วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

เกาไม่ถูกที่ แก้ไม่ถูกจุด

หลวงพ่อนิพนธ์มักอุปมาการเสียหายของรถยนต์ ที่เกิดจากเหตุเล็กน้อย หากแต่เจ้าของรถ นำไปให้ช่างที่ไม่รู้จริงแก้ไข ผลที่ปรากฎนั่นคือ ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงที่ตามมา ฉันใดก็ฉันนั้น

เรื่องของชีวิต จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน พฤติกรรมความชุ่ยของเจ้าของชีวิต นั่นหมายถึง ความเลวร้ายที่จะพึงบังเกิด โดยเฉพาะ ความคิดที่จะพึ่งผู้อื่น โดยหมายว่าสิ่งที่เกิด เอาเงินทองที่มีโยนไปก็แก้ไขได้ ... กว่าจะรู้ว่าคิดผิด ความเลวร้ายก็เกิดมหาศาล

ตัวอย่างที่หยิบยกมาให้พิจารณา คือ อาการที่มักเกิดกันทั่วไป นั่นคือ ท้องผูก หรือ ไม่ถ่าย เป็นเวลาหลายวัน หลายคนก็แก้ไขด้วยการไปซื้อยาระบาย แรกๆ ก็อาจจะช่วยได้ นานๆเข้า แม้นจักทานสักเท่าไร ก็เหมือนเดิม ทานมาทานไป กลายเป็นแผลในลำไส้ ลงท้ายไปโน่นเลย มะเร็งลำไส้ ต้องตัด ต้องคีโม เสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน

หากแต่กระบวนการธรรมชาติของร่างกาย การจะถ่าย ย่อมต้องอาศัยน้ำที่หลั่งจากต่อมไร้ท่อ ออกมา แล้วร่างกายก็จะขับถ่ายอุจจาระออกไป

การเกิดการท้องผูก หรือไม่ถ่าย นั่นหมายความว่า กระบวนการนี้ผิดปกติ ซึ่่งอาจเกิดจากเหตุที่ผิดปกติ อาทิเช่น ความเครียด นั่นก็เป็นอาการชั่วคราว หากแต่การเกิดเป็นประจำ นั่นหมายความ ประสาทสั่งการของต่อมไร้ท่อ มีปัญหาแล้ว

การแก้อาการ ท้องผูก ในประเด็นแรก ก็ด้วยการทำจิตใจให้เบิกบาน ลดกิจกรรมที่สร้างความเครียด หากแต่ในประเด็นหลัง นั่นก็ต้องทำการแก้ที่ต้นเหตุ คือ ระบบประสาทสั่งการ

ปัญหาเล็กน้อย ที่ทำให้กลายเป็นมะเร็ง หากมาใชัแนวทางสมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์ก็จะแบ่งการแก้ปัญหาเป็นสองช่วง นั่นคือ ในช่วงแรก ก็อาศัยสมุนไพรที่เป็นยาระบาย ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ในขณะเดียวกัน ก็ทานสมุนไพร ที่มีฤทธิ์ในการฟื้นฟูประสาท อาทิ ยาลูกกลอนดำ เพื่อให้ร่างกายใช้เป็นวัตถุดิบ ในการฟื้นฟู เมื่อสามารถฟื้นฟูประสาทที่สังการได้ ระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อ ก็กลับมาทำงาน การขับถ่ายก็กลับเป็นปกติ

ศาสน์ของสมุนไพรพระภูมี จึงผูกโยงไว้หลายประการที่วิทยาศาสตร์ไม่มี นั่นคือ นอกจากสมุนไพร ยังผูกโยงกับความคิด จิตใจ และท้ายสุดคือพฤติกรรม

ด้วยความเชื่ออันเป็นรากฐานต้นเหตุที่แท้จริงของอาการ นั่นคือ กรรม ที่เป็นอำนาจ ทำให้เกิด

คำถาม ที่หลายคนอาจจะสงสัย เฉกเช่นเดียวกับอาจารย์หมอ ที่ถามหลวงพ่อนิพนธ์ ว่า คำกล่าวที่บอกว่า บุญล้างกรรม นั่นหมายความว่า ผู้ที่ปฏิบัติ ย่อมต้องได้รับอานิสงฆ์ นั่นคือ ความไม่มีโรคเป็นอันดับแรก หากแต่ความจริงที่ปรากฎ ก็เห็นสงฆ์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่อาพาธ ต้องมีโรงพยาบาลสงฆ์ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

หลวงพ่อนิพนธ์จึงอรรถาธิบายว่า ก็เพราะธรรมที่สงฆ์เหล่านั้นปฏิบัติ ไม่ใช่ธรรมของพระภูมี จึงไม่มีบุญมาเลี้ยงตน ด้วยเหตุที่ธรรม่ของพระภูมี มีไว้เพื่อสร้างปูชนียบุคคล แต่ธรรมของสงฆ์เหล่านั้น มีไว้สร้างปูชนียวัตถุ

นั่นคือ มันเลยคำสอนของพระภูมี ที่ตรัสว่า "บุญอยู่ที่มนุษย์และสัตว์"

อาจารย์หมอจึงถามต่อว่า ก็แล้วการปฏิบัติของสงฆ์ที่ทำ ให้ผลอย่างไร หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า การปฏิบัติ ที่ทำ ก็จัดว่าเป็นความดี แลด้วยความดีที่ทำนี้เอง ผลที่ได้จึงทำให้ได้อายุขัย นั่นจึงเป็นเหตุที่ว่า ทำไมพระสงฆ์เหล่านั้น จึงมีอายุขัยที่ยืนยาว หากแต่เรื่องของสุขภาพ ก็เป็นไปดั่งกรรมที่ทำมา เพราะธรรมที่ปฏิบัติ มันไม่ถูก ผลถูกจึงไม่เกิด

บทสรุปของการสนทนา นั่นจึงเป็นคำอรรถธิบายว่า ทำไมยาเคมี มันจึงทำได้แค่ระงับ เพราะมุ่งเน้นที่จะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ที่คนเป็นกังวล และให้ความพึงพอใจ ในความเร็ว ทันอกทันใจ แม้นจะไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ ก็ได้รับความนิยม ... รอจนวันที่ยาเคมีเหล่านี้เอาไม่อยู่ ก็แทบจะสายเกินแก้ ร่างกายเกิดความเสียหาย ยากแก้การกู้แล้ว ที่สำคัญและเด่นชัด ยิ่งแก้ โรคยิ่งเพิ่ม

บัญญัติของพระภูมี จึงมีชื่อที่แม่ชีเมี้ยนทรงเรียกให้กระชับสั้นได้ใจความว่า "หลักลด" ลดกรรม ลดนิสัย ลดโรค เมื่อทำแล้วมีแต่น้อยลง และหมดไปในที่สุด แต่บัญญัติของโลก เรียก "หลักเพิ่ม" เมื่อทำก็มีแต่เพิ่มนิสัย ความโลภ ความต้องการ และก็เพิ่มโรค ...

คำชวนเชื่อ ในปฐมบทแห่งการสอน เพื่อให้สามเณรนิพนธ์เลิกความคิดที่จะสึก เพื่อไปเรียกแพทย์ตามเพื่อนๆ จึงเริ่มจากการให้พิจารณา เห็นความจริงว่า โลกนี้มีกรรมเป็นอำนาจ หากอยากจะช่วยคนให้หายโรค การเป็นหมอทำไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะคำตรัสของพระภูมีเป็นเครื่องยืนยัน ความคิดของมนุษย์อยู่ใต้กรรม จะมีปัญญามาแก้โรค ที่มีอำนาจเหนือไม่ได้ มิฉะนั้นแล้ว ก็จักกลายว่า มนุษย์มีอำนาจเหนือกรรมนั่นเอง

หากอยากช่วยมนุษย์ให้พ้นโรค ก็ต้องใช้วิชาของพระพุทธเจ้า นั่นคือ สมุนไพร ที่เป็นธรรมหมวดหนึ่งของพระภูมี ที่ให้ไว้ แก่มนุษย์ ที่เป็นสาวก ที่เชื่อ ในท่าน แต่ยังไม่ปรารถนาถึงนิพพาน เมื่อปฏิบัติ แล้ว ก็จะได้มนุษย์สมบัติ คือ ความไม่มีโรค ...

และเมื่อเป็นธรรมหมวดหนึ่ง นั่นก็คือต้องยอมรับความจริง นั่นคือ มันจะมีคนนิยมเพียงกลุ่มหนึ่ง ที่พิจารณา เชื่อ แล้วทำตาม และคนทำได้ ก็คือ คนรอด คนที่ได้สัมผัส มนุษย์สมบัติของพระภูมี ...

หากแต่การทานสมุนไพร มิใช่มุ่งหวังที่การหายโรคในปัจจุบัน แต่เป็นการทานเพื่ออนาคต ที่จะไม่มีโรคใดๆ พึงเกิดอีกด้วย ส่วนโรคปัจจุบัน เรียกว่าเป็นของแถม

นั่นจึงเป็นที่มาของ "หมอผี" ที่แม่ชีเมี้ยนทรงสอน เพื่อให้มาเป็นทางเลือก สู้กับยาเคมี จนทุกวันนี้

นั่นคือ คนที่ทานสมุนไพร แม้นจะมาด้วยเบาหวาน ความดัน หัวใจ ... หากแต่ผลในอนาคต คนเหล่านี้ ก็จักไม่เป็นอัมพฤกต์ อัมพาต มะเร็ง .... การทานสมุนไพร จึงมีค่ามหาศาล

ส่วนคนที่เหลือ ที่เป็นจำนวนมากกว่ามาก เมื่อเทียบกับคนที่มาทานสมุนไพร ก็ต้องทำใจ ปล่อยให้เขาอยู่กับทางเลือกของเขา ... วันใดที่เกิดโรคระบาด วันนั้นแหละความจริงจะปรากฎ ว่า ทางเลือกใดปลอดภัย เพราะสิ่งที่จะคุ้มกันได้ มีแต่ภูมิของตนเท่านั้นเอง

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44