สิ่งที่วิทยาศาสตร์ ไม่เคยคำนึง ในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ หากแต่มันคือรากเหง้าที่แท้จริงของปัญหาการเกิดโรค นั่นคือ "กรรม"
ศาสน์ของพระภูมีในฟื้นฟูตน เริ่มจากพื้นฐานอันนี้ ชี้ให้เห็นว่า โรคมันแค่บริวารกรรม ที่มาทำให้ทุกข์
เมื่อโรคมันเป็นแค่บริวาร ความน่ากลัวของโรคจึงไม่มากเท่าไหร่ หากแต่ตัวแม่หรือต้นเหตุแห่งโรค ที่เรียกว่า กรรม นี่ซิคือตัวปัญหาใหญ่ ที่จะต้องเอาชนะ
เมื่อพิจารณาแล้ว ศาสน์ของพระภูมี จึงมีพุทธประวัติสาวไป และปรากฎให้เห็นเค้าลางแห่งชัยชนะที่มีเหนือกรรม
ศาสน์อันนี้ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์มีกรรมเป็นอำนาจ ที่สำคัญและเป็นหัวใจแห่งกรรม นั่นคือ ความมาตรฐาน
กรรมมีวันเวลา มีอายุขัย เมื่อถึงเวลา ไม่ต้องเชิญมันก็มา และเช่นเดียวกัน เมื่อหมดเวลา มันก็ไป
ศาสน์ยังชี้ให้เห็นว่า ต้นกำเนิดของอำนาจกรรม ที่ดลบันดาล หรือเรียก พรหมลิขิต ก็มาจากนิสัย ของเราท่านนั้นเอง
บทสรุปที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นนั่นคือ ความที่เราท่านห่างจากธรรมคำสอนของพระภูมีมานาน อันเนื่องจากถูกบิดเบือน ทำให้การกระทำที่ทำ ผิดเพี้ยนไป ผลแห่งการทำที่คิดว่าถูก จึงเป็นลม ไม่สามารถมาช่วยตนได้นั่นเอง
ก็ด้วยเหตุนี้ กฎแห่งจักรวาล จึงต้องมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ มาอุบัติ เพื่อสานต่อกึ่งพุทธกาล ทำการสังคายนาศาสนาใหม่ เพื่อให้การกระทำของเราท่านกลับมาอยู่ในรูปรอย จึงจะสามารถสู้กับกรรมได้
ความที่ว่า กรรมมีมาตรฐาน ไม่มีเวลาว่างเว้น ไม่มีวันหยุด ดังนั้น ศาสน์ของพระภูมี ที่จะใช้สู้กับกรรม จึงต้องอาศัยมาตรฐาน เฉกเช่นเดียวกัน จึงจะหวังผลในการต่อสู้ได้
ธรรมหมวดสมุนไพร เมื่อถูกนำมาใช้จึงไม่สนรายละเอียดของโรคที่เป็น หรือ ไม่ให้ความสำคัญมากนัก สิ่งที่สำคัญกว่าโรค กลับกลายเป็นมาตรฐานของการทานสมุนไพร และการปฏิบัติ ต่างหาก ที่ต้องเน้น ให้ความสำคัญสูงสุด
ด้วยเหตุนี้เอง การทานสมุนไพรในอดีต ในขณะที่กรรมยังไม่แรง การทานแบบไม่เน้นรายละเอียด มาบ้างไม่มาบ้าง อาจจะพอหวังผลได้ หากแต่วันนี้ เมื่อสัญญาณความแรงขั้นวิกฤตของกรรมที่กำลังจะอุบัติ ปรากฏขึ้นแล้ว การกระทำเช่นปีก่อนๆ เรียกได้ว่า หวังผลไม่ได้เลย
ปีนี้ หลวงพ่อนิพนธ์จึงเน้นเป็นพิเศษ ในรายละเอียด เพื่อให้ผลในการทานสมุนไพรบังเกิด และเตรียมตัวรับกับมหันตภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามา อย่างน้อย เมื่อถึงวันนั้น กลุ่มคนที่เชื่อท่าน ก็จะสามารถยืนหยัด และพ้นจากภัยอันนี้ได้
กฎกติกาของปีนี้ จึงเริ่มต้นจาก การเพิ่มปริมาณสมุนไพร ให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมยิ่งขึ้นในแต่ละโรค และแต่ละราย
ตามมาด้วยวินัย ที่จะต้องเริ่มปฏิบัติ นั่นคือ การถวายสัจจะ ข้อหนึ่งข้อใด ให้ปฏิบัติ ครั้งละหนึ่งหรือสองชั่วโมง หลังการสวดมนต์
สุดท้าย คือการสร้างความเป็นมาตรฐาน นั่นคือ การกำหนดวินัย ที่เป็นสัญญากันระหว่างผู้ที่มาใช้ทางเลือกนี้ กับหลักธรรมของพระภูมี ว่า การมาจะต้องมีการต่อเนื่องตลอดทั้งปี ห้ามขาด หากทำไม่ได้ ก็ถือว่าสัญญาสิ้นสุด อันหมายถึง ความเป็นสมาชิกสิ้นสุดลง ทางเลือกนี้ถูกปิดสำหรับบุคคลนั้นๆ และจะไม่มีการรับกลับเข้ามาใหม่
กรรม เขาเป็นหนึ่งในโลกใบนี้ ธรรมที่มีอำนาจชนะกรรมได้ ก็ไม่เป็นสองรองใคร ไม่ได้บังคับให้มา ให้เลือก หากแต่เมื่อยินยอมพร้อมใจ และหวังผล จึงเป็นสัญญาซึ่งกันและกัน หากไม่สิ้นพรหมลิขิต ผู้ใดทำได้ หลวงพ่อนิพนธ์ยืนยันว่า เห็นผลแน่นอน
ตอนนี้ กำลังอยู่ในช่วงเตรียมระบบ เพื่อตรวจสอบประวัติ และการเตรียมสมุนไพรให้พร้อม .... เมื่อพร้อมแล้ว ทางชมรมจะประกาศการเริ่มกฎกติกาใหม่นี้ให้ทราบ
นั่นคือ ถึงวันแล้วที่ศาสน์เขาต้องการคุณภาพจากผู้ที่มา ไม่ใช่ปริมาณ ... อย่างที่เคยบอกแล้ว ว่า ศาสน์ของพระภูมี เมื่อถึงวัน จะแสดงความหยิ่ง ด้วยการเลือกเฟ้นเฉพาะบุคคลที่ทำได้ ไม่ว่าอาการจะสาหัสปานใด ไม่ใช่มูลเหตุ แต่การปฏิบัติ ศรัทธา นั่นคือปัจจัยที่กำหนดผลแพ้ชนะ
สิ่งที่จะได้ นั่นคือ ความมั่นคงของชีวิต ที่จะไม่เป็นมะเร็ง อัมพฤกต์ ตาบอด หูหนวก ทั้งโลกนี้ และโลกหน้า ส่วนการหายโรคนั้น ... เขาเรียกน้ำจิ้ม เป็นของแถมให้สำหรับ คนที่เปลี่ยนมาเป็นคนดี ตามคำสอนของพระภูมี เรียกว่า ชวนคนที่ฟังแล้วเข้าใจ อยากได้ มาสัมผัสลาภของพระพุทธเจ้า คือ "ความไม่มีโรค"
คนที่มา เมื่อมาแล้วทำ ก็จะมีวันจบที่ไม่นานจนเกินรอ และออกไป เพื่อให้คนใหม่มาแทน ไม่ใช่กี่ปี คนใหม่มา คนเก่าก็ยังอยู่ ทานแบบไร้จุดหมาย ในที่สุดก็ท้อ เลิกราไป ... ทำให้เสียเปล่า