกคนในบ้านจะเห็นแม่เมี้ยน พูดถึงพระตลอดเวลา และรำพึงเสมอว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ถึงเวลาต้องไปแล้ว จนทำให้คนที่บ้านต้องล่ามโซ่เส้นใหญ่ท่านไว้กับ เสากลางบ้าน

หากแต่เมื่อถึงเวลา แม่เมี้ยนก็สามารถบิดโซ่ออกอย่างง่ายดาย แล้วกระโดดกระโจนออกทางหน้าต่าง ทำให้คนในบ้านงงงวยว่าทำได้อย่างไร เพราะเป็นบ้านทรงไทยใต้ถุนสูง เพื่อหนีน้ำนั่นเอง

มารู้สึกอีกที ก็ให้ลูกสองคน วิ่งตามไปที่แม่เมี้ยนวิ่ง ซึ่งต้องผ่าน พื้นที่ที่ชาวตรอกไผ่ คลองเตย เรียกว่า โคกยายม่อม ซึ่งลือกันว่าผีดุ เพื่อทะลุออกไปยัง สุขุมวิท บริเวณมหาวิทยาลัยศรีนครีินทรวิโรต ปัจจุบัน

เมื่อลูกสองคน วิ่งมาถึงบริเวณนี้ ก็เห็นหมาตัวโตขนาดเท่าม้า ยืนขวางอยู่ ทำให้ทั้งสองต้องกลับบ้านไปบอกพ่อ ว่าตามแม่เมี้ยนไปไม่ได้

แม่เมี้ยน จึงได้ไปบวชเป็นชี ที่วัดคลองเม่า และได้รับท่าน จรูญ และท่านเจริญ มาไว้ในอุปการะ

หากแต่ในวันนั้น ยังหาที่พักเป็นหลักแหล่งให้พระทั้งสองไม่ได้ แม่ชีเมี้ยน จึงไปขอเจ้าอาวาสวัดคลองเม่า เพื่อให้พระทั้งสองมาพำนักไว้ก่อน

คำตอบคือ จะอนุญาติก็ต่อเมื่อ แม่ชีเมี้ยน สามารถหาทุนมาสร้างโบสถ์และพระประทาน ให้วัดได้

เพราะการนี้เอง ทำให้แม่ชีเมี้ยน ต้องแสดงบางอย่างให้คนศรัทธา โดยมุ่งไปที่บริเวณ ซอยสวนพลู ที่มีตระกูลดัง ... ณ.อยุธยา จากการไปที่บ้านนี้ แล้วบอกกับคนที่บ้านนั้นว่า มีแมวเกิดใหม่ใช่ไหม และมีแมวสามสีตัวหนึ่ง ให้ดูแลให้ดี เพราะนั้นคือ คนในบ้านที่เพิ่งเสียไปมาเกิด

พร้อมกับทิ้งท้ายว่า พรุ่งนี้จะมาใหม่

วันรุ่งขึ้น คนในบ้านทั้งหมด มารอใส่บาตรให้แม่ชีเมี้ยน และสอบถามเรื่องที่อยากรู้ จนเล่าลือไปทั้งซอยสวนพลู คนใหญ่โตแถวนั้น มีปัญหาก็มาสอบถาม แม่ชีเมี้ยนก็ตอบไป ทำให้เกิดกลุ่มผู้ศรัทธากลุ่มแรก

เพียงเดือนเดียว แม่ชีเมี้ยน ก็สามารถระดมทองเหลือง ได้กว่าหนึ่งตัน และทุนทรัพย์ในการสร้างโบสถ์ ให้แก่วัดคลองเม่า

ท่านจรูญ และท่านเจริญ จึงได้พำนักที่วัดคลองเม่า จวบจน ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ จึงได้พาพระทั้งสองขึ้นไปพำนักยังถ้ำกระบอก พร้อมกับ พระและเณร กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเณรนิพนธ์ ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

จวบจนปี ๒๕๐๓ ที่ได้เริ่มเปิดการรักษายาเสพติด และข่าวเรื่องที่แม่ชีเมี้ยน มีความสามารถในด้าน ตาทิพย์ ได้เล่าลือไปถึง สมเด็จย่า

ปฐมบทแห่งการท้าพิสูจน์ จึงเริ่มขึ้น ด้วยการนำอิฐใส่พาน คลุมผ้าเอาไว้ ให้คุณย่าจงจินต์ รุจิระวงศ์ นำมา แล้วถามแม่ชีเมี้ยนว่า พระในห่อผ้านี้ มีค่าประมาณใด

คำตอบที่แม่ชีเมี้ยนทรงให้ คือ ให้นำหินนั้นกลับไป เพราะหาค่าอะไรได้ไม่ เมื่อคุณย่าจงจินต์ ไปกราบทูล จึงเป็นปฐมบทระหว่าง แม่ชีเมี้ยนกับสมเด็จย่า นับตั้งแต่น้้นมา

เรื่องที่หลายคนไม่รู้ ว่าเหตุใด เมื่อพระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง ได้สั่งให้ลูกศิษย์ ไปบอกแก่จอมพลสฤษด์ ให้จับแม่ชีเมี้ยน โดยบอกว่าอุตริมนุษย์ธรรม กระทำตนเป็นคอมมิวนิสต์ จนเป็นที่มาของคำสั่งยิงเป้า

แต่เมื่อเรื่องทราบถึงพระกรรณ จึงให้คุณย่าจงจินต์ บอกให้ลูกชาย คือ พลตำรวจเอกประเสริฐ รุจิระวงศ์ ไปเรียนแก่ท่านจอมพลว่า ขอให้มีการสอบสวนก่อน

นั่นคือ การนำข้อความไปยับยั้งคำสั่งยิงเป้า ที่เดินทางมาจากชลบุรี ยังกรุงเทพฯ ในขณะนั้นนั่นเอง

หลังจากนั้น จอมพลสฤษด์ จึงได้ตั้ง พลเอกประเสริฐ รุจิระวงศ์ และ เสธทวี จุลละทรัพย์ ทำการสอบสวน

ในการจับตัว แม่ชีเมี้ยน และคณะของถ้ำกระบอก ครั้งนี้เอง ความอนุเคราะห์ประการหนึ่ง ที่สมเด็จย่าทรงมีต่อแม่ชีเมี้ยน นั่นคือ การให้คุณย่าจงจินต์ นำจักรเย็บผ้า มาเย็บจีวร ที่เป็นแถบริ้วๆ ดั่งรูปที่เราท่านได้เห็นในปัจจุบัน ที่ วังน้อย ตัดหน้าคณะที่มาทำการจับตัว แบบเฉียดฉิว

หลังจากการสอบสวน ที่ปรากฎว่า พระในคณะของถ้ำกระบอก ก็มีลูกหลานตระกูลดังมากมาย มีเชื้อพระวงศ์ และ มีพระระดับด๊อกเตอร์ รวมอยู่ และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ที่เสพยามาเลิก แล้วศรัทธาเข้ามาบวช

ในช่วงนี้เอง พระผู้ใหญ่ผู้ซึ่งได้ไปชี้หน้าแม่ชีเมี้ยน ที่กองปราบสามยอด และกล่าวคำว่า "ถ้ากูอยู่มึงตาย ถ้ามึงอยู่กูตาย" ก็ได้ประสพเหตุ ถูกรถสิบล้อ แหวกขบวนมาชน จนมรณภาพไป

หลังการสอบสวน จอมพลสฤษด์ ก็อุทานว่า "เกือบฆ่าคนดีแล้ว" และเพื่อเป็นการไถ่โทษ จึงได้ให้เสธทวี มาเป็นมัคคทายก วัดถ้ำกระบอก ดูแลอำนวยความสะดวก นับแต่นั้นมา

ข้อหาต่างๆ จึงได้ถูกยกเลิก จะเหลือแต่กรมศาสนา ที่ขอตั้งข้อหา แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ซึ่งทำให้พระนิพนธ์ และแม่ชีเมี้ยน ต้องเดินจากถ้ำกระบอก ไปขึ้นศาลสระบุรี และจากการเย็บจีวรของคุณย่าจงจินต์นั้นเอง ศาลก็ยกฟ้อง เพราะไม่ใช่จีวรดั่งพระทั่วไป

ผลจากข้อหาเหล่านี้ วัดถ้ำกระบอก จึงกลายเป็นวัดเดียวของประเทศไทย ที่ไม่ขึ้นกับกรมศาสนา บวชพระเองได้ โดยไม่ต้องสวดยัด และเปิดให้เป็นศูนย์บำบัดยาเสพติด ได้

มาวันนี้ ถ้ำกระบอกสิ้นสูญสิทธิ์ต่างๆไปแล้ว แต่ที่น่าเสียดายอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือ ก่อนที่ท่านจรูญจะมรณภาพ รู้ดีว่า คนที่จะทำสมุนไพรได้ผล โดยเฉพาะในด้านยาเสพติด มีเพียงแต่หลวงพ่อนิพนธ์ คนเดียวเท่านั้น จึงได้ให้คนมาเชื้อเชิญ และร้องขอต่อกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สิทธิ์ในการเปิดศูนย์บำบัดยาเสพติด ตกแก่หลวงพ่อนิพนธ์ ผลคือ ได้รับการปฏิเสธจากกระทรวงสาธารณสุข

ความหวังที่อยากจะสานเจตนารมณ์ของแม่ชีเมี้ยน ในการใช้สมุนไพรสูตรพระภูมี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ในการสร้างศูนย์ยาเสพติดขึ้นมาอีกครั้งในแผ่นดินไทย จึงเป็นหมัน ไปอย่างน่าเสียดาย

และที่น่าอัศจรรย์ใจแก่เราอย่างยิ่ง นั่นคือ ไม่มีคนไทยคนใดสนใจ และเรียกร้องสิทธิ์อันนี้ให้ลูกหลานของเรา ได้เป็นหนทางเพื่อกลับตัวกลับใจดั่งเช่นอดีตถ้ำกระบอกอีกครั้ง

เราก็ยังต้องใช้คำเดิมอีกนั่นแหละ ว่า คนไทยทุกคนต้องตอบคำถามลูกหลานว่า ทำไมศูนย์ยาเสพติด จึงไปอุบัติในพม่า ....

และจากการโปรดครั้งแรกที่ซอยสวนพลูนี้เอง คนยุคก่อนจึงได้เห็นแม่ชีรับใช้ คือ แม่ชีนวลปรุง ...ที่มาจากตระกูล ... ณ.อยุธยา ที่ศรัทธา และบวชรับใช้แม่ชีเมี้ยน จนลาสังขาร

สมุนไพรแม่ชีเมี้ยน จึงมีประวัติความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ยาผีบอก และในไม่ช้า คนที่มากินเล่น ก็เตรียมตัวที่จะถูกโละออกจากแผ่นดินนี้ อย่างแน่นอน ... เพราะเรื่องของชีวิต ต้องทุ่มเท ศรัทธา จริงจัง ไม่ใช่ของเล่น ใครทำ ใครได้ ... หลวงพ่อนิพนธ์จึงเริ่มพูดบ่อยๆ ว่า ไม่ทำ ก็ถอยไป ให้คนที่อยากได้เขาเข้ามา

ทำไมคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ จึงไม่รักษาสิ่งดีงามนี้ไว้ในแผ่นดินไทยให้ลูกหลาน ... อีกไม่กี่เดือน โรงพยาบาลแพทย์แผนไทย ในพม่าก็จะแล้วเสร็จ พร้อมกับการจัดตั้งศูนย์บำบัดยาเสพติด และศูนย์ฟื้นฟูโรคเอดส์ .. เตรียมคำตอบไว้ดีๆ น่ะ ทำไม...

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44