วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557

วันดับถ้ำกระบอก

หลังจากการลงประชุมสงฆ์ อันเป็นชนวนจุดระเบิด ในการแตกของถ้ำกระบอก เมื่อท่านจรูญประกาศในที่ประชุมสงฆ์ว่า จะเรียกเก็บเงินจากผู้บำบัดยาเสพติด ในปี ๒๕๑๐

ในการประชุมสงฆ์นั้นเอง ได้รับการคัดค้านอย่างสุดตัว จากหลวงพ่อนิพนธ์ และพระส่วนใหญ่ที่อยู่ข้างฝ่ายหลวงพ่อนิพนธ์ พร้อมกับคำถามว่า ทำไม และมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องขายสมุนไพร ทำลายคำสาบานที่ให้ไว้เมื่อครั้งเริ่มเรียนสมุนไพรจากแม่ชีเมี้ยน

ผลการประชุมสงฆ์ครั้งนั้น สรุปด้วยการยืนยันจากท่านจรูญและท่านเจริญ ในการเก็บเงินผู้บำบัด ส่วนหลวงพ่อนิพนธ์ที่ไม่ยินยอม ก็ได้รับการเรียกเข้าไปคุยกับแม่ชีเมี้ยน

แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า ให้ลูกออกไปก่อน แล้วแม่จะตามไป ในขณะที่หลวงพ่อนิพนธ์ก็เพียรพยายามให้แม่ชีเมี้ยนออกจากถ้ำกระบอกไปกับตน เพื่อตั้งสำนักใหม่ ทำตามปณิธานเดิม ดำรินี้ก็มีลูกศิษย์ที่มีฐานะให้การสนับสนุนอย่างมากมาย อาทิเช่น ต้นตระกูล "มหาคุณ" ที่ได้หอบเงินถึงห้าแสนบาทมาถวาย เพื่อให้หลวงพ่อนิพนธ์ใช้เป็นทุนสร้างสำนักใหม่

ในที่สุด หลวงพ่อนิพนธ์ ก็ต้องยอมตามคำของแม่ชีเมี้ยน หากแต่ในการออกไปนั้น ท่านจรูญก็ยังไม่วางใจ ด้วยเกรงว่า หลวงพ่อนิพนธ์จะไปตั้งสำนักแข่ง และก็ทราบแก่ใจดีว่า ผู้ที่จะล้มถ้ำกระบอกได้ ก็มีแต่หลวงพ่อนิพนธ์เท่านั้น

ดังนั้น ก่อนออกจึงบังคับให้หลวงพ่อนิพนธ์ สาบานว่า จะไม่กลับมาบวชและตั้งสำนักแข่งกับถ้ำกระบอก ตราบใดที่ท่านจรูญยังอยู่ ด้วยความที่เห็นแก่แม่ชีเมี้ยน ที่ยังต้องอยู่ในถ้ำกระบอกต่อไป จึงรับคำ และลาสิกขาออกไป โดยไม่ได้นำอะไรติดมือไปเลยแม้แต่อย่างเดียว

เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์ ลาสึกไปแล้ว ท่านจรูญ ก็คิดว่า หลวงพ่อนิพนธ์ เป็นผู้หนึ่งในการสร้างถ้ำกระบอกมาด้วยกัน ภายหลังจึงให้คนนำเงิน ๑ ล้านบาท ไปมอบให้ หากแต่หลวงพ่อนิพนธ์ ก็ปฏิเสธที่จะรับเงินนั้นไว้

จนกระทั่งปี ๒๕๑๒ แม่ชีเมี้ยน ได้ให้คนมาตามหลวงพ่อนิพนธ์ เข้าไปพบ และสั่งว่า ท่านต้องละสังขารลง เพื่อให้สัญญาระหว่างท่านกับท่านจรูญหมดลง พร้อมกับสั่งให้นำหีบตำราสมุนไพร และเทปเสียงที่ท่านอัดไว้ ออกไปด้วย

หลวงพ่อนิพนธ์ กล่าวว่า จะนำออกไปได้อย่างไร ในเมื่อท่านจรูญให้คนเฝ้า ล้อมหน้า ล้อมหลัง มากมายขนาดนั้น แต่แม่ชีเมี้ยน ก็สั่งให้มาก็แล้วกัน ในตอนเที่ยงคืน

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงให้ลูกศิษย์เก่า ที่มีรถมารอ และเข้ามาตอนเที่ยงคืน เมื่อมาถึงลูกศิษย์ก็พบว่า พระและคนที่เฝ้ารอบกุฏิแม่ชีเมี้ยน หลับสนิทเหมือนต้องมนต์ จึงเข้าไปหาแม่ชีเมี้ยน หลวงพ่อนิพนธ์จึงนำหีบเหล็ก ออกมาไปไว้ที่บ้านของพ่อ และวกกลับมาหาแม่ชีเมี้ยนอีกครั้ง

จนใกล้เช้า แม่ชีเมี้ยนก็ให้หลวงพ่อนิพนธ์ กลับออกไป ท่านจรูญ ก็ถามพระและคนทั้งหมดที่ให้เฝ้าว่า หลวงพ่อนิพนธ์กลับออกไป นำอะไรไปด้วยหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่

จนสาย ท่านจรูญก็เข้าไปตรวจเอง และพบว่า หีบตำราหายไป จึงให้คนไปแจ้งความ ตั้งข้อหาหลวงพ่อนิพนธ์ว่า ลักทรัพย์ของถ้ำกระบอก

และในเช้าวันนั้นเอง แม่ชีเมี้ยน ก็ได้ละสังขาร พร้อมกับคำกล่าวสุดท้าย อันเป็นการเฉลยคำตอบ ในคำถามของหลวงพ่อนิพนธ์ นั่นคือ การละสังขารของท่าน คือการถอนความศักดิ์สิทธิ์ของตำราสมุนไพร จากท่านจรูญ ทั้งหมด กลับมาที่ตำรา และมอบให้หลวงพ่อนิพนธ์

วันละสังขาร จึงเป็นวันดับท่านจรูญ นั่นคือ สมุนไพรของถ้ำกระบอก จะหมดอานุภาพในการช่วยคน และก็จะเป็นวันเกิดของหลวงพ่อนิพนธ์ ในการเป็นตัวแทนที่จะใช้อำนาจของสมุนไพร

ดังนั้น เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์ นำตำราสมุนไพรของแม่ชีเมี้ยน ออกมาทำอีกครั้ง ภาระกิจที่สำคัญในทุกปี นั่นก็คือ การแสดงผลงาน อุปมาเหมือน วันตัดสินว่า สมควรที่จะได้รับสิทธิ์อันนี้ต่อไปหรือไม่ นั่นคือ การมารวมตัวกัน ของผู้ที่ได้ประโยชน์ จากตำราสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน ในวันคล้ายวันละสังขารนั้นเอง

ผลการตัดสิน ก็จะเป็นสัญญาต่อไปในปีหน้า ดังนั้น นับแต่ปี ๒๕๓๐ เป็นต้นมา จึงกลายมาเป็นประเพณี และรู้กันดีในหมู่ลูกศิษย์ ที่แม้นจะหายจากโรคแล้ว และปกติจะไม่ค่อยได้มา ก็จะรู้หน้าที่ และกลับมาเยือน เพื่อน้อมรำลึกคุณของแม่ชีเมี้ยน ในวันนี้กันอย่างพร้อมเพรียง

คำของแม่ชีเมี้ยนที่ตรัสไว้ในวันสุดท้ายที่มีแก่หลวงพ่อนิพนธ์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นไปตามนั้นจริงๆ อันเห็นได้จาก การล่มสลายของถ้ำกระบอก และแม้แต่สำนักต่างๆ อีก ๗ สำนัก ที่ได้แตกออกไปตั้งสำนักของตนเอง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพระที่เป็นลูกศิษย์เดิมของหลวงพ่อนิพนธ์ทั้งสิ้น

ไม่ว่า อาจารย์แพง อาจารย์โกวินทะ และอื่นๆ ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ประสพผลในการทำสมุนไพร แถมสุดท้ายทุกถ้วนตัวคน ก็ตายด้วยโรคทั้งสิ้น

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักกล่าวเสมอว่า สมุนไพรที่นี่ เป็นหนึ่งในโลก และไม่กลัวว่าใครจะสวมรอย มาเป็นจิตอาสา แอบเรียนรู้ แล้วไปทำ ... เพราะเป็นสมุนไพรที่มีวิญญาณ เมื่อลักไปทำ ก็เหมือนสมุนไพรมัมมี่ ทานไปก็ไม่มีผล

อีกไม่กี่วัน วันสำคัญของปีนี้ก็จะเวียนมาถึง หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของเขาจะอนุญาติให้ทำต่อในเมืองไทยหรือไม่ เพราะดูจากเหตุการณ์แล้ว ยังไงก็ต้องไปทำในแผ่นดินของเจ้าของ นั่นคือ พม่า แผ่นดินที่ไปเกิดใหม่

ข้ออ้างประการเดียวที่หลวงพ่อนิพนธ์ใช้กล่าวอ้าง นั่นคือ ถือคำสั่งสุดท้าย ที่ให้นำสมุนไพรแม่ไปทดแทนคุณแผ่นดิน เพื่อยื้อไว้ให้ยังสามารถทำกิจกรรมในแผ่นดินไทย โดยยอมเหนื่อยที่จะวิ่งไปวิ่งมา สองแผ่นดิน เป็นคนสองแผ่นดิน

หากแต่ก็ไม่รู้ว่า ผลจะเป็นเช่นไร ก็คงจะรู้ในวันงานของแม่ชีเมี้ยนนั่นเอง

แต่เพื่อความไม่ประมาท หากคำตอบคือไม่ได้ หลวงพ่อนิพนธ์ก็ได้ขออนุญาติเป็นกรณีพิเศษแก่คนไทย ต่อรัฐบาลพม่า ในการพักและรับรักษาฟรี ไว้แล้ว ซึ่งรัฐบาลพม่าก็ได้ให้อนุญาติตามคำขอแล้ว

วันงานของแม่ชีเมี้ยน จึงมีความสำคัญ ต่อหลวงพ่อนิพนธ์มาก เพราะนั่นคือ วันประกาศผลสอบ ในแต่ละปีของหลวงพ่อนิพนธ์ เพื่อที่จะดำรงสิทธิ์ในการทำสมุนไพร

หากสอบไม่ผ่าน นั่นหมายถึง การทำสมุนไพรสูตรพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยน ในประเทศไทย ก็จะสูญสิ้น เฉกเช่นถ้ำกระบอก ทานเหมือนอาบ ก็ไร้ผลในการช่วยตนไม่

คนที่เข้าใจ จึงเตรียมพร้อม แสดงตน เพื่อรักษาสิทธิอันนี้ของหลวงพ่อนิพนธ์ไว้ ให้เป็นทางเลือกของตนและคนไทย ไม่ว่าอยู่มุมไหนของโลก วันนี้ก็ต้องเดินทางมา

จึงไม่น่าแปลก ที่เราท่าน อาจจะเห็นคนที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา มาร่วมงาน เจอกันคุยกัน เพราะนั่นคือ ผู้ที่ประสพผลในการช่วยตน รุ่นพี่ ที่ออกไปก่อนหน้านี้ แล้วโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในงานนั่นเอง

ยิ่งปีนี้เป็นปีที่ภัยจะรุนแรง โดยเฉพาะโรคภัย ... มาช่วยกันแสดงตน รักษาสิ่งนี้ไว้ อย่าให้ดับเหมือนอดีตถ้ำกระบอกเลย









ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44