วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ไปไหนๆ ก็ได้ยินว่า สิ่งโน้นศักดิ์สิทธิ์ สิ่งนั้นศํกดิ์สิทธิ์ เต็มบ้านเต็มเมือง เต็มโลกไปหมด

หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนที่ยังมีกรรมดีอยู่

ก็เพราะตอนเราท่านดีๆ ไปกราบไปไหว้ ก็ได้สมหวัง หากแต่ความสมหวังที่เกิด หาใช่จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นดลบันดาลไม่ เป็นด้วยเหตุแห่งกรรมดีที่ได้ทำมาแล้วในอดีตต่างหากที่ส่งผลให้

บทพิสูจน์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่แท้จริง ที่เป็นที่พึ่งของมนุษย์ ย่อมต้องเกิดเมื่อกรรมที่ทำมาสนองให้เป็นทุกข์ นั่นเอง อันเป็นที่มาว่า สถานที่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเต็มไปด้วยคนทุกข์

การพิสูจน์จึงง่ายดายยิ่ง นั่นคือ นำคนที่เป็นมะเร็ง เป็นเอดส์ เป็นโรคที่หมอไม่รับ ไปถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยนั่นไง เจ้าแม่ดี ก็เอามะเร็งไปถวายเจ้าแม่ หากเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์จริง ก็ต้องช่วยให้หายมะเร็งได้ อะไรศักดิ์สิทธิ์ ไปถวาย...

ผลก็คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง ที่ยามมีกรรมดี ไปกราบไหว้ แล้วได้ผลจากกรรมดีที่ทำ ก็เผ่นป่าราบ หนีกันหมด ปฏิเสธกันวุ่น หนักกว่านั้น ที่ตั้งตนเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ บางทีกลับเป็นโรคงอมเสียเอง ก็ทำไมมีฤทธิ์ มีบุญ จึงงอมพระรามอย่างนั้นเล่า ไม่เอามาช่วยตน

คำสอนตอนหนึ่ง ในการนำคณะไปเยี่ยมชมพระธาตุอินทร์แขวนของพม่า ที่เห็นคณะที่ติดตามไปไหว้พระธาตุกันใหญ่ นั่นคือ แม่ชีเมี้ยนทรงตรัสสอนว่า จำไว้นะลูก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ไปอยู่กับอิฐกับปูน กับสิ่งไม่มีชีวิตหรอก เพราะมันสอนมนุษย์ไม่ได้ ทำให้มนุษย์เป็นปูชนียบุคคลไม่ได้

และที่สำคัญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาสนา นั่นคือ "ธรรม" มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ไม่ต้องให้ใครสร้าง แม้นแต่พระภูมี ก็ไม่ได้ทำตนจนศักดิ์สิทธิ์ หากแต่ทำตนเป็นผุ้มีคุณสมบัติ และเป็นผู้ถืออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือ ธรรม และมีสิทธิ์ให้อำนาจนี้แก่ผู้ที่มีคุณสมบัติไปช่วยตน นั่นคือ สาวก

ดังนั้นการกราบไหว้ พระพุทธ จึงทำให้เกิดความร่มเย็นไม่ได้ หากแต่การนำธรรมคำสอนไปปฏิบัติต่างหาก นั่นคือ การกราบไหว้พระพุทธที่แท้จริง และเกิดความร่มเย็นในชีวติ

พุทธวจนะที่ทรงตรัส จึงมีว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต"

บุญของพระภูมี อยากได้ ก็จึงหาใช่เพียงนำกายไปไหว้พระพุทธ หากแต่ต้องน้อมนำเอาธรรม บางสิ่งบางอย่าง มาปฏิบัติ ให้เกิดสุขแก่มนุษย์และสัตว์ .... ลดนิสัยลงเป็นบางสิ่งบางอย่าง จึงบังเกิดเป็นบุญ

การหายโรค ด้วยแนวทางพระภูมี จึงว่าง่ายก็ง่าย ยากก็ยาก เพราะเมื่อมีสมุนไพรแล้ว ก็แค่ปรับเปลี่ยนนิสัยพฤติกรรม ลดนิสัยลงบางสิ่งบางอย่าง เท่านั้นเอง เคยโกรธคน ๒๔ ชั่วโมง ก็ลดน้อยลง เริ่มจากเหลือ ๒๓ ... ๒๒ จนทำไม่โกรธได้ แม้นเพียงข้อเดียว โรคก็เผ่นป่าราบแล้ว

หากแต่มาทานสมุนไพร แล้ว พฤติกรรมนิสัยยังอยู่ครบ ... หลวงพ่อนิพนธ์จึงตอกย้ำว่า ... ไม่มีทาง อย่างดีก็ประทัง หรือยืด เท่านั้นเอง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลก จึงมีตามธรรมชาติ ใครก็สร้างไม่ได้ เป็นบัญญัติฟ้าดิน มีคู่มากับโลก อย่างแรก เป็นเจ้าของโลกใบนี้ นั่นคือ กรรมศักดิ์สิทธิ์ โรคที่เป็นบริวารกรรม จักมาเหนือไม่ได้เลย มาทำให้ตายก่อนพรหมลิขิต จึงไม่ได้ อย่างที่สอง คือ ธรรมศักดิ์สิทธิ์ ที่พิสูจน์โดยพระพุทธเจ้าทุกข์พระองค์ แล้วว่า มีอำนาจเหนือกรรม หากแต่มีข้อจำกัด คือ ใครทำ ใครได้ ... อยากได้ต้องสร้างคุณสมบัติ ด้วยการลดนิสัย โลภ โกรธ หลง

ของจริงจึงต้องทำเอง อันเป็นธรรมหมวดแรกที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสอน คือ หมวดตน อันได้แก่ "ตนพึ่งตน" นั่นเอง ส่วนของปลอม นั่นสอนให้นั่งขอ ไม่ต้องทำเอง ขอให้ตาย ก็ได้แต่ลม เจอกรรมของจริงเมื่อไหร่ .... ดูไม่จืด เผ่นป่าราบกันหมด

ไกด์พม่า ได้ยินหลวงพ่อนิพนธ์สอนคณะผู้ติดตาม จึงกล่าวว่า พูดลบหลู่พระธาตุเยี่ยงนี้ ขาลงเสลี่ยงต้องตก มีใครเจ็บตายกันบ้างหล่ะ แต่ปรากฎว่า ทุกคนปลอดภัยดี และเมื่อหลวงพ่อนิพนธ์ซึ่งเดินเป็นคนสุดท้ายเข้าโรงแรม ฝนฟ้าก็ถล่มทลาย จนไกด์ต้องอุทานว่า เป็นไปได้อย่างไร

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44