วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว

เราท่านมักจะได้ยินคำนี้เสมอ และเป็นคำพูดที่ปลุกตัวตน ให้เกิดกำลังพร้อมสู้ คือ "มันอยู่ที่ใจ หรือ ใจสู้ซะอย่าง"

หลักการในการทำลายชีวิตมนุษย์ กับหลักการในการช่วยชีวิตมนุษย์ ก็ดำเนินไปเฉกเช่นเดียวกัน

การดำเนินชีวิตทุกวัน หากไม่รับรู้สิ่งใด ในสภาวะที่ตนเป็น นั่นคือ ปล่อยไปตามพรหมลิขิต เป็นก็เป็นไป ชีวิตก็ยังคงดำรงอยู่เป็นปกติสุข หากแต่ความเชื่อที่เกิดจากจากความโลภของฝรั่ง ที่สร้างเครื่องมือ โน้มน้าวจนเกิดใจอ่อน อยากรับรู้ในสิ่งที่ตนเป็น ด้วยการสร้างภาพว่า หากเป็นอย่างนี้อย่างนั้น จะนำไปสู่การตายได้

ด้วยความกลัวที่เขาขู่ จึงนำพาตนเข้าวงจรอุบาทว์ นั่นคือเริ่มจากการตรวจร่างกาย ผลที่ได้คือ การตกไปในกับดัก ที่ขุดล่อให้เข้าวงจรของยาเคมี และก็ยากที่จะหลุดพ้นออกมาได้ จะมีก็แต่ตายไปกับยาเคมีนั่นเอง

อันหมายความว่า หากจะนำพาให้ชีวิตหายนะไปกับยาเคมี ก็ต้องเริ่มโน้มน้าวที่ใจเราท่านก่อน อาศัยความกลัวเป็นตัวชักนำ มุ่งเป้าไปที่ความตาย

ดังนั้น เมื่อใจไปเสียแล้ว คำขู่มันเต็มสมองเกาะกินจิตใจ ความเครียดเกิด ร่างกายที่สามารถทนต่อโรคได้ หากแต่ไม่สามารถทนต่อเคมี แทนที่จะตายด้วยโรค กลับตายด้วยจิตตก หดหู่ หรือ เข้าวงจรทานยาเคมี จนร่างกายรับไม่ไหว ตายไปก่อนโรคเสียอีก

การช่วยตน ก็มีหลักการเฉกเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ การให้ความรู้ การทำให้เห็นว่า โรคไม่ได้มาทำให้เราตาย เป็นกรรมของเรา มันมาให้เราใช้แล้วก็ผ่านไป พรหมลิขิตต่างหากที่เป็นตัวกำหนดอายุขัย ไม่ถึงที่ตาย โรคห่าอะไรพิฆาตไม่อาสัญ

การได้มาเห็นคนทำได้ นั่นก็ทำให้สภาวะจิตของเราท่านผ่อนคลาย เพราะรู้ความจริงว่า ไม่ตาย แม้นจะดูวิกฤต เลวร้ายสักฉันใด ก็ไม่ตาย

เมื่อประสพวิกฤต ก็จะมีสติ ตั้งท่าเตรียมสู้ ในขณะที่กระบวนการฟื้นฟูดำเนินไป ใจเราก็ชนะไปก่อนแล้ว เพราะรู้ว่าหากไม่ถึงอายุขัย ไม่ตายแน่นอน แล้วก็ตามมาด้วยวาจา

หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักสอนให้กล่าววาจาให้เป็นเจตนา ใครถามก็บอกว่า ดีขึ้น ๆๆๆๆๆ ไม่ใช่ใครถามก็บอก แย่แล้ว ๆๆๆๆๆ มันก็ดี และ แย่ ไปตามปากของคนพูดนั่นแล

แล้วก็รอวันเวลา ที่กายจะขึ้นจากหล่มทุกข์ ด้วยความขันติ อดทน

พงศาวดารของคนเก่าที่มักถูกนำมาเล่า ก็เฉกเช่นท่านนายพันทหาร ที่เกษียณราชการ ผู้ซึ่งเป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง หลวงพ่อนิพนธ์บอกกับนายพันท่านนี้เสมอว่า ไม่ตาย เพราะยังมีอายุขัย หากวันใดเกิดวิกฤต ก็ให้นอนนิ่งๆ ร่างกายจะค่อยๆ ต่อสู้และฟื้นกลับมา

ผ่านการทานสมุนไพรเป็นปี ก็มีอาการปรากฎเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่รุนแรงสักเท่าใด จนวันหนึ่งเกิดอาการลงแดง อย่างรุนแรง หน้าซีด เล็บเขียว

ภรรยาเรียกรถพยาบาลให้มารับด่วน ส่วนตัวนายพัน พอรู้ตัวว่าเกิดอาการ ก็เดินเข้าห้องพระ ไปนอนที่หน้าหิ้งพระ ตามแบบที่หลวงพ่อนิพนธ์เคยสอนไว้

ภรรยาบอกให้ไปโรงพยาบาล นายพันบอกไม่ไป ภรรยาบอกรถพยาบาลมาแล้ว นายพันบอกจ่ายเงินแล้วให้เขากลับไป ตัวเขาจะนอนหน้าหิ้งนี้ ตายก็ให้มันตายไป แล้วก็นอนท่องพระคาถา

ผ่านการหายใจรวยระริน เหมือนอยู่ในห้องแคบมีรูอากาศเพียงน้อยนิด ประมาณหนึ่งชั่วโมง ร่างกายเริ่มฟื้น กลับมาเป็นปกติ และจากวันนั้นจนวันนี้ ผ่านไปห้าปี นายพันไม่เคยมีอาการอีกเลย

โลกใบนี้ กรรม คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า พระภูมีทรงตรัสรู้ความจริงอันนี้ เมื่อประทานสูตรสมุนไพรมาให้ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ก็นำมาเป็นเหตุและผลให้สาวก ได้เรียนรู้ เพื่อมีสติ และเตรียมตัว เตรียมใจ พร้อมยอมรับกรรมที่ทำมา แล้วมันก็จะผ่านไป

พุทธพจน์ ความไม่มีโรค จึงไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และมีตัวอย่างเดินให้เห็น ให้สัมผัส ให้ถามให้ไถ่

เมื่อใจสู้ และมีอาวุธ คือสมุนไพรและอาหาร ให้ร่างกายได้มาใช้ต่อสู้ ... โรคอะไรก็ไม่เหลือ

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวเสมอว่า โรคอะไรที่ว่าร้ายแรง รักษาไม่ได้ .... ท่านลองรักษา และทำให้หายมาหมดแล้ว รอแต่คนที่มีใจสู้ มาจับมือร่วมกัน ... เรียนรู้แล้วทำ ... โรคอะไรก็ไม่กลัว หากพรหมลิขิตยังมีอยู่ หายแน่นอน

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44